Power of Internet
ธุรกิจแบบเก่า
1.ต้องทำงานเต็มเวลาและทุ่มเทเต็มที่
2.ใช้เงินลงทุนสูง เพื่อเป็นค่าโสหุ้น ต้นทุนดำเนินการต่างๆ เช่น ค่าเช่า ค้าจ้างพนักงาน ค่าโฆษณา สินค้าคงคลัง
3.มีตลาดเล็กๆ แค่ในประเทศ
4.รับรายได้เป็นเงินบาท
5.รับเงินค่าสินค้า 30 – 60 วัน หลังขาย ต้องวางบิล ตามเก็บหนี้
6.โดนตัดสินจากรูปร่างภายนอก
7.สื่อสารการตลาดรูปแบบเดียว
8.ล้มเหลวต้นทุนสูง ทำให้ยากในการเริ่มต้นใหม่
9.เป็นการตลาดในวงกว้าง (Mass)
10.มีข้อจำกัดของเวลา เปิดปิด ต้องเป็นไปตามเวลาทำงานของธุรกิจทั่วไป
ธุรกิจ Internet
1.เริ่มต้นง่ายๆ แม้ยังทำงานประจำอยู่
2.มีต้นทุนในการดำเนินงานที่ถูกกว่า
3.มีตลาดทั่วโลก มูลคากว่า 934 ล้าน US$ และมีแนวโน้มเติบโตแบบทวีคูณในทุกๆ ปี
4.รับรายได้เป็นเงินดอลลาร์
5.รับเงินค่าสินค้าเกือบในทันที
6.โดนตัดสินจากคุณภาพของไอเดีย
7.สื่อสารการตลาดแบบครบวงจร ในรูปแบบ Multimedia
8.ล้มเหลวต้นทุนน้อยมาก เริ่มใหม่ได้เสมอ
9.เป็นการตลาดแบบใกล้ชิด คนต่อคน
10.เปิดทำงาน 24 ชม.
Power of Your Own Media
เราทุกคนล้วนรู้ถึงพลังของ “สื่อ” (Media)
ถึงมีคำกล่าวที่ว่า ใครสามารถครองสื่อ ผู้นั้นสามารถของโลก
จึงทำให้ทุกคนล้วนแต่ต้องวิ่งหา ผู้ครอบครองสื่อใดๆ
แต่ในยุคแห่ง Social Media เราทุกคนล้วนสามารถ “เป็นสื่อได้” ไม่ต้องอาศัยสื่ออื่นๆ อีกต่อไป ดังนั้นหน้าที่ของคุณคือการสร้าง หรือ หาเนื้อหาดีๆ ให้แก่ “ผู้รับชมสื่อของคุณ”
คิดง่ายๆ กลุ่มเป้าหมายของคุณ ชอบเรื่องอะไร คุณสามารถให้เนื้อหาที่ดีที่มีประโยชน์อะไร ที่ตรงกับใจเค้า และทดลองทำมันออกมา เมื่อคุณเป็นสื่อดี มีคุณภาพ ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย
คนจะเริ่มมาติดตามและสะท้อนว่าคุณเริ่มมาถูกทาง
ในการสร้างสร้างฐาน Fanpage ของคุณเอง (Your Own Media)
“Created Content” สร้างเนื้อหาที่ดี และ “รู้จัก Marketing มัน”
Power of True Security
ในการทำงาน การประกอบธุรกิจ หรือการใช้ชีวิต สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องการคือ “ความมั่นคง” แต่อะไรคือ “ความมั่นคงที่แท้จริง”
ในมุมมองของผม ความมั่นคงแบ่งเป็นสองแบบคือ
1. “ความมั่นคงลวงตา” เช่น การทำงานบริษัทใหญ่ๆ มั่นคง องค์กรระหว่างประเทศ เป็นราชการ มีเงินเดือน สวัสดิการ เหล่านั้นล้วนเป็น “ความมั่นคงชั่วคราว” เนื่องจากวันใด ที่คุณสิ้นสุดสถานะนั้นๆ เช่น ลาออก ถูกเชิญออก เกษียณอายุ เจ็บป่วย พิการ ความมั่นคง “ลวงตา” เหล่านั้น ล้วนจะสลายหายไป หรือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
2. “ความมั่นคงที่แท้จริง” (True Secuity) คือการที่เราสามารถมี Multiple Money Machine (MMM) หรือเครื่องผลิตเงินหลายเครื่อง “ภายใต้ชื่อแบรนด์คุณ” ที่ไม่ว่าคุณจะอยู่หรือไม่ จะเป็นอะไรไป เครื่องผลิตเงินนั้น ก็ยังคงสามารถสร้างรายได้ ให้ธุรกิจและครอบครัวของคุณอยู่
“อยากเป็น New Rich มุ่งมั่นหา “เครื่องผลิตเงินหลายเครื่อง” ภายใต้แบรนด์ของคุณให้ได้
Power of Your Story
“คนชอบคนชอบฟังเรื่องราว ไม่ใช่โฆษณา”
“คนชอบเรื่องราว ไม่ชอบการขายของ”
“คนชอบสื่อสารกับคน”
ทุกคนล้วนมีเรื่องราวที่น่าสนใจ
หรือหากคุณบอกว่าชีวิตเราไม่มีอะไรน่าสนใจ
ลองเปลี่ยนเป็นศึกษาเรื่องราวที่เราสนใจ และสื่อสารออกมาให้ได้อย่างมีพลัง
ผู้นำที่สำเร็จทุกคน “ต้องเป็นนักเล่าเรื่องที่ดี”
และเรื่องที่สำคัญที่สุด ก็คือ “เรื่องความเชื่อของคุณ ต่อสิ่งที่คุณคิดและคุณทำ”
“เล่าเรื่องของตัวเองอย่างมีพลัง คือ อีกพลังทวีที่ช่วยเร่งความสำเร็จคุณ”
Power of Teaching (Giving)
ยุคนี้ธุรกิจที่ดีที่สุดคือ Information Business
โลกยุคนี้ทุกคนสามารถ “เข้าถึง” ข้อมูลข่าวสารได้ง่ายดาย เท่าเทียม เสรี มากที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ใครอยากรู้เรื่องอะไร ถ้าสนใจก็หาเรื่องราวนั้นๆ ได้ไม่ยากจาก Google
การตลาดในยุคนี้จึงเปลี่ยนไปจากยุคเดิมๆ อย่างสิ้นเชิง การตลาดของ The New Rich ที่กูรูตัวจริงในระดับโลกมากมาย ล้วนบอกตรงกันคือ “การตลาดที่ดีที่สุดของยุคนี้ คือ การให้”
และการให้ที่ดีที่สุดก็คือ “การให้ความรู้หรือการสอน”
หาเรื่องราวของคุณไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว ถ่ายทอดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย คุณไม่จำเป็นต้องให้ทุกคนสนใจ แค่คน 1% สนใจก็มากพอที่จะทำธุรกิจย่ิงใหญ่ในระดับโลกได้ครับ เช่น
– หากคุณมีความสามารถด้านการเลี้ยงสัตว์ แบ่งปันความรู้กับกลุ่มคนรักสัตว์
– หากคุณชอบกินกาแฟ หาเรื่องราวน่ารู้ เกี่ยวกับกาแฟมีหลากหลาย
– หากคุณชอบดูหนังฟังเพลง ทำตัวให้เป็นตัวจริง และนำเสนอสิ่งที่คุณได้เรียนรู้และคิดว่าเป็นประโยชน์
