7 ขั้น ในการเพิ่มพลัง SEO
Step 1: Buy an Aged Domain
หนึ่งในความลับของผม น่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำ SEO เมื่อเริ่มธุรกิจออนไลน์
ซื้อ โดเมนเก่าเมื่อผมวิเคราะห์คู่แข่ง ว่าผมกำลังสู้อยู่กับใคร ผมต้องเจอคู่ต่อสู้ที่มีอายุเวบไซด์ที่มากกว่า 3 ปี และในตลาดที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดผมต้องเจอคู่แข่งที่มีเวบไซด์มากกว่า 8-14 ปีแน่นอนว่า เขาเหล่านั้นได้ทำ SEO มาเป็นเวลานาน และและได้ผ่านหูผ่านตา Search Engine ยังให้ความสำคัญกับความเก่าแก่ของโดเมนเหล่านั้นอย่างมาก
เพื่อแน่ใจว่า เราเริ่มอย่างถูกต้อง ผมจึงให้ซื้อโดโมนเก่า ซึ่งเคยถูกใช้งาน และ ไม่เคยถูกดรอปโดย domain registrars.(การดรอปทำให้โดเมนเริ่มนับอายุใหม่ และไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ)
มีหลายที่ที่สามารถซื้อโดเมนเก่า อย่างเช่น http://www.ebay.com http://www.sitepoint.com http://www.digitalpoint.com
นั่นคือที่ที่สามารถประมูลโดเมนมาได้ และคุณสามารถได้โดเมนเก่าในราคาถูก
แต่ที่ผมชอบที่สุดคือ ประมูล ที่ godaddy http://auctions.godaddy.com
Step 2: Submit Your Site to the Web
Directories ในการซับมิต เวบบนเวบไดเรคทอรี่ ยังคงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการทำ อินเด็กซ์บนsearch engine แต่ไม่เฉพาะตามผู้ให้บริการฟรีซับมิต แต่รวมไปถึงแบบจ่ายเงิน อย่าง yahoo ก็เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมาก และพยายามหาเวบที่บอท เข้ามาบ่อยๆไปซับมิต ถ้าสามารถได้จาก DMOZ ได้ยิ่งดี (ปัจจุบันมันเจ๊งไปล่ะ เพราะ มีมาเฟียในนั้น และ เป็นเว็บไที่ร้มาตรฐานการดำเนินงาน คือ คนที่เป็นแอดมินก็เอาเว็บตัวเองไปใส่ และก็ไม่ได้สนใจจะใส่เว็บที่มีคนส่งเข้ามา)
Step 3: Choose Keywords การ เลือกคีย์เวิร์ดเป็นสิ่งสำคัญ ผมไม่ได้หาคีย์เวิร์ดที่มีทราฟฟิคเพียงอย่างเดียว แต่ที่สำคัญกว่า ผมหาคีย์เวิร์ดที่มีอยู่ในตลาดที่มีการซื้อ
คุณน่าจะเคยได้ยินคำว่า Long tail keywords ผมจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนตั้งชื่อ แต่คงฉลาดกว่าผมแน่ๆ เขาได้ค้นพบว่า ทราฟฟิค 80 % มาจากคีย์เวิร์ดยาวๆ และ 20%มาจาก คีย์เวิร์ดสั้น
มีเครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดจำนวนมาก ที่จะช่วยคุณหาคีย์เวิร์ด ที่ผมชอบมากที่สุดคือ google external keyword tool ทำให้ได้ข้อมูลดีๆ ที่เป็นประโยชน์ และอีกอันที่ชอบคือ word tracker
โดยผมจะเลือก 10-20 คีย์เวิร์ดในระดับกลางๆ มาทำ แล้วไปที่
1.http://www.NicheWatch.com
2. ใส่คีย์เวิร์ดที่เลือกไว้ แล้วคลิก check completion
3.รอผลออกมา
ดูในช่อง anchor กับ title สองอันนี้ทำให้ได้ไอเดีย ในการทำ SEO
มอง หา – dash ในคอลัมนี้ และ ดูเลขต่ำๆ และแดช ถ้าเต็มไปด้วยจำนวนต่ำๆ และไม่มีแดช ควรกลับไปมองคีย์เวิร์ดอื่น คีย์เวิร์ดที่ดีควรเต็มไปด้วยแดช
Step 4: Study Your Competition
ศึกษาคู่แข่ง
สิ่งแรกที่ทำคือ เลือกคีย์ที่จะทำใส่ใน google search มองหาเวบไซต์ ที่อยู่ในสิบอันดับแรก นี่คือคู่แข่งเรา
สิ่งที่จะต้องคำนึงสำหรับคู่แข่งของเราใน 10 อันดับแรก คือ
1. อายุของเวบไซต์เหล่านั้น
2. ขนาดของเวบไซต์
3. แบ็คลิงค์,จำนวน,คุณภาพ และ ตำแหน่ง
วิธีง่ายๆ ที่จะดูจุดเด่นของคู่แข่งของเราคือ http://www.SpyderMate.com สามารถใช้บริการได้ฟรี ลงทะเบียนไป
แค่ ใส่ url ของคู่แข่ง ที่ต้องการข้อมูล แล้วซับมิตไป จะเห็นถึงกราฟของคู่แข่ง และได้เห็นถึง คะแนน algorithm เช่น score, age, number of backlinks and
page rank. ของคู่แข่งเรา ทำให้เรารู้ว่าเราควรจะแข่งในคีย์เวิร์ดนี้หรือไม่
Step 5: Creating a Baseline
การสร้าง baseline เป็นวิธีการที่เกือบจะสำคัญที่สุดในการศึกษาคู่แข่ง ในการวิเคราะห์คู่แข่ง ผมจำเป็นต้องรู้อายุของเวบไซต์ของเขา ขนาดของเวบเขา จำนวนแบ็คลิงค์ แล้วลิสมันออกมา แล้วจะได้รู้ว่า อะไรที่ผมจะต้องเจออะไรในการแข่งขัน
ยกตัวอย่างเช่นในตลาด Olive Oil ผมต้องการชนะในตลาด organic olive oil ซึ่งซึ่งผมรู้ว่า มีแค่ Pr4 pr3 และ pr 2 อีก โหลนึง
ดูตามในลิสนี้
PR4 = 5
PR3 = 7
PR2 = 12
PR1 = 14
PR0 = 20-50
N/A = 50-100
ข้อมูลตรงนี้ผมสามารถนำไปทำแผนเพื่อทำ SEO ต่อไป
เครื่องมืออีกอันที่ผมชอบใช้เช็คคู่แข่ง คือ http://www.SEMrush.com
Step 6: Develop SEO Pages
ผมมักจะไม่ทำอะไรมากกับ on page ผมจะปรับแค่ตรง title ให้ตรงกับ คีย์เวิร์ด เวลาทำ SEO ผมแค่คิดว่าที่ไหนที่จะส่งลิงค์ โดยไม่จำเป็นต้องให้ติด index ทั้งหมดของเวบที่ทำ ประมาณ 90 % ของการทำ SEO คือ GETTING LINKS!!!
คีย์เวิร์ดใน title tag ถ้าทำได้ควรใส่ใน url ได้ยิ่งดี ผมได้ทดสอบว่าหลายคีย์เวิร์ดที่ใส่ใน url ของเรา มันสามารถทำอันดับดีใน search engine ได้ ผมไม่ได้หมายถึงเฉพาะชื่อ โดเมน แต่หมายถึง domain.com/keyword ด้วย
Step 7: Punching your site with Backlinks