• August 8, 2018

    +https://www.bisongrid.uk/blog/top-10-ecommerce-cms-2018/
    +https://www.cloudways.com/blog/top-ecommerce-platforms/
    +https://blog.aheadworks.com/magento-2-contributes-to-the-global-ecommerce-platforms-market/
    +https://www.bisongrid.uk/blog/top-10-ecommerce-cms-2018/

    +https://web.facebook.com/search/top/?q=ชมรม%20คนทำเว็บ

    เว็บใช้ Magento (ตัวอย่าง pumpkin.co.th)
    มีหน้าสินค้าประมาณ 8,000 รายการ
    มีระบบสมาชิก เปรียบเทียบสินค้า ฯลฯ
    
    ถ้าจ้างทำ..
    
    1. ค่าทำเว็บเท่าไร
    2. ลงสินค้า 8,000 รายการ เท่าไร
    3. ใช้ hosting VPS ราคาเท่าไร (share host อาจไม่ไหว!)
    4. การดูแลทั่วไป ไวรัส อัพเดท คิดกันเท่าไร (ไม่รวมการลงสินค้า)
    5. ถ้าได้ฟังก์การใช้งานเหมือนกันหมด แต่เป็น woocommerce ราคาจะต่างกันมากไหม

    เรทส่วนตัว ดูเว็บเล็กๆ รับออเดอร์ มีค่ารายเดือนและ ลงข้อมูลสินค้ารายการละ 5 บาท(มีหลายรูปต่อรายการ)
    woo น่าจะเบากว่าเยอะ หมายถึงการใช้ทรัพยากรโฮสนะครับ
    ค่าทำนี่ ต่ำๆน่าจะ 50-60k ลงสินค้า ชิ้นละ 10 บาท ค่าเช่าโฮส เดือนละประมาณ 4000 สนใจติดต่อได้จ้า
    Magento2 มีระบบการทำ Theme / Development ที่ยากกว่า Platform อื่นๆ แต่ก็มีความเสถียร์สูงกว่า
    มีระบบการจัดการหลังบ้านต่างๆที่ครอบคลุมการใช้งานทั้งหมดและใข้ทรัพยากรสูงมากค่ะ จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เราเคยทำมาหลายๆเว็บถ้าใช้ server ถูกๆนี่ ง่อยเลย
    Magento ใช้โหดๆ เอาเนียนๆ ผมเห็นลูกค้าผมคิดที่ 200-300k นะระยะยาวมีปัญหาแน่นอนถ้าเป้นมาเจนโต้ แล้วเจอแบบไม่เข้าใจลึกพอ ตายหยั่งเขียด
    ขึ้นอยู่กับการวางระบบแหละ ถ้าเซ็ตไว้ดี คนใช้ไม่จำเป็นต้องเข้าใจมากก็ได้ แยกงานตามฟังก์ชั้น สามารถทำงานได้ ไม่ล่มง่ายๆ

    สมัยก่อนเว็ปคูปองอันดับใหญ่ๆของไทย เว็ปเข้าแค่ไม่กี่หมื่นคน ใช้เครื่องราคา 2 แสนกว่าบาทรวมแล้วยี่สิบกว่าตัวครับ เพื่อเอามาแบกรับ Magento ที่วางโครงระบบและทำทีมไว้ไม่ค่อยดี
    อินฟรามันแค่ส่วนน้อยครับ ปัญหาหลักมันอยู่ที่โค๊ด ผมไม่พูดถึงคนทำ themes ที่ไม่มีมาตรฐานตามที่ Magento แนะนำ หรือวางไว้ แล้วระบบที่แฮกทำส่วนอื่นไปจนทำให้มีปัญหาครับ
    เอากะอีแค่ wordpress นี่เจอคนทำมาไม่ดีมั่วๆปัญหายังแก้ไม่รู้จบ Magento ไม่ต้องพูดถึงครับ หนักกว่าเยอะ
    สินค้า 8 พันชิ้น คงไม่ใช่ไม่มีทุน เจอคนทำที่มีมาตรฐาน มีความรู้คลอบคลุมทำออกมาทีเดียว ใช้ระยะยาว คุ้มกว่าเยอะครับ เพราะถ้ามันรันไปแล้ว ตอนกำลังรุ่งเรือง แล้วมีปัญหาที่มันแก้ไม่จบเสียหายเยอะกว่าสามแสนครับ