มีตัวอย่างธุรกิจมากมาย ที่ใช้ Model นี้ในการเริ่มต้น แล้วสร้างเป็นธุรกิจจนยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน
“หาสิ่งที่คุณรัก เห็นโอกาส เรียนรู้ และแบ่งปัน” ยิ่งสิ่งที่คุณแบ่งปันถูกส่งออกไปและเป็นประโยชน์ต่อผู้คนมากเท่าไร ความสำเร็จและโลกนี้จะตอบแทนคุณอย่างมากมายเป็นทวีคูณ
“The Best Marketing is Teaching” การตลาดที่ดีที่สุด คือ การสอน การให้ความรู้
Power of Branding (Personal Brand)
ทำไมต้องสร้างแบรนด์? ถ้า “ไม่สร้างแบรนด์ตอนนี้ ก็เหนื่อยตลอดชีวิต”
เมื่อผมสอนเรื่อง Branding & Marketing หนึ่งในเคสที่ผมมักยกมาเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ คือ ผมจะหยิบเอารูปกระเป๋า 2 ใบ ทั้ง 2 ใบตัดด้วยหนังชั้นดีเหมือนกัน
แล้วให้ทายว่า 2 ใบราคาเท่าไร? (ถ้าไม่มียี่ห้อใดๆ)
ส่วนใหญ่มักทายว่า 3,000 / 5,000 / 10,000 ฯลฯ แตกต่างกันไปตามประสบการณ์
และที่น่าคิดคือ ถ้าบอกให้ซื้อเลยที่ราคาที่ตนทายมา จะซื้อมั๊ย ร้อยละ 90% บอกว่าไม่ซื้อ
ส่วนใหญ่มักเลือกก่ำกึ่งกัน แต่พอเอาสัญลักษณ์ “Hermès” แปะเข้าไปในกระเป๋าสีส้มด้านขวามือแล้วให้ทายราคาใหม่ หลายคนให้ราคาเพิ่มเป็น 10 เท่าขึ้นมาทันที เพราะอะไร? คำตอบคือ “การรับรู้ คุณค่าของแบรนด์นั้นๆ”
ตัวเราเองก็เช่นกันครับไม่ใช่แค่แบรนด์สินค้า “Personal Brand” หรือแบรนด์บุคคล เป็นสิ่งที่ “ทุกคนควรใส่ใจ”
ทำอย่างไรก็ได้ให้ตัวเองดัง (ในทางที่ดี)
ในโลกของทุนนิยม คนไม่สนใจหรอกว่าคุณเก่งหรือไม่
ถ้าคุณดัง คนจะนึกว่าคุณเก่ง (อาจไม่ถูกใจใครหลายคน แต่คือความจริงของโลกปัจจุบัน)
หลังจากนั้น คุณค่อยๆ พัฒนาความเก่งขึ้นมาร่วมกันยังทันครับ และถ้าคุณเป็นของจริง เค้าจะใช้คุณซ้ำ ในทางตรงกันข้าม ต่อให้คุณ “โครตเก่ง” แต่ไม่มีใครรู้จัก “โอกาสได้งาน แทบจะเป็นศูนย์”
คนสนใจว่า “คุณดังรึเปล่า” คุณต้องสามารถทำตนให้มีมีชื่อเสียง และต้องมีหน้าตัวเองอยู่ในตลาด หากคุณทำได้ ทั้งลูกค้าและสื่อ จะวิ่งเข้าหาคุณ คุณจะไม่ต้องเหนื่อยกับการที่คู่แข่งลากไปทำ “สงครามราคา” (Price War) ที่ทั้งเหนื่อยกาย ใจและสุดท้ายก็เจ๊ง ตลอดชีวิต
“ถ้าสร้างแบรนด์เป็น คุณสบายตลอดชีวิต”
“Focus ในการสร้างคุณค่า (Build Brand Value) ของชื่อของคุณเอง”
“จำไว้ว่า “People Buy You” คนซื้อ “ตัวคุณ” ถ้าตัวคุณน่าสนใจ มีดี ทำอะไรก็สำเร็จ”
Power of Owning Business
“อย่าไปอยู่ใต้ค่ายคนอื่น” คือ Key Word แรกของพลังทวีนี้
นักธุรกิจ ผู้บริหาร ที่ประสบความสำเร็จระดับสูง ล้วนพูดในหลักการคล้ายคลึงกัน
“ปัจจุบัน เบอร์ 1 (ตัวจริง) ไม่มีใครอยู่ในองค์กร คนในองค์กรส่วนใหญ่เป็น Secondary Tear คนเก่งๆ เจ๋งจริง ล้วนออกไปเป็นเจ้าของกิจการตัวเองกันแทบทั้งนั้น”
ดังนั้นหากเราอยากทำงานที่รวบรวมคนเก่งจริงๆ เราไม่สามารถเอาเข้ามาเป็น “ลูกน้อง” ได้ แต่สามารถเอามาเป็น “หุ้นส่วน” หรือ “พาร์ทเนอร์” ทางธุรกิจจะทำให้สามารถทำงานได้ประสิทธิภาพ และบริหารต้นทุนได้
โลกปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว คนที่ใหญ่ที่สุด คือ “เจ้าของธุรกิจ” เพราะเป็นผู้ที่คุมเงิน
นักธุรกิจสามารถใช้ “พลังและเวลาของคนมากมาย” (Leverage) มาสร้างผลิตภัณฑ์และบริหารร่วมกัน นักธุรกิจ คือ ผู้อยู่เบื้องหลัง ตัวจริงของระบบเศรษฐกิจทุกประเทศ
ในฐานะเป็นผู้สร้างงาน ผู้ประกอบการ (Entrepreneur) ทั้ง SME และบริษัทขนาดใหญ่ (Corporate)
คนให้ความเคารพ “ผู้สร้างงาน” ไม่ใช่ “ผู้หางาน” หากคุณอยากทวีความสำเร็จ “เราต้องกุมชะตาชีวิตของเราเอง”
หนึ่งใน Role Model ด้านการสร้างธุรกิจของผมคือ “Richard Branson”
ให้ข้อคิดที่น่าสนใจไว้ว่า “ถ้าคุณทำ 1 ธุรกิจสำเร็จได้ คุณจะทำกี่ธุรกิจให้สำเร็จก็ได้ หลักการเหมือนกันหมด”
นั่นเป็นหลักยึดที่ผมยังใช้ในการขยายธุรกิจต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
หากใครยังไม่เริ่ม ลองทำดู ไม่จำเป็นต้องออกจากงานประจำ คุณสามารถเริ่มมีกิจการของตัวเอง ไปพร้อมกับงานประจำ มีช่องทางมากมาย
ถ้าจะทำ “เราทำได้” ผมทำมาแล้วจากพนักงานบริษัทธรรมดาที่ กลายเป็นเจ้าของกิจการหลากหลาย ในเวลา 2 ปี และสามารถจัดการบริหารชีวิตได้ดีกว่าในอดีตมากมาย
“ค่าจ้างจะทำให้คุณสามารถดำรงชีพอยู่ได้ แต่กำไรจะทำให้คุณร่ำรวย”
ไม่ว่าคุณจะเป็นลูกจ้าง ลูกหลาน หรือ เจ้าของกิจการ
สร้างธุรกิจโดย “ใช้หัวใจของความเป็นเจ้าของ” ทั้งชีวิตจริงและการทำงานคุณพัฒนาขึ้นแน่นอน
Power of Your Ideas
“ความมั่งคั่งมาจาก Idea ไม่ใช่แรงงาน” การทำงานหนักไม่ได้ทำให้ใครรวยเสมอไป
การมีเงินทุนมากมาย อาจกลายเป็น “คำสาป” ที่ทำให้คุณ “เสียเปรียบ” คนอื่น
ยังไง?
