ประเทศแถบตะวันตก : เน้นให้คนเรียนรู้เองไม่ต้องเรียนหนัก เน้นกิจกรรม ไม่ต้องแข่งขันกันมาก สนับสนุนให้ไปทางอาชีวะ ยอมรับความสามารถต่างๆของแต่ละบุคคล เพื่อเป็นแรงงานฝีมือแบบเฉพาะตัว โดยบางประเทศ หลังจบมัธยมต้นก็จะสนับสนุนให้เรียนสายอาชีพ เก่งเฉพาะทางไปเลย แะลรยได้ทุกอาชีพ ใกล้เคียงกัน ไม่ได้แตกต่างเหมือนในแถบตะวันออก

ประเทศแถบตะวันออก : เน้นสอนให้ เรียนหนัก แข่งขันเพื่อให้ได้คนที่เก่งที่สุด วัดจาก   คะแนนและผลสอบ วุฒิการศึกษา เน้นไปที่สายสามัญ ตรี โท เอก ให้ความสำคัญแต่ความรู้พื้นฐานที่ทุกคนต้องมีเหมือนกันหมด ซึ่งไม่ได้สร้างความแตกต่าง กลายเป็นต้องแข่งขันกันโดยปริยาย สร้างคนออกมาเป็นแบบ Mass Production ไม่ให้มีใครแปลกแยกออกไป

ระบบการศึกษาในไทย สอนให้คนเป็นลูกจ้าง ไม่ใช่เป็นเจ้าของธุรกิจ

ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ ก็คงอยากจะได้ลุกจ้าง พนักงานเก่งๆมาทำงาน คุณคงไม่สนับสนุนให้คนเหล่านั้นเป็นเจ้าของธุรกิจ ที่อาจจะแข่งขันกับธุรกิจของคุณได้ ดงันั้นการสนับสนุนต่างๆ ของเจ้าของธุรกิจ ก็เป็นไปเพื่อให้ได้แรงงานลูกจ้างมา การให้ทุนต่างๆ รวมถึง ภาครัฐก็ยังคงมีนโยบายเดิมไม่ได้เปลี่ยนไป สำหรับการสร้างแรงงานป้อนประเทศ คนที่จะหลุดพ้นจากระบบนี้ได้ ต้องแตกต่างจริงๆ ต้องผ่านแรงเสียด อุปสรรคต่างๆ ในการที่จะก้าวข้ามมาสู่ความเป็น เจ้าของธุรกิจของตัวเอง

เจ้าของธุรกิจ อย่าง เช่น แม่ค้าขายอาหาร ส้มตำ ขายของออนไลน์ ฯลฯ เหล่านี้ ยังขาดความรู้ที่จะนำไปพัฒนาธุรกิจของตัวเองได้ แถมอาจจต้องแข่งกับรายใหญ่ อีกด้วย โดยรัฐก็ไม่ได้มีมาตรการป้องกันที่เพียงพอ กลายเป็นปลาเล็กกินปลาใหญ่ นอกจากนี้ เทคโนโลยี่ อินเตอร์เน็ต แพลตฟอร์มออนไลน์ ต่างๆที่จะนำมาช่วยธุรกิจ ก็ยังเป็นความรู้ที่ เหล่าเจ้าของกิจการรายเล็กๆ โดยเฉพาะรุ่นก่อนๆ ไม่มีความสามารถจะเข้าถึง อาจเป็นที่ความคิด ความรู้ที่มีอยู่ของแต่ละคน

ประเทศที่ระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก 10 อันดับ

เว็บไซต์เวิลด์อีโคโนมิกฟอรั่ม เผยแพร่บทความที่ตีพิมพ์ร่วมกับเว็บไซต์บิสสิเนสอินไซเดอร์ในสหราชอาณาจักร เกี่ยวกับผลการสำรวจของอินเตอร์เนชั่นส์ ซึ่งเป็นเครือข่ายผู้ที่ใช้ชีวิตและทำงานอยู่ในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก

