1. กำลังหาข้อมูล เพื่อตัดสินใจซื้ออยู่

ลูกค้ากลุ่มนี้กำลังหาทางเลือกที่ดีที่สุด นั่นไม่ได้ผิดหรือแปลกอะไร แต่สิ่งที่คุณต้องทำ และบอกให้ลูกค้ากลุ่มนี้ทราบก็คือ คุณแตกต่างจากร้านอื่นยังไง ถ้าสินค้าไม่ต่าง บริการก็ต้องต่าง

2. คุณไม่เปิดเผยข้อมูลที่ลูกค้าควรรู้

ลูกค้าผมหลายร้านเหมือนกัน ที่ใช้กลยุทธ์นี้ คือไม่เปิดเผยข้อมูลบางส่วน เพื่อที่จะให้ลูกค้าเกิดความสงสัย และอยากเข้ามาสอบถาม และปิดการขาย จริงๆกลยุทธ์นี้ก็ใช้ได้ แต่ไม่ใช่กับทุกธุรกิจ ส่วนใหญ่จะเป็น ราคาขาย แหล่งที่มาของสินค้า เป็นต้น หากคุณไม่มีความลับทางธุรกิจอย่าง ตัวยา ส่วนผสม ควรเปิดเผยให้ชัดเจนครับ

3. ราคาคุณถูกเกินไป หรือแพงเกินไป

เรื่องจริงครับ ราคาถูกเวอร์ๆลูกค้าก็จะชอบมาสอบถาม แต่ไม่ซื้อ แพงเกินไปก็ชอบมาถาม แต่ก็ไม่ซื้อ เป็นพฤติกรรมขัดแย้งของลูกค้า ที่เกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า ทำไมเจ้านี้ถูกจัง เจ้านี้แพงจัง ทั้งๆที่สินค้าตัวเดียวกัน นำไปสู่การความไม่มั่นใจในตัวสินค้าได้ วิธีแก้คือ ราคาตลาดอยู่ระดับไหน คุณควรวางราคาให้เหมาะสมกับตลาด และแบรนด์ของคุณด้วย

4. ลูกค้าไม่มั่นใจแบรนด์หรือสินค้าของคุณเลย

เมื่อไหร่ที่คุณต้องเป็นคนพูด หรือพิมพ์ให้ข้อมูลลูกค้าอยู่ฝ่ายเดียว นานๆ วันละหลายๆคน หรือเกือบทุกคนที่เข้ามาสอบถาม และเป็นคำถามเดิมๆ ซ้ำๆ นั่นแสดงว่าลูกค้ายังขาดความเชื่อมั่นอะไรบางอย่าง คุณต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ อาจจะเป็นเรื่องการอธิบายข้อมูล ภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือด้านการชำระเงิน คุณต้องเก็บคำถามลูกค้าเหล่านี้ มาปรับปรุงการขายด้วย

หรือนอกจากนี้อาจจะเป็นคู่แข่งของคุณก็ได้ ที่ชอบเข้ามาสอบถามบ่อยๆ ถามทุกอย่าง แต่ไม่ซื้อสักอย่าง อันนี้ไม่ต้องกังวลไป นั่นแสดงว่าคุณมีดีนะ คู่แข่งถึงอยากได้ข้อมูลจากคุณ ลองอ่านบทความนี้ดูครับ 4 วิธีทำ Facebook ให้เจ๋งกว่าคู่แข่ง คุณจะไม่กังวลเรื่องคู่แข่งอีกเลยครับ