สีทาบ้าน ถ้าใช้ถูกประเภท คือ สีทารองพื้นภายใน และสีจริงประเภทภายใน จะกลิ่นไม่แรง แห้งไว ยิ่งสีแพงๆ ทาเสร็จก็เกือบจะนอนได้เลย
ปกติสีสมัยนี้จะเหม็นอยู่ประมาณ ไม่ถึง 1 ชั่วโมง แห้งเมื่อใดก็หายเมื่อนั้น
ถ้าใช้ไม่ถูกประเภท หรือ คุณภาพต่ำ กลิ่นจะระเหยออกมาเรื่อยๆ จนอ่อนลง แต่ตราบเท่าที่มันยังระเหยกลิ่นออกมา จะใช้อะไรมาดับกลิ่นก็ไม่มีประโยชน์เพราะมันจะออกมาเรื่อยๆ อาจจะเป็นเดือนก็ได้ ขึ้นกับคุณภาพ ประเภท ของสารเคมีที่ใช้ และ ความหนาของการทา โดยหลักถ้าเป็นวัสดุที่ถอดได้ควรไปอยู่ในที่โล่งแจ้งเพื่อให้แห้งหายไว หรือ ไม่ก็เลือกใช้ ให้ถูกประเภท หรือ คุณภาพดี
มีการผสมสีด้วยน้ำมันอะไร?
สีน้ำมัน ถ้าผสมด้วย “น้ำมันสน” จะมีกลิ่นตกค้างนานกว่า “ทินเนอร์”
แต่ถ้าผสมด้วยน้ำมัน “ชักแห้ง” กลิ่นจะตกค้างอยู่นานเป็นเดือนๆ
แต่ถ้าเป็น “สีน้ำ” จะไม่ค่อยมีกลิ่นตกค้างอยู่นานเท่าไหร่
ตัวการหนึ่งของกลิ่นสารระเหยที่รุนแรงนี้ มาจาการใช้ สีนํ้ามันที่ต