    Magento ระบบมันซับซ้อนว่า wordpress มากค่ะ คนทำต้องเข้าใจจริงๆ

    +https://www.itoffside.com/free-download-sourcecode-ecommerce-php/
    +https://goragod.com/knowledge/แจกฟรี_สคริปต์_e_commerce_และ_ตะกร้าสินค้า.html

    แต่ผมไม่เข้าใจ ถ้าเกิดเลือกที่ตลาดใช้เยอะๆได้ จะมาใช้อันนี้ทำไม
    ไม่มี community support
    มีปัญหาก็ทำไรไม่ได้

    สรุป magento กับ woocommerce

    +https://themeisle.com/blog/woocommerce-vs-magento/

    ผมขอถามก่อนครับ เพื่อจะได้ประเมินคร่าวๆว่าเหมาะกับ CMS ตัวใด
    1. ประเภทสินค้า (ขายสินค้าจริง เช่น เสื้อผ้า, ขายออนไลน์เท่านั้น เช่น จองโรงแรม ขายภาพ)
    2. จำนวนสินค้า
    3. ต้องการระบบจัดการบัญชีแบบเป๊ะๆหรือไม่
    4. ใช้หลาย Theme หรือไม่
    5. เป็น site เดียวหรือ multisite
    6. เป็นคน custom ระบบเองหรือไม่
    7. ต้องการระบบจัดส่งแบบหลายๆช่องทางหรือไม่
    8. ต้องการระบบจัดการส่วนลดแบบ advance หรือไม่
    9. ต้องการ report หรือไม่

    1.สินค้าจริงเป็นชิ้น พวกฮาร์ดแวร์
    2.ประมาณ10,000ชนิด
    3.บัญชีถ้ารวมไปได้ก็ดี แต่ใช้ pos อยู่ ซึ่งก็มีปัญหาโปรแกรมไม่ได้คุณภาพ และอยากเปลี่ยน pos ด้วย
    4.ธีมเดียวก็พอ
    5.site เดียว แต่ pos ใช้เชื่อมไป ร้าน3สาขา
    6.ทำระบบ pos เองไม่เป็น แต่เว็บพอได้บ้าง
    7.จัดส่งหลายช่องทางก็ดี จะได้รองรับลูกค้า
    8.ต้องการ

    ถ้าเป็นเว็บที่คิดไว้อาจจะใช้ open cart หรือ woo หรือ อาจเขียนเว็บใหม่หากดีกว่า 2ตัวนี้มาก

    ระบบpos กำลังจาหาอันใหม่อยู่

    ถ้าเชื่อมเว็บได้ คงจะดีมาก

    จากข้อมูลที่ให้มาบวกกับ CMS ของแต่ละเจ้าแบบเดิมๆ ผมขอตอบว่าเลือก woocommerce น่าจะโอเคกว่าครับ ทั้งเรื่องการจัดการสินค้า และการเขียน content ที่จัดการได้ง่ายกว่า แต่ห่วงเรื่องเดียวคือ table บวม เพราะ สินค้าเยอะมาก wp เก็บข้อมูลแบบ key value อยู่ในตารางเดียว

    แต่หากให้ผมเลือกตัวอื่นๆผมจะเลือก Prestashop เพราะระบบค่อนข้างรองรับมากกว่า woocommerce และ opencart แต่ข้อเสียคือหากจะ custom อะไรหน่อยต้องเข้าใจ framework ของเค้าครับ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร

    ผมเรียงลำดับความง่ายไปยากในการใช้งานและ programming คือ
    opencart -> woocommerce -> prestashop -> magento

    ถ้าดูแลอย่างเดียวคิด10% (ไม่ลง content) เราต้องทำอะไรบ้าง?
    แบคอัพ ดูแลเรื่องไวรัส มัลแวร์ อัพเดท

    Open Source Ecommerce

    Open Source Ecommerce Solutions for Your Store
    +https://www.ecommerceceo.com/open-source-ecommerce/

    11 Best Open Source and Free Ecommerce Platforms for 2018
    +https://ecommerce-platforms.com/articles/open-source-ecommerce-platforms

    ตัวอย่างราคาทำเว็บทั่วไป

    บริการรับทำเว็บไซต์
    Packageราคาการชำระเงิน
    เว็บไซต์สำเร็จรูป12,500100%
    เว็บไซต์องค์กร25,00050% / 50%
    แคตตาล็อกออนไลน์32,00050% / 50%
    ขายสินค้าออนไลน์59,00050% / 50%

    เว็บไซต์ 2 ภาษา + เพิ่ม 30%
    Responsive website รองรับ โทรศัพท์มือถือ Tablet ทุกรุ่น + เพิ่ม 40%