ทำงานหนักแล้วไม่รวย ความสุขไม่มี บั้นปลายไม่เหลืออะไร การมีเงินทุนมากไป หลายครั้งทำให้ “สูญเสียความคิดสร้างสรรค์” เพราะไม่สามารถขุดเอาศักยภาพสูงสุดมาใช้
การที่เงินจำกัด ทำให้เราต้องสร้างสรรค์การทำงานให้มี “ประสิทธิภาพสูงสุด” เหมือนกับที่ห้องของคุณคับแคบคุณต้องใช้ความคิดในการวางของ
แล้วไอเดียแบบไหนที่จะสร้างประโยชน์ สร้างเงิน เกิดพลังทวีได้ล่ะ?
“ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ถูกลง” วิธีจุดความคิดสร้างสรรค์ ลองสังเกตุง่ายๆ “อะไรที่ทำให้คุณรำคาญ” แล้วลองพยายามแก้สิ่งนั้น หลายธุรกิจเกิดขึ้นเพราะการแก้ปัญหา คนซื้อการแก้ปัญหา ซื้อความสุข ความสะดวกสบาย ซื้อความพึงพอใจ (Functional , Emotional)
ปลั๊กไฟ เสียบเข้าไปแล้วไม่อยู่ เสียบแล้วไม่ติด ไฟแล่บ
สาเหตุครึ่งนึงของไฟไหม้ครึ่งประเทศ อาจมาจากปลั๊กไฟห่วยไม่ได้คุณภาพ
ถ้าใครสามารถทำปลั๊กไฟง่ายๆ คุณภาพดี แค่ตลาดก็มีมูลค่าหลายสิบล้านแล้ว
เรื่องราวแบบนี้แทรกอยู่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน
“คุณค่าของความคิด มีค่ากว่าที่หลายคนคิดมากนัก”
Power of Differentiation
“ถ้าไม่แตกต่าง ก็ต้องเผชิญกับสงครามราคา”
ทุกคน ทุกธุรกิจ ทุกความคิด ทุกบริการ ล้วนสร้างความแตกต่างได้
ร้านอาหาร เหมือนกัน ทำอย่างไรให้ไม่เหมือนกัน
กระดาษ เหมือนกัน ทำอย่างไรให้ไม่เหมือนกัน
เทรนเนอร์เหมือนกัน แล้วเราต่างกับเค้าตรงไหน
ตัวแทนประกันก็เหมือนกัน แล้วเราต่างกับคนอื่นอย่างไร? ทำไมต้องซื้อกับคุณ? คุณมีอะไรดีกว่าคนอื่น?
ฯลฯ
สิ่งนี้คุณต้องหาให้เจอ ถ้าคุณค้นพบ คุณจะสามารถทะยานความสำเร็จคุณได้เป็นสิบๆ เท่าในเวลาอันรวดเร็ว
ปัจจุบันธุรกิจ Internet เฟื่องฟู มีช่องทางมากมายในการสร้างธุรกิจด้วยต้นทุนที่น้อยลงมาก ทำให้อาชีพที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ Social Media กลายเป็นที่ยอดนิยม หลายๆ คนสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ แต่น้อยคนนักที่ สามารถสร้างความแตกต่าง ทำได้จริงและสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
ทำไมที่ปรึกษาส่วนใหญ่สามารถเรียกค่าตัวตนเองได้หลักร้อยหลักพัน?
ขณะที่บางคน มืออาชีพ ที่สร้างความแตกต่างเป็นสามารถสร้างมูลค่าและรายได้จากงานด้านที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ ไม่น้อยกว่าตัวเลข 7-8 หลัก ในแต่ละปี (ยังไม่รวมธุรกิจต่อยอดอื่นๆ)
หัวใจสำคัญคือการสร้างความแตกต่าง และความแตกต่างที่จะสามารถสร้างมูลค่าได้ คือ
“สิ่งที่ลูกค้า หรือคนส่วนใหญ่เห็นคุณค่า จนยอมจ่ายเงินให้” ภาพลักษณ์ของคุณจึงมีผลต่อผู้ซื้อ จะสร้างภาพลักษณ์ของคุณได้อย่างไร?
ทุกธุรกิจที่ผมทำ ถ้าไม่สามารถหาความแตกต่างได้ “ผมจะไม่ทำ”
เพราะรู้จากใจว่า หากไม่สามารถหาความแตกต่างได้ จะลำบากในระยะเวลารวดเร็ว
เชื่อมั่น ค้นให้เจอ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ธุรกิจ หรือแบรนด์ชีวิต
จงแตกต่างในทางที่ดีและมีคุณค่า คุณทำได้ค… เชื่อผม ผมทำมาแล้ว
– ทุกอย่างที่เราทำ “ต้องสามารถมีความแตกต่าง”
– ในโลกนี้ ไม่มีใครเหมือนกัน แม้กระทั่งฝาแฝด ก็ยังแตกต่างกัน
– ดึงความแตกต่าง ความพิเศษของตัวคุณออกมา
Power of Your Niche
“ไม่ว่าคุณมีความสามารถอะไร ถ้าคุณมองเห็นมัน และมีคนเห็นคุณค่านั้น คุณย่อมสร้างธุรกิจจากสิ่งนั้นได้”
การตลาดมีได้หลายรูปแบบค ไม่จำเป็นว่าสิ่งที่คุณทำ ต้องโดนใจคนทุกกลุ่มแค่คุณ “รู้กลุ่มเป้าหมายและครองใจกลุ่มเล็กๆ (Niche) ได้ ก็ต่อยอดธุรกิจได้มากมาย” หรือ ที่เราเรียกว่า ตลาดเฉพาะ เช่น หากคุณมีความสามารถฝึกนกแก้วให้พูดได้ แล้วมีคนเห็นคุณค่ามัน
อาจเริ่มต้นจากการขายข้อมูล “ทำให้นกแก้วพูดได้ทำอย่างไร?” แล้วขยายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ในอนาคต
และอีกกลยุทธ์การตลาดที่แนะนำให้ “คนรวยยุคใหม่” ศึกษาไว้คือ
“The Long Tail” ของคริส แอนเดอร์สัน (Chris Anderson)
Why the future of business is selling less of more.