อันดับ 1 ฟินแลนด์ 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าคุณภาพการศึกษาที่นั่นยอดเยี่ยม ค่าเฉลี่ยของผู้ที่ระบุว่าคุณภาพการศึกษายอดเยี่ยมทั่วโลกอยู่ที่ 21%
อันดับ 2 สิงคโปร์ ชาวต่างชาติในสิงคโปร์ไม่พอใจเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในสิงคโปร์ แต่ 53% ของชาวต่างชาติที่มีลูกระบุว่า คุณภาพการศึกษาของสิงคโปร์ยอดเยี่ยม 53% ของผู้ทำงานในต่างประเทศที่มีลูกในสิงคโปร์เห็นว่าคุณภาพการศึกษานั่นยอดเยี่ยม
อันดับ 3 สวิตเซอร์แลนด์ คุณภาพการศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ในกลุ่มที่ดีที่สุดในโลก
อันดับ 4 เกาหลีใต้ 47% ของชาวต่างชาติที่มีลูกระบุว่าคุณภาพการศึกษาที่นั่นยอดเยี่ยม ขณะที่ผลการสำรวจในปีที่แล้วอยู่ที่ 22%
อันดับ 5 ฮ่องกง ฮ่องกงติดอยู่ใน 3 อันดับสุดท้ายทั้งในด้านค่าใช้จ่ายและการเข้าถึงการศึกษา แต่ว่าคุณภาพของการศึกษาจัดอยู่ในกลุ่มยอดเยี่ยม
อันดับ 6 อิสราเอล 84%ของพ่อแม่ชาวต่างชาติในอิสราเอลเห็นว่ามาตรการการศึกษาที่นั่นน่าพอใจ
อันดับ 7 เบลเยียม ปีนี้หนึ่งในสามของพ่อแม่ชาวต่างชาติที่ทำงานในเบลเยียมเห็นว่าคุณภาพการศึกษาในเบลเยียมดีมาก ปีที่แล้วตัวเลขนี้อยู่ที่ 17%
อันดับ 8 ไต้หวัน ไต้หวันรั้งอันดับหนึ่งในด้านประเทศหรือดินแดนที่ดีที่สุดโดยรวมสำหรับผู้ที่ทำงานในต่างประเทศ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคุณภาพการศึกษา อย่างไรก็ตามมีพ่อแม่ชาวต่างชาติที่ทำงานที่นั่นเพียง 3% เท่านั้นที่ระบุว่าสามารถรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งด้านการดูแลเด็กและการศึกษาโดยไม่ลำบาก
อันดับ 9 เนเธอร์แลนด์ ติดอันดับที่ 30 ประเทศหรือดินแดนที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ทำงานในต่างประเทศ และติด 1 ใน 10 ในผลการสำรวจด้านคุณภาพการศึกษา
อับดับ 10 ออสเตรเลีย พ่อแม่ชาวต่างชาติที่ทำงานที่นั่น 64% ระบุว่า รับภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาได้ไม่ลำบาก สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งโลกซึ่งอยู่ที่ 45% ขณะที่คุณภาพการศึกษาก็เป็นที่พอใจในบรรดาผู้ตอบแบบสอบถาม 84%

อินเตอร์เนชั่นส์ได้สอบถามคนที่ทำงานในต่างประเทศ 14,300 คน ซึ่งมาจาก 174 ประเทศ และอาศัยอยู่ใน 191 ประเทศหรือดินแดน โดยพวกเขาได้ประเมินหัวข้อต่าง ๆ เกี่ยวกับชีวิตในต่างประเทศ 43 ด้าน รวมถึง ด้านสุขภาพ ความปลอดภัย ค่าครองชีพ และคุณภาพการศึกษา โดยในด้านการศึกษาได้สอบถามจากชาวต่างชาติที่มีลูกต้องรับการศึกษาในประเทศนั้น ๆ
https://www.bbc.com/thai/international-39599359

สิ่งที่เราต้องรู้ เกี่ยวกับ การศึกษา

ไทยเราเรียน ตั้งแต่เด็กจนจบ มหาวิทยาลัย แต่ปรากฏว่า สิ่งที่เรียนมาทั้งหมด เกือบ 20 ปี แทบไม่สามารถใช้ในการทำงาน หรือ ในชีวิตประจำวันได้ ไม่คุ้มค่าในทางยุทธศาตร์

คนที่จบมหาวิทยาลัย
ภาษา : ไม่สามารถ พูดอ่านเขียน ภาษาอังกฤษได้
คอมพิวเตอร์ : ไม่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ในระดับทำงานได้ โปรแกรม word excel

จะพบ ว่า มีความรู้ที่เรียนศึกษาเอง เพื่อทำธุรกิจของตัวเอง ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมไม่เรียนมันตั้งแต่แรกละ เพื่อสร้างความเป็นอัจฉริยภาพทางสายวิชา โปรแกรมมิ่ง เว็บไซต์ การเงิน การบริหารธุรกิจ ..

ปัจจุบัน มีอาชีพใหม่ที่สร้างรายได้มหาศาล เคสเกมส์ นักกีฬาอีสปอต ยูทูปเบอร์ bloเger เจ้าของเพจช่องเฟสบุ๊ก ฯลฯ

การเรียนที่คุ้มค่า

20 ปีที่ต้องเรียน อนุบาล-ปตรี ลองลิส วิชาความรู้ที่เรียนกันจริงๆ มีอะไรบ้าง อะไรที่ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ในอาชีพ ถ้าในอาชีพก็ต้องเลือกเรียนสายอาชีพ หรือ คณะที่ใกล้เคียงที่สุด แต่ในความเป็นจริงในระบบการศึกษาไทยไม่ได้ตอบโจทย์อย่างนั้นได้

ที่คุ้มค่ากับศักยภาพของมนุษย์คือ การดึงเอาพรสวรรค์หรือความถนัด แต่ละคนออก แล้วส่งเสริมให้เป็น Expert ในด้านนั้นๆ แต่ก็อย่างว่า คนเรียนมากกว่าคนสอน อีกทั้งค่าใช้จ่ายก็เเพง หากพ่อแม่มีความสามารถก็อาจสิ่งเหล่านี้ให้ลูกได้ ถ้าไม่นับรวมเรื่องว่าต้องให้เด็กมีสังคมมีเพื่อนนะ แต่ก็สามารถบาล๊านได้ ถ้าบริหารจัดการดีๆ การให้เด็กมีกิจกรรมต่างๆ