    +https://www.thaishopdesign.com/

    การทำร้านออนไลน์ระบบตระกร้าซื้อขาย

    เมื่อก่อน Joomla (Virturemart) (เก่าแล้ว)
    ต่อมา wordpress + woocoomerce
    ใช้งานง่าย  Opentcart ออฟชั่นมาเต็ม (อาจจะเกินความจำเป็นที่เราใช้ด้วยซ้ำ) SEO แรง

    WordPress   ถูกสร้างขึ้นมา 20 ปี แล้ว ( เริ่มก่อตั้งปี 2003) เพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการทำเว็บบล็อคบทความ ปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มมากใช้ มีการใช้ทำ เว็บข่าว , เว็บวาไรตี้ ทั่วไป สำนักข่าวระดับแนวหน้า ทั้งในและต่างประเทศ ส่วนใหญ่ ก็ใช้ WordPress และสำหรับ Woocommerce ก่อตั้งเมื่อปี 2008 มันคือ ปลั๊กอิน หรือส่วนเสริม ระบบตะกร้า สำหรับการซื้อสินค้า ทำให้เว็บเป็นร้านค้า ที่มีระบบตระกร้า ไว้ขายสินค้า

    หากเทียบกับ Opencart หรือ CMS อื่นๆ WordPress จะได้รับความนิยมกว่า เพราะเว็บโดยทั่วไปเริ่มกันที่เว็บธรรมดา เพียงแค่หาปลั๊กอินเสริมไปก็เป็นร้านแล้ว และยืดหยุ่น ปรับแต่งอะไรทำได้ไม่ยากนัก รองรับ การใช้ ปลั๊กอิน หรือส่วนเสริม มากมาย ให้เลือกใช้เพิ่มเติมได้ง่ายอีกด้วย ทำให้ WordPress ได้รับความนิยม ใช้ได้ทุกประเภทเว็บไซต์ แต่ .. ตัวมันไม่ได้ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ ร้านค้าระบบตะกร้าออนไลน์

    Opencart เกิดมาเป็น Website e-commerce โดยเฉพาะ ก่อตั้งปี 2005 อาจเป็นเพราะ e-commerce ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก ในช่วงเวลาดังกล่าว ในประเทศไทย จึงไม่ค่อยนิยมมากเท่ากับ CMS ยี่ห้ออื่นๆ หรือแม้กระทั่ง Woocommerce ที่ ก่อตั้งมาที่หลังเพียงเล็กน้อย กลับมีคนใช้งานมากกว่า

    CMS Opencart มีระบบการทำงาน เป็นเว็บ e-commerce ครบถ้วนสมบูรณ์แบบบ ภาพรวมของการใช้งาน ไม่ยากจนเกินไป ง่ายกว่า wordpress ระบบ SEO ก็ไม่เป็นรอง wordpress เพราะมีเครื่องไม้เครื่องมือช่วย ไม่แพ้กัน

    จากประสบการณ์ การใช้งานด้วยตัวเอง

    ทั้ง WordPress Woocommerce และ Opencart ผมคิดว่า opencart จะตอบโจทย์สำหรับเว็บไซด์ระบบตะกร้าได้ดี ด้วยเครื่องมือที่มีให้พร้อมสรรพอยู่แล้วตั้งแต่ต้น ไม่ต้องโหลดส่วนเสริมใดๆมาเพิ่ม ให้เว็บหนัก opencart จึงเบา และโหลดเร็ว สำหรับ WordPress + woo  นั้น บนความที่มันยืดหยุ่นมาก มีปลั๊กอินให้เลือกใช้มากมาย ทำให้เว็บหนัก และทำให้แสดงผลช้า เพราะปลั๊กอินตัวอื่นๆที่จำเป็น ก็ต้องโหลดมาใช้มากอยู่แล้ว สำหรับการตั้งค่าหลายๆอย่าง WordPress จะมีความจุกจิกมากกว่า opencart เรื่อง ความแรง ของ SEO ( Search Engine Optimization) ไม่มีใครกินใคร ครับ มีโอกาสติดหน้าค้นหา google หน้าแรกได้ ไม่ยาก หากจัดการเนื้อหา และโครงสร้างเว็บให้ดี ๆ

    https://www.bagindesign.com/howto-cms-wordpress-opencart/
    http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=133622.0



เวอไนน์ไอคอร์ส

ประหยัดเวลากว่า 100 เท่า!






เวอไนน์เว็บไซต์⚡️
สร้างเว็บไซต์ ดูแลเว็บไซต์

Categories