ธุรกิจในอนาคต คุณสามารถอาศัยพลังทวีของระบบที่คุณสร้างไว้ ต่อยอดและครอบครองตลาดมหาศาลได้ บางครั้งจำนวนรายได้น้อยๆ ของคนจำนวนมากก็สร้างพลังทวีได้เช่นกันค้นหาแบบที่เหมาะกับคุณ ศึกษาให้รู้รอบ โลกนี้มีความสำเร็จมากมายไว้เพื่อเราทุกคน
Power of MMM
MMM = Multiple Money Machine หรือ เครื่องผลิตเงินหลายเครื่อง
พลังทวีที่สำคัญที่สุด คือ “การสามารถขยายเวลาให้ 1 วินาที ไม่เท่ากับ 1 วินาที”
มีหลากหลายวิธีครับ แต่หัวใจที่สำคัญคือ
“ทำอย่างไร ไม่ว่าคุณจะอยู่หรือไม่ คุณก็ยังมีเครื่องผลิตเงินให้ใช้ได้ตลอด”
“และจะดีแค่ไหน ถ้าเรามีเครื่องผลิตเงินนั้น หลายๆเครื่อง ทำงานในเวลาเดียวกัน”
ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้น กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์
การใช้เงินทำงาน การทำธุรกิจเครือข่าย การสร้างเครือข่ายธุรกิจ ฯลฯ
การสร้างระบบที่สามารถ Run ธุรกิจได้เองอย่างต่อเนื่องไม่ว่าคุณจะหลับหรือตื่น
หากคุณทำได้ นั่นคือเคล็ดลับพลังทวี ที่ไร้ขีดจำกัด
หลายคนถามว่าแล้วธุรกิจ Franchise ล่ะ ใช่เครื่องผลิตเงินหรือเปล่า
พิจารณาง่ายๆ ถ้าคุณลงทุน Franchise นั้นแล้ว อีก 5 ปี คุณยังต้องไปทำเองตลอดนั่นไม่ใช่แล้ว อย่างนั้นคือการ “ใช้แรงแลกเงิน” เป็น Active Income มากๆ
แต่ถ้าคุณเป็น “เจ้าของ Franchise” แล้วสามารถสร้างระบบให้มัน Run ได้ นั่นถือเป็นแหล่งผลิตเงินชั้นยอด
ค่อยๆ สะสม “เครื่องผลิตเงิน” ทีละเครื่อง เล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญ แค่คุณเริ่มตระหนัก เห็นคุณค่าและ Focus ในสิ่งนั้น สิ่งดีๆ จะเริ่มเข้ามาหาคุณและชีวิตจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
Power of FAN BASE
“ฐานแฟน สำคัญที่สุด” การตลาดในยุคปัจจุบัน ไม่ได้เกี่ยวว่าใครมีทุนมากกว่า เป็นลูกหลานใคร อยู่ในสังคมไฮโซแค่ไหน มีการศึกษาอย่างไร หรือเก่งแค่ไหน สิ่งนั้นเป็นแค่ส่วนประกอบเล็กๆ หัวใจของการตลาดยุคปัจจุบันวัดกันที่ “ใครมีฐานแฟนมากกว่ากัน”
และเรื่องนี้ประยุกต์ใช้ “ในทุกวงการครับ” ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานประจำ ข้าราชการ ศิลปิน นักร้อง ดารา นักกีฬา นักการเมือง นักธุรกิจ ฯลฯ ถ้าคนรู้จักคุณ “ในแง่ดี” มาก รู้จุดแข็งหรือสิ่งที่คุณทำได้ “โดดเด่น” ในวงกว้าง คุณย่อมเติบโตอย่างรวดเร็วและมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าคนอื่นๆ อย่างแน่นอน
จำไว้ว่า “ไม่มีใครสนใจ Promote คุณ คุณต้อง Promote ตนเอง”
หากจะทำการตลาด และไม่ได้มีเงินจำนวนมาก ไม่ได้เป็นบริษัทขนาดใหญ่
ไม่ต้องสนใจเรื่องการเปิดตัวอะไรทั้งสิ้น สนใจอย่างเดียวคือ “เรื่องฐานแฟน”
ทำอย่างไรให้เรามีข้อมูลฐานแฟนของตนเอง
และพยายามส่งมอบสิ่งที่ดีและมีคุณค่าให้แก่ฐานแฟน ที่เชื่อมั่นและติดตาม คุณอยู่เสมอ ไม่ว่าจะผ่านการพูดคุย การเขียน สื่อต่างๆ ถ้าคุณทำให้ฐานแฟนเชื่อมั่น อยากอยู่และติดตามคุณได้ เค้าจะซื้อและสนับสนุนคุณทั้งชีวิต ค่อยๆ สะสมฐานแฟน และสานสัมพันธ์อันดี เริ่มตั้งแต่วันนี้แล้วคุณจะรู้ว่า “คุณมีดี และสำเร็จได้ไม่น้อยกว่าใคร”
ความสามารถในการ Multiply Yourself
“ทวีคูณตัวเองทุกวัน ทำ 1 ต้องได้ 100”
ทำไมเราทำงานหนัก แต่ไม่เคยรวย จริงๆ สมการความร่ำรวยหรือยากจน เขียนออกมาแสนเรียบง่าย
ความจน = ทำงานมาก ได้ผลน้อย
ความรวย = ทำงานน้อย ได้ผลมาก
ทำอย่างไรให้มีตัวเองออกมาได้ 100 คน คือเคล็ดลับของความร่ำรวย
วิธี Multiply Yourself (ทวีคูณตัวคุณเอง ทำซ้ำให้ได้)
Income = Value x Time x Scalability
รายได้ = คุณค่าของสิ่งที่ทำ x เวลา x ความสามารถในการทำซ้ำ
ไม่ว่าคุณประกอบอาชีพอะไร เก่งแค่ไหน ถ้า “ทำซ้ำไม่ได้” สุดท้ายจะพบเพดานรายได้และจุดจบ
ตรงกันข้าม แม้คุณจะไม่ได้เก่งที่สุดในโลก บริการของคุณไม่ได้เลิศเลอที่สุด
แต่หากมีกลุ่มคนที่ยอมรับได้ในคุณค่านั้น และคุณ “ทำซ้ำได้” รายได้คุณจะไร้ขีดจำกัด
แมคโดนัลด์ / Starbucks / 7-11 / ธุรกิจเครือข่าย / หนังสือ / หนัง / เพลง / หนังสือเสียง / แบบเรียน / ที่สอนพิเศษ / การลงทุน / Hotel Chain / ระบบการขนส่ง / Logistic / สินค้าอุปโภคบริโภค / ธุรกิจบริหการ / โรงพยาบาล / iPhone / Internet / Social Media / Software / Application ฯลฯ
หากต้องการสร้างธุรกิจให้เติบโตรวดเร็ว และมั่นคงได้ในระยะยาว
จงโฟกัส ไม่ใช่แค่เรื่องคุณภาพ แต่เป็นความสามารถในการทำซ้ำ
ค่อยๆ เพิ่มจาก 1 เป็น 2 และทวีคูณขึ้นทุกๆ วัน จำให้ขึ้นใจ “ทำ 1 ต้องได้ 100” คุณทำได้
Power of Love
ทำสิ่งที่ตัวเองรัก ขายสิ่งที่ตัวเองชอบ (และใช้เอง)
ข้อผิดพลาดที่สำคัญของคนจำนวนมาก คือ “คนส่วนมากขายสิ่งที่ตนเองไม่ได้รัก”
หลายคนเลือกทำงาน หรือสร้างธุรกิจใดๆ โดยเริ่มจากสมอง แต่ไม่ได้มองไปที่ “หัวใจ”
หลายคนขายสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ชอบ แต่ทำเพียงเพราะรู้ว่า “ได้เงินมาก”
และมักลงท้ายด้วยการ “ทำไม่ได้ดี” ทั้ง “ไม่มีความสุข” และ “เงินก็ไม่ได้”
แนะนำ “Why now is the time to “Crush It” Cash in on your passion.” จากผู้เขียน “The 4-Hour Work Week” หนังสือขายดี อันดับ1 ของ New York Times
ก่อนจะเริ่มธุรกิจใดๆ จงถามตัวเอง 3 คำถาม
1.ฉัน “ชอบ” ไหม? (Love)
– ลองศึกษาให้รู้จริงๆ ว่ารูปแบบธุรกิจ ลักษณะงานที่เราจะทำ เราชอบมันหรือเปล่า
– อาจจะไม่ต้องชอบทั้งหมด แต่ในภาพรวมของมัน เรารักที่จะทำธุรจกิจ หรืองานนั้นจริงๆ รึไม่?
