• November 2, 2017

    1 Back Link
    ลิงก์ภายในไซต์ และ ลิงก์ภายนอกไซต์
    ด้วยอัลกอลิทึมของ Google ไม่ว่าจะเป็นแพนดา แพนกวินก็ตาม การทำ Backlink กลับมาเยอะๆภายใน 1-2 วัน แบบเข้ามาเป็น 100 ลิงก์ ผิดปกติ จะมีผลเสียมาก จนบางที Google Console ทนไม่ไหวต้องส่ง Message มาบอกเรา ว่ามีการทำ SEO มากเกินไป หรือเรียกว่า Over SEO
    ฉะนั้นการจะทำ Backlink ต้องระวังไม่ควรอัด Backlink ทีเดียว เพราะอาจจะทำให้มีผลเสียมากกว่าผลดี

    2 Malicious Backlinks
    คือลิงก์ที่อันตรายต่างๆ และเชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของเราอาจจะโดนแกล้ง หรือ โดนยิงโดยวิธีต่างๆ ถ้าเราเช็คได้ควรรีบจัดการด่วน โดยใช้เครื่องมือ Disavow Tool ของ Google Search Console ทำการลบลิงก์ที่ไม่ต้องการออก https://www.google.com/webmasters/tools/disavow-links-main?pli=1

    3 Buying Links
    แน่นอนการซื้อ Text Link ย่อมมีทุกที่ทุกสมัย ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีความเชี่ยวชาญในการซื้อมากน้อยเพียงใด
    จากเดิมที่มีการซื้อเป็นจำนวนมาก หรือบางทีมีการซื้อเป็น Network ซึ่งวิธีนี้อาจจะมีการใช้บ้างในปัจจุบันแต่ก็ต้องระวังเป็นอย่างมากด้วย

    หลักการซื้อลิงก์ควรดูอะไรบ้าง ?
    ส่วนใหญ่ถ้าเจอคีย์โหดๆยากที่จะไต่อันดับได้แล้วนั้น ก็ควรจะมีการซื้อลิงก์ที่มาจากเว็บที่มีคุณภาพบ้าง  โดยเว็บที่เลือกซื้อควรมีเนื้อหาเดียวกันกับ Keyword ของเรา โดยเราอาจจะเช็คจากค่า SEO ต่างๆเพิ่มเติมไปด้วย เช่น เช็คค่า DA, เช็คค่า PA เป็นต้น ซึ่งวิธีนี้ยังได้ผลค่อนข้างดีสำหรับคีย์ยากๆ

    4 Reciprocal Links
    การแลกลิงก์ปัจจุบัน เป็นอันตรายไปแล้ว ถ้าใครมาขอแลกลิงก์ควรไตร่ตรองให้รอบคอบ ไม่ควรแลกโดยไม่คำนึงถึงว่าเว็บที่แลกเป็นเว็บประเภทธุรกิจเดียวกันหรือเปล่า มีความเกี่ยวข้องกับ Keyword ของเว็บเราหรือเปล่า
    เพราะถ้าคุณแลกลิงก์เป็นจำนวนมากในเวลาไม่กี่วันและไม่สนใจว่าเว็บเหล่านั้นเป็นเว็บอะไร

    5 Footer Links
    ลิงก์ที่มีการติดไว้ส่วนท้ายของเว็บและตามไปทุกหน้า ถ้าเว็บเอาไปติดมีจำนวนหน้าเป็นแสนหน้า มีลิงก์กลับมาหาเว็บคุณ จริงๆเคสนี้จะคล้ายๆ ลิงก์ประเภท Reciprocal Links อาจมีผลต่อ Seo ของคุณได้ แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่ถ้าคุณรู้จักเลือกเว็บดีๆเกี่ยวข้องกับ Keyword ของคุณจริงๆ

    6 Hidden Links
    การทำ SEO ถ้าคุณทำแบบเก่าๆ คืออัด Keyword ลงไปหน้านั้นจนจำนวน Density Keyword เยอะขึ้นมหาศาล แล้วยังซ้อน Keyword อีก แน่นอนคุณจะโดน Google มาทำโทษแน่ๆ

    7 Anchor Text Overuse
    Text Link ที่เป็น Keyword สามารถคลิกได้ ตัวอย่างเช่น <a href=”http://www.cymiz.com”>รับจ้างโพสเว็บบอร์ด</a> เป็นวิธีที่ควรทำทั้งภายในไซต์และนอกไซต์ แต่ไม่ใช่ในหน้านั้นๆ บทความนั้นๆ มีลิงก์จำนวนเยอะเกินไป
    แนะนำ1 ลิงก์ ต่อ 1 บทความ วิธีนี้เซฟสุด ถ้ามีหลายบทความก็ควรกระจายลักษณะตัวอักษรด้วย เช่น
    1.  ทำ Anchor text เป็นตัวอักษรหนา เช่น “รับจ้างโพสเว็บบอร์ด”
    2. ทำ Anchor text เป็นตัวอักษรขีดเส้นใต้ เช่น “รับจ้างโพสเว็บบอร์ด”
    3. ทำ Anchor text เป็นตัวอักษรขีดเส้นใต้ และตัวอักษรหนา เช่น “รับจ้างโพสเว็บบอร์ด”
    นอกจากนี้แล้วเราก็ไม่ควรอัดแต่ Keyword เดียว ควรจะมีการกระจายไปลักษณหลายๆคำ ผมขอเรียกว่า คีย์รองๆ
    เช่น คีย์หลัก คือ รับจ้างโพสเว็บบอร์ด คีย์รองก็จะเป็น รับโพสเว็บบอร์ด, จ้างโพสเว็บบอร์ด, รับโปรโมทสินค้า เป็นต้น

    8 Duplicate Content
    เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องระวังเหมือนกัน Google จะเช็คได้ว่าบทความนี้อยู่ในเว็บไหนบ้าง และถ้าวางอยู่หลายๆเว็บ Google จะเลือกเอาบทความที่เป็นต้นฉบับจริงๆขึ้นมาอันดับแรกๆก่อนเลย เพราะฉะนั้นถ้าจำเป็นต้องใช้บทความนั้น คุณควรรีไรท์ใหม่ทุกครั้ง “จะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด”
    (ในความเป็นจริงข้อนี้ ไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป สมมติคุณเขียนบทความหนึ่งที่ดีมาก ต่อมามีเว็บใหญ่ๆ เอาไปใส่เว็บตัวเอง อันดับคีเวิร์ดของคุณอาจสู้เขาไม่ได้เพราะ SEO มีหลายปัจจัย แต่ของคุณมีแค่บทความที่เขียนก่อนแค่นั้น)

    9 Keyword Stuffing
    อัด Keyword เดียวทั้งหน้า ให้ได้เป็นร้อยคำ เมื่อก่อนได้ผล ปัจจุบันคุณอาจจะโดน Google ทำโทษได้

    10 Hidden Content
    บางเว็บใหญ่เกี่ยวกับ e-Commerce เล่นซ่อนบทความที่เกี่ยวกับรายละเอียดสินค้าที่โชว์อยู่ คือ ประมาณว่ามีบทความเหมือนกันอยู่ในหน้าเดียว และซ่อนไม่ให้เห็นอีกบทความ โดยที่รายละเอียดซ่ำกัน ทำแบบนี้ทั้งไซต์



เวอไนน์ไอคอร์ส

ประหยัดเวลากว่า 100 เท่า!






เวอไนน์เว็บไซต์⚡️
สร้างเว็บไซต์ ดูแลเว็บไซต์

Categories