• December 23, 2021

    มีผลกับไมโตคอนเดรีย ทำให้คืนความหนุ่มสาว

    การศึกษาวิจัย เกี่ยวข้องสารเรสเวอรทรอล

    กลไกการออกฤทธิ์ที่ผิวหนังของเรสเวอราทรอล พบว่า
    มีผลต่อการส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ (cellular signaling mechanisms) ที่เกี่ยวข้องกับการทำลายผิวหนังจากรังสีอัลตร้า ไวโอเลต ได้แก่ Mitogen Activated Protein enzymes (MAP) kinase, Nuclear Factor kappa B (NF-kB) และ MatrixMetalloproteinase (MMPs) จึงสามารถป้องกันการเปลี่ยนแปลง ของโครงสร้างของผิวหนังที่ถูกทำลายจากรังสีอัลตร้าไวโอเลตได้

    และในการศึกษาทางเภสัชวิทยาของเรสเวอรเทรอล พบว่า
    สามารถลดอาการเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจได้ถึง 40%
    ยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระยับยั้งการรวมตัวตกตะกอนของเลือดได้ดีช่วยในการควบคุม metabolism ของไขมันลดการอักเสบของเนื้อเยื่อลดการเกิดเนื้องอกของมะเร็ง และ สามารถป้องกันการเกิดโรคการเสื่อมของเส้น ประสาทสมอง โดยเฉพาะโรคอัลไซเมอร์และ พาร์กินสันได้อีกด้วย

    มีการวิจัยศึกษาแบบ Triple – blinded control ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจ 75 คน โดยการแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 3 กลุ่ม
    กลุ่มแรกให้รับประทาน resveratrol 8 mg.
    กลุ่มที่สองให้ทานยาหลอก (maltodextrin)
    กลุ่มที่สามให้ทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากองุ่น แต่ไม่มีส่วนผสมของ rerveratrol

    เป็นเวลา 6 เดือน และเพิ่มปริมาณเป็น 2 เท่าในอีก 6 เดือนต่อมา
    ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มที่รับประทาน resveratrol มีระดับ c-reactive protein (CRP) Tumor necrosis factor & PAI1 (Plasminogen activator inhibitor type1) ลดลงและมีระดับ interleukin – 10 เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยด้านการอักเสบจึงมีผลทำให้สามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจในผู้ป่วยที่รับประทานได้

    การศึกษายังพบว่า resrveratrol ทำงานให้ผลคล้ายคลึงกับ Statin ซึ่งเป็นยาลดคอเลสเตอรอลอีกด้วย
    มีรายงานจากการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารของประเทศฟินแลนด์ เมื่อปี 2007 ระบุว่า
    การดื่มไวน์วันละแก้วจะทำให้ร่างกายได้รับสารเรสเวอราทรอล ช่วยชะลอวัย

    ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่าการดื่มไวน์จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
    โดยสารเรสเวอราทรอลสามารถเปลี่ยนแปลงระดับไขมันคอเลสเทอรอลในเลือด โดยเพิ่มระดับของ HDL หรือคอเลสเทอรอลแบบดีให้สูงขึ้น และป้องกันไม่ให้เลือดเกาะกันเป็นก้อน การดื่มไวน์เพียงวันละหนึ่งแก้วจึงช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดโรคหัวใจได้ 30-40% และช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อม รวมถึงป้องกันโรคเบาหวานด้วย

    เรสเวอราทรอลยังมีฤทธิ์ในทางคลินิกอีกหลายประการ เช่น
    ต้านอนุมูลอิสระต้านการอักเสบ
    ต้านมะเร็ง
    ต้านการเกาะกลุ่มกันของเกล็ดเลือด
    โดยทรานส์-เรสเวอราทรอล มีฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระดีกว่าวิตามินซีและวิตามินอี แต่มีฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระได้ดีไม่แตกต่างจากอีพิคาเทซิน (epicatechin) และเคอร์ซีติน (quercetin)

    มีความเป็นพิษต่ำ ไม่ควรใช้ในขนาดที่สูงจนเกินไป หรือใช้ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานจนเกินไป
    เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ มีรายงานว่าใช้มากกว่า 500-1000 มิลลิกรัม/วัน และผู้ที่ใช้ในปริมาณปกติแต่ใช้เป็นระยะเวลานาน (7วันขึ้นไป) พบว่ามีอาการท้องร่วง ปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องอืด ท้องเสีย 



เวอไนน์ไอคอร์ส

ประหยัดเวลากว่า 100 เท่า!






เวอไนน์เว็บไซต์⚡️
สร้างเว็บไซต์ ดูแลเว็บไซต์

Categories


Uncategorized