2.ฉันจะ “ทำเงิน” ได้ไหม? (Reward)
– กิจกรรมบางอย่าง งานบางงาน เราชอบมาก แต่หากไม่สามารถหา “วิธีทำเงิน หรือสร้างรายได้” สิ่งนั้นก็เป็นธุรกิจไม่ได้
– ธุรกิจดนตรี ซึ่งถือเป็นธุรกิจขาลง แม้กระทั่ง Mick Jagger นักร้องและมือกีตาร์ของ Rolling Stones ผู้ถือว่าเป็นหนึ่งในตำนานของ Rock & Roll ที่อยู่ในระดับสูงสุดของวงการมากว่า 50 ปี ยังบอกว่า “ไม่มีใครรวยจากธุรกิจคนตรีจริงๆ ได้แล้ว” ดังนั้นหากคุณเป็นนักดนตรีที่อยากประสบความสำเร็จและร่ำรวยด้วย คุณต้องรู้ว่า “จะทำเงิน” ต่อจากสิ่งที่คุณรักอย่างไร
– ความรวย คือ รางวัล หรือ ผลลัพธ์ จากการที่คุณสามารถสร้างคุณค่าให้กับสังคม หรือกลุ่มคนที่ติดตามคุณ (ฐานแฟน) ดังนั้น โจทย์สำคัญ คือ “ฉันจะสร้างคุณค่าอะไรให้สังคมดี ถึงจะได้รับคุณค่าและรางวัลนั้นๆ” ยิ่งคุณมีเป้าหมายใหญ่ แน่นอนว่า คุณค่าที่คุณต้องมีในตัวและส่งออกไปยิ่งต้องมากขึ้นด้วย ดังนั้น ไม่ต้องอาย หรือกลัวที่จะเป็น “คนรวยที่สำเร็จครับ” เพราะคุณจะรวยได้ คุณต้องเป็นคนที่มีคุณค่ามากขึ้นนั่งเอง
3.ฉันจะ “ภูมิใจ” ในการหาเงินอย่างนั้นรึไม่?
– หลายธุรกิจทำแล้วร่ำรวยได้ แต่ทำแล้ว “คุณภาคภูมิใจ สบายใจ และยืดอกได้อย่างเต็มที่รึเปล่า”
– สำหรับผม มีหลากหลายธุรกิจที่ทำให้ร่ำรวยได้ แต่ถ้าธุรกิจนั้นต้องหลอกลวงผู้คน หากินกับความไม่รู้ของคนอื่น ผิดกฏหมาย ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ส่งผลเสียต่อสังคม ผมไม่ภาคภูมิใจกับความร่ำรวยเช่นนั้น และผมจะไม่ทำ
– แต่ผมภาคภูมิใจทุกครั้งที่ได้แบ่งปันสิ่งดีๆ สู่ผู้คนทั้งในรูปแบบการให้คำปรึกษา การสอน การอ่านหนังสือ การเขียนบทความการช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น และการลงมือทำงานให้สำเร็จ ผมจะเลือกทำ
ลองเอาหลักคิดนี้ไปใช้ “โฟกัสในสิ่งที่คุณรัก” แล้วคุณจะรู้ว่า
“พลังทวีของความรัก สร้างสิ่งมหัสจรรย์ให้ทั้งชีวิตและธุรกิจได้มากมาย”
Power of Good
“ให้สิ่งดีๆ แก่สังคม”
พยายามให้สิ่งดีๆ และจรรโลงสังคมให้มากที่สุด
พยายามให้โลกนี้และสังคมนี้ติดหนี้เรา รู้จักให้ ให้มากกว่ารับ
อย่าคิดถึงเงินในช่วงแรก ผลตอบแทนจะตามเอง
หากเราเรียนรู้ในการ “ให้โดยไม่ต้องหวังสิ่งใดตอบแทน”
ให้จริงๆ แบบไม่ต้องคิดมากและไม่ต้องหวังผลใดๆ เอาแค่ได้ให้ก็สุขใจ
ผลลัพธ์ที่กลับมาจะทำให้ “ชีวิตและธุรกิจ ประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นมาก”
ทำไม?
จริงๆ หลักการนี้ เรียบง่ายมากขึ้น ทุกอย่างเริ่มต้นจาก “จิต”
เมื่อจิตเราคิดดี ทำดี เราย่อมสบายใจ ปลอดโปร่ง เกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง
เมื่อภูมิใจในตน ย่อมมั่นใจ เมื่อมั่นใจ ก็ยิ่งจะกระตือรือร้นในการทำสิ่งดีและพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก เมื่อคุณพัฒนาตัวเองขึ้นในทุกๆ วัน แน่นอนว่า “คุณจะเก่งขึ้นในทุกๆ วันเช่นกัน”
โลกนี้มีคนเก่งเยอะ และมีคนดีมากมาย แต่จะหาคนดี ที่เก่งและมีหัวใจแบ่งปัน “โลกนี้หาไม่ง่าย” และ “คนมากมายในทุกสังคม ต้องการคนเช่นนี้”
ลองแกล้งเชื่อผมครับ “จงเป็นคนดีที่มีหัวใจแห่งการให้” เมื่อคุณอยากให้ได้มากขึ้น “คุณจะต้องเก่งขึ้น” และเมื่อคุณเก่งขึ้น และยังคงมีหัวใจแห่งความดี พร้อมทั้งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก สร้างแบรนด์เป็น เมื่อนั้นความสำเร็จและโอกาสมากมาย “จะถาโถม เข้ามาหาคุณอย่างสาสม”
Power of Wealth
ถ้าคุณมั่งคั่ง พลังในการทำความดีของคุณจะมากขึ้น
ใครบอกว่า เงินเปลี่ยนคน “จริงๆ แล้วเงินจะขยายตัวตนที่แท้จริง ของคุณให้มากขึ้น”
ถ้าคุณเป็นคนดี คุณจะเป็นคนดีที่มี Impact และสร้างแรงกระเพื่อมที่ดีในสังคม
ถ้าคุณเป็ณคนเลว คุณจะเป็นคนเลวที่ทรงพลัง
ความมั่งคั่ง ความร่ำรวย ไม่ได้เกี่ยวว่าดีหรือเลว “คุณเลือกได้”
จำไว้ว่า เมื่อไรที่คุณมั่งคั่งคุณสามารถขยายความดีของคุณให้มากข้ึ้น
และ “ทุกคนสามารถเป็นคนรวยได้” ถ้าคุณอยากเป็นมันจริงๆ
ตั้งเป้าไปเลยครับ “เราจะเป็นคนรวย ที่สำเร็จในทุกด้าน โด่งดัง และเป็นคนดี”
มองเป้าหมายแล้วเอาให้ใจสั่นๆ แต่ให้เป็นสั่นสู้ แล้วลุยทำมันทุกวิธี
มาสร้างสังคมแห่งคนดี มีความสุข และประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กันครับ
Power of Youth and Good Looks
“คนส่วนใหญ่ตัดสินคุณด้วยตา”
ตัดสินใจไปเลยว่าคุณต้องดูดีขึ้น ทุกคนดูดีขึ้นได้หมด สวยหล่อ ได้ทุกคน
ยิ่งคุณดูดีขึ้นมากเท่าไร ความสำเร็จคุณยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
หากใครบอกว่าคนสำเร็จต้องมีอายุมาก และคนอายุน้อยมีแต่ข้อเสียเปรียบในการทำธุรกิจ
“อย่าไปเชื่อครับ” เราสามารถใช้ประโยชน์จากวัยและรูปลักษณ์ได้
ผมเป็นคนหนึ่งที่ในสมัย 6-7 ปีแรกของการทำงานประจำ เป็นคนที่ไม่ค่อยใส่ใจกับรูปลักษณ์และการแต่งกายมากนัก ชอบแต่งตัวสบายๆ อะไรก็ได้ เพราะเชื่อมั่นว่า “เรามีดี” และ “ทำงานด้วยสมองและฝีมือ” “คนจะดูที่ผลงานของเราเองว่าเราเก่งและมีดีแค่ไหน” คิดเสมอว่ารูปลักษณ์และการแต่งกายเป็นแค่เปลือกนอก หรือส่วนประกอบเล็กๆ เท่านั้น
จนต้องมาอยู่สถาบันฯ ที่ต้องดูแลและเกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงสุดของประเทศไทย ในทุกวงการ และตระหนักได้ว่า “การแต่งกายของเรา ไม่ได้กระทบแค่ตัวเรา แต่ยังสะท้อนถึงภาพลักษณ์ขององค์กรด้วย”
จึงยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อให้องค์กรที่เรารัก ได้มีภาพลักษณ์ที่ดีด้วย
แต่รู้มั๊ยครับ “แค่จุดเริ่มต้นเล็กๆ กลับเปลี่ยนแปลงชีวิตได้มหาศาล”
เมื่อเราเริ่มแต่งตัวดีขึ้น คนรอบข้างจะดูแลและปฏิบัติกับเราดีขึ้น
เราเองก็มีความมั่นใจมากขึ้น และอยากทำอะไรดีๆ เพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน และได้รับโอกาสต่างๆ มากมายตามเข้ามาในชีวิต
ไม่ว่าผู้หญิงหรือชาย หรือชาติใดๆ ใครๆ ก็อยากคบค้า พูดคุยกับคนที่ดูดีครับ
การแต่งกายที่ดีเป็นทั้งการให้เกียรติทั้งผู้ที่เราพูดคุยและให้เกียรติตนเอง
การแต่งกายให้ดูดี ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงมากมายหรือต้องเหมือนใคร
หาต้นแบบ “การแต่งกาย” ที่ดูดีที่คุณชื่นชอบ แล้วปรับเปลี่ยนอย่างจริงจัง
“แล้วคุณจะพบว่า โลกทั้งโลกเปลี่ยนไป เมื่อคุณเริ่มเปลี่ยนการแต่งกายครับ”
“ดูแลตัวเองให้ดี แล้วโลกนี้จะดูแลคุณ”
Power of TEAMWORK
รู้ว่าจะหาคนเก่งที่ไหน
คนเก่งอาจจะไม่ใช่ลูกจ้างคุณก็ได้ แต่เอามาเติมเต็มซึ่งกันและกัน
ถ้าคุณทำงานกับคนไม่เก่ง มันเหนื่อยตลอด ถ้าคุณทำงานกับคนเก่ง มันเพิ่มพลังให้คุณ และทำให้คุณไปเร็วมาก
ธุรกิจมากมาย “ล้มเหลวเพราะยึดติดครับ” ยึดติดกับคำว่า “ข้าต้องเก่งคนเดียว ต้องเหนือกว่าผู้อื่น บริษัทเราต้องเจ๋งที่สุด เก่งทุกด้าน ทำทุกเรื่อง”
แถมพอใครจะเริ่มทำอะไรใหม่ๆ กับไปดูถูกเค้าซะอีกว่าทำไม่ได้หรอก ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ
แล้วพอเค้าทำสำเร็จขึ้นมา ก็กลับย้อนมาเป็นผลเสียให้กับตัวบริษัทนั้นๆเอง ที่ไม่รู้จักสร้างพันธมิตรไว้
“โลกใบนี้ มีทรัพยากรล้นเหลือ ที่จะกระจายความสำเร็จให้แก่เราทุกคน” คุณไม่จำเป็นต้องเก่งทุกอย่าง แต่คุณต้องรู้ว่า “คนเก่งที่คุณต้องการคือใคร” เก่งด้านไหน เราจะสามารถนำเค้ามาเป็น Partner ได้อย่างไร?
สร้างพันธมิตรไว้ทั้งในและนอกองค์กร เราไม่รู้ว่าคนที่เราคุยด้วยในวันนี้จะเป็นอย่างไรในอนาคต วันนี้เป็นลูกค้า เป็นลูกน้อง วันหน้าอาจเป็นเจ้านาย วันนี้เราเป็นเจ้านาย อนาคตเค้าอาจเป็นลูกค้า หรือหัวหน้าก็เป็นได้ ฯลฯ
ทุกธุรกิจที่ผมทำ “เริ่มต้นจากสายสัมพันธ์และการทำงานเป็นทีมครับ”
สิ่งนี้เพิ่มพลังให้เราได้อย่างมหาศาล และขยายธุรกิจได้หลากหลายมากกว่าที่ใครเคยคิด
เริ่มตั้งแต่วันนี้ สร้าง “พลังทีม” ทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าเป้าหมายใหญ่แค่ไหน เราทำได้ หากมีทีมที่ยอดเยี่ยม
Power of Free
ใช้เพิ่มคุณค่าในตัวคุณเอง
ปัจจุบันเป็นโลกของ “Internet” ผู้รอบรู้ที่สุดในโลกชื่อ “Google”
ไม่ว่าคุณอยากเรียนรู้ อยากเชี่ยวชาญเรื่องใดๆ ความรู้ในศาสตร์ทุกแขนง
เสิร์ฟถึงที่หน้าหน้าจอคุณ เรื่องนี้ “เป็นจุดสำคัญของพลังทวี”
เมื่อโลกนี้ของฟรี หรือ ต้นทุนต่ำ มีเพียบ ถ้าคุณจะขายบริการใดๆ ของคุณต้องเจ๋งจริง
ถ้าคุณไม่แตกต่าง ผู้คนจะยอมจ่ายเงินให้คุณไปทำไม ในขณะเดียวกัน ในโลกยุคนี้คุณสามารถหาสิ่งดีๆ ทั้งในการทำธุรกิจ การพัฒนาตนเอง การลงทุน ด้วยต้นทุนต่ำมากมาย
เช่น เมื่อก่อนหากอยากถ่ายรูปสินค้า ทำ Port งานบริษัท ทำ Artwork ต่างๆ
คุณอาจต้องจ้างช่างกล้องมืออาชีพ ราคาหลักหมื่น ถึงหลักแสน
ปัจจุบันคุณถ่ายรูปโดยใช้ iPhone / Smart Phone
เพียงแต่จัด Composition ให้ดี ใช้ Application ช่วยแต่งภาพหน่อยก็ดูดี
แต่ถ้าไม่มี Sense เรื่องนี้เลย ใช้มืออาชีพช่วยแนะนำก็เหมาะสม
การทำ VTR / Website / Viral Clip / หนังสือดีๆ / คอร์สอบรมเยี่ยมๆ / Connection ดีๆ etc. ก็สามารถเข้าถึงได้ ง่ายกว่ายุคใดๆ
“ยุคนี้ เป็นยุคที่ ไม่ว่าใครก็สามารถประสบความสำเร็จ และมีโอกาสเข้าถึงทรัพยากรสู่ความสำเร็จ ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์โลก” เหตุผลเดียวที่คุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่
“อยู่ที่คุณตัดสินใจดำเนินชีวิตอย่างไร และจริงจังแค่ไหนกับการลงมือทำ”
Power of Wise Investment
“ลงทุนให้ฉลาด รู้จักให้เงินทำงานแทนคุณ”
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างหนึ่งที่หลายคนนึกไม่ถึงคือ “พลังของอัตราดอกเบี้ยทบต้น”
ทำไมเหล่าธนาคาร สถาบันการเงิน บัตรเครดิต และบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ สามารถสร้างธุรกิจหลักพัน หลักหมื่น หลักแสนล้านได้ในระยะเวลาเพียงชั่วอายุคน เพราะ “เค้าเข้าใจพลังแห่งการลงทุน” หากเราเริ่มสนใจเรื่องการเงินคุณจะรู้ว่าประตูบานนี้มีโอกาสมหาศาลซ่อนอยู่
คุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในการลงทุน จบปริญญาด้านการเงิน คุณก็สามารถลงทุนได้มากกว่าแค่ฝากเงิน ในโลกนี้มีผู้เชี่ยวชาญมากมาย ที่พร้อมให้บริการคุณ ทั้งฟรี หรือมีค่าตอบแทนอันน้อยนิด เมื่อเทียบกับผลที่เราได้ นอกจากเงินฝาก ยังมีประกันชีวิต กองทุนรวม หุ้น อนุพันธ์ ทองคำ ที่ดิน Start Up การสร้างสินทรัพย์อีกมากมาย หาหุ้นดีๆ ลงทุน วางในหุ้นแล้วลืมมันไปได้เลย ผ่านไปสัก 10 ปี คุณอาจตะลึงกับผลของมัน
ออมเงินเพียงวันละ 50 บาท ผ่านไป 30 ปี ด้วยอัตราดอกเบี้ยทบต้นที่เหมาะสม คุณจะมีเงินเก็บหลายสิบล้าน
จงให้ความสำคัญกับ “การลงทุนที่ฉลาด” เลือกการลงทุนที่มันถูกกับจริตคุณ แล้วคุณจะรู้ว่า
เมื่อเงินที่คุณหามา เริ่มทำงานต่อยอดให้คุณ มันช่างมีความสุข จนเวลาผ่านไป คุณจะเริ่มหยุดทำงานได้อย่างไม่รู้ตัว อิสระภาพทางการเงิน (Financial Freedom) เริ่มต้นจากคุณเริ่มสนใจการเงินจริงจัง เริ่มวันนี้ ไม่มีอะไรสายเกินไป เมื่อคุณสนใจอย่างจริงจังวิธีการจะตามมาเองครับ
Power of Right Knowledge
ต้องรู้ว่า หาความรู้และข้อมูลคุณภาพได้ที่ไหน
คนที่เข้าใจโลกการตลาดและการสร้างแบรนด์และตามโลกทัน จะรู้ว่า โลกในยุค Internet การตลาดที่ดีที่สุดคือ “การสอน” ดังนั้นเราจะเห็นผู้คนมากมาย ที่ออกมาให้ “ข้อมูล” และสถาปนาตนเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ทั้งในรูปแบบของการเป็นที่ปรึกษา (Consulting) โค๊ช (Coach) อาจารย์ ฯลฯ ซึ่งมีทั้ง “ของจริง” มีคุณภาพ และ “มือสมัครเล่น” ที่เน้นแค่สร้างภาพฉาบฉวย เมื่อข้อมูลล้นโลก สิ่งสำคัญมากสำหรับคุณ คือ “คุณต้องรู้ว่า จะหาข้อมูลคุณภาพได้ที่ใด” เพราะการได้ข้อมูลพิษ อาจเป็นเหมือนใส่ “ขยะความคิด” เค้าสู่ตัวเอง
บางคนสอนเรื่องการตลาด “แต่ในชีวิตจริงยังไม่เคยทำการตลาดใดๆ สำเร็จ”
บางคนสอนเรื่องการสร้างแบรนด์ “แต่เอาแค่แบรนด์ตนเองยังสร้างไม่ได้”
บางคนสอนเรื่องวิชาชีวิต “แต่ชีวิตตัวเอง ยังไปไม่ถึงไหน”
บางคนสอนเรื่องความสำเร็จ “แต่ความสำเร็จตนเองหามีไม่”
บางคนบอกตั้งใจมาแบ่งปัน “แต่กลับกั๊ก และทุกอย่างที่ทำ กลับเน้นประโยชน์ของตัวเองแบบทุกเม็ด”
ฯลฯ
ดังนั้น ก่อนพิจารณาอ่านหรือเชื่อใดๆ “อย่าเชื่อเพียงเพราะตามๆ กัน” ยึดหลักกาลามสูตร คิดพิจารณาด้วยตัวท่านเอง ดูให้แน่ชัดว่า “คนที่สอนได้ใช้รึเปล่า” สิ่งที่เค้าสอน “ถ้าเอาไปใช้แล้ว ได้ผลรึเปล่า” “หลีกเลี่ยงข้อมูลด้อยคุณภาพครับ” และอย่าหลงผิดว่า “ราคา คือ เครื่องสะท้อนคุณภาพ” สัมมนาหลายหมื่น หรือแสน ที่เข้าแล้ว “แสนเสียดาย” ทั้งเงิน เวลา ความรู้สึก ก็มีเยอะครับ สัมมนาดีๆ ที่ตั้งใจให้อย่าง “เกินคุ้ม” ก็ยังมีอยู่ทั่วโลก
โลกสมัยนี้ข้อมูลเหล่านี้หาไม่ยาก ย้อนดูอดีต สอดส่องปัจจุบัน เราจะมองเห็นอนาคต
“ข้อมูลคุณภาพ คือขุมทรัพย์ ที่จะทวีความก้าวหน้าได้อย่างไม่หยุดยั้ง”
Power of Your Mind
ใช้จิตและสมองอย่างฉลาด
คุณสามารถใช้จิตของคุณให้เพิ่มพลังทวีได้อย่างมหาศาล
ถ้าคุณฝึกจิตของคุณให้เข้มแข็งมันจะช่วยความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว
หากใครเข้าใจศาสตร์ของ “พลังจิตใต้สำนึก” (Subconcious Mind)
จะรู้ว่า “เมื่อโลกภายในเปลี่ยน โลกภายนอกจะเปลี่ยนตาม”
แนะนำ “The Power of Your Subconscious Mind” by Dr.Joseph Murphy
หนังสือ Best Seller ที่มียอดขายนับล้านเล่ม ที่จะช่วยให้คุณ “ทวีความสำเร็จ” อย่างมหัศจรรย์
จักรวาลนี้มีความสำเร็จมากมาย และเพียงพอสำหรับทุกคน แต่สิ่งดีๆ เหล่านั้นจะเข้ามาสู่ตัวเราได้ เงื่อนไขอย่างแรก คือ ”เราต้องเปิดใจ มีจิตที่แข็งแกร่งและเชื่อมั่นว่าคุณเป็นผู้สำเร็จได้” นึกถึงสิ่งใด เรามักจะได้สิ่งนั้น ดังนั้น หมั่นคิดถึงแต่เรื่องดีๆ สิ่งดีๆ จะเข้ามาหาคุณ
Power of Content Marketing
คุณต้องเขียน Content ดีๆเป็นและรู้จิตวิทยาในการเขียน
พลังทวีข้อนี้ จะทำให้คุณ “ตกตะกอนทางความคิด” และ “รู้แนวทางธุรกิจที่เหมาะกับยุคสมัย” ลองถามคำถามตัวเองง่ายๆ ดังนี้
ธุรกิจอะไรที่…?
– ช่วยคนอื่นเปลี่ยนชีวิตได้
– ผลตอบแทนดี
– ใช้พลังทวีแทบทุกข้อ
– ต้นทุนต่ำในการเริ่ม
– สร้างสรรค์ขึ้นมาได้ง่าย
– เหมาะสมกับยุคความรู้ (Information Age)
– มีคุณค่าสูง (High Value)
– รายได้เข้ามาตลอดแม้แต่เวลาคุณนอน
– ขายได้ทั่วโลก
– ได้รับการยกย่องจากสังคม
– ทิ้งมรดกไว้ให้คนรุ่นหลัง
– สร้างความดีในสังคม และต่อยอดองค์ความคิดต่อไปได้
สำหรับ ผม ไม่ว่าคุณทำธุรกิจใดๆ จงต่อยอดให้เหมาะสมกับยุคสมัยครับและหลักการสร้างธุรกิจ “ที่ดีที่สุดในยคข้อมูลข่าวสาร The Best Business In the Information Age คือ “ธุรกิจข้อมูล” (How-to Business หรือ Info Business)
สร้างสรรค์ Content ที่ดีเสมอ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของคุณ แบ่งปันในสิ่งที่คุณรู้ โลกนี้ไม่ใช่ยุคของการ “หวงวิชา” แต่เป็นการ “แบ่งปันสิ่งที่เรารู้ร่วมกัน เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าในสังคม” ร่วมเดินทางสู่สังคมแห่งคนดี มีจิตใจแห่งการให้และประสบความสำเร็จ “ในทุกด้าน” ร่วมกัน
Power of How-To Business
การผลิตเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม (Great Content)
พลังทวีข้อนี้ คือการคลี่คลายปมทั้งหมด ที่ร้อยเรียงกันของพลังทวีทั้ง 24 ข้อ
จากพลังทวีทั้ง 23 ข้อที่ผ่านมา คุณจะสัมผัสได้ถึงพลังของ “การสร้างธุรกิจ”
และธุรกิจที่ทรงพลังที่สุดอย่างหนึ่ง คือ “How-to Business”
ประเด็นที่เราควรใส่ใจ คือ “ทำอย่างไรเป็นเจ้าพ่อข้อมูลได้” ตั้งเป้าไปเลยครับ “ว่าคุณจะเป็นคนผลิต Great Content” เมื่อคุณตั้งเป้า คุณจะค้นหา และเมื่อค้นหาคุณจะเจอครับ อย่าลืมว่า “ของดีมีทั่วโลก” ประเด็นต่อมาคือ How-to Business นี่ ต่อยอดและไปทำเงิน สร้างธุรกิจอะไรได้บ้าง? สำหรับผม “ได้มหาศาล เท่าที่จินตนาการจะพาเราไปถึง” โลกนี้มีคนมากมาย “ต้องการความสำเร็จครับ”
ถาม ตัวเองดูครับ “เราทุกคน” ที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ ก็คงไม่มีใครอยากมีชีวิตที่ล้มเหลวเช่นกัน ธุรกิจ How-to คือ “การแบ่งปันเรื่องราว แนะนำ จุดไฟ ให้ประกายความคิด แนวทางสู่ความสำเร็จ ในเรื่องราวใดๆ ที่มีผู้สนใจ และเรามีความรู้ที่จะแบ่งปันได้ และผู้คนเห็นคุณค่า”
ผมอาจยกหลากหลายอาชีพ ที่เข้าใจพลังของธุรกิจนี้ เช่น นักเขียน, นักพูด (Key-note Speaker), สอนในองค์กร, สอนสัมมนา, การฝึกอบรมต่างๆ, โค๊ชกลุ่มย่อย (Life Coach / Business Coach / Topic Coach) / Internet Marketer, Internet Business, ฯลฯ
และถ้าอยากเข้าใจธุรกิจนี้ให้ลึกซึ้งขึ้น “จงเริ่มเขียนหนังสือครับ”
คำว่าหนังสือในที่นี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือวิชาการ
เริ่มง่ายๆ เขียนเรื่องที่คุณอยากเขียน และมีคนสนใจ
ทดสอบง่ายๆ ลองเขียนในโลกออนไลน์ก็ได้ครับ หากได้ผลตอบรับที่ดี
การออกหนังสือในสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องยากเย็น มีทั้งออนไลน์ (eBook) และสำนักพิมพ์มากมายเต็มไปหมด
ทั้งหากคุณมุ่งมั่นทำจริงจัง จนออกหนังสือได้
คุณสามารถใช้หนังสือโปรโมทคอร์สของคุณ (ถ้าคุณทำธุรกิจด้านฝึกอบรมใดๆ) ได้ด้วย หรือหากคุณเป็นนักธุรกิจ หนังสือนั้นจะกลายเป็นเครื่องมือในการ Promote Main Business ได้
เราเห็นตัวอย่างมากมาย หนังสือมี Impact ยิ่งกว่าการโฆษณาทั่วไปมากนัก เพราะโฆษณาทั่วไป เราต้องจ่ายเงินซื้อโฆษณา แต่หนังสือกลับเป็น “โฆษณา ที่คนยอมจ่ายเงินให้เรา”
เพราะเรา “มีเนื้อหาที่ดี (Great Content)” ให้คนสนใจ สิ่งสำคัญที่สุด คือ “คุณต้องเข้าใจตลาด”
จงเชื่อมั่นใน “ตัวตนของคุณ” ที่พร้อมจะ “ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่” ด้วยการ “พัฒนาตนเอง” ในทุกๆวัน เพิ่ม “คุณค่าในตน” และพร้อมส่งมอบคุณค่านั้น ให้ “สังคมในวงกว้าง”
สิ่งที่คุณทำอย่างต่อเนื่อง จะสะท้อน “ผลลัพธ์” อย่างยิ่งใหญ่ แปรผันตรงกับ “จำนวนผู้คน” ที่คุณให้คุณค่า
เริ่มวันนี้ ตอนนี้และทุกๆวัน เชื่อมั่นจากใจ ปีนี้จะเป็น “Best Year Ever”
ทั้งของคุณ ของผม และของเราทุกๆ คน ที่มุ่งมั่นในการประสบความสำเร็จในชีวิตทุกด้านร่วมกันครับ
Cr. Bundit Ungrangsee บัณฑิต อึ้งรังษี
คนที่ประสบความสำเร็จหลายคนผ่าน course อบรมของอาจารย์ บัณฑิต อึ้งรังษี หากคุณมีเวลาและทุนทรัพย์เพียงพอ ไปเรียน .. แล้ว ชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไป .. ตลอดกาล
https://web.facebook.com/BunditUngrangsee/
POWER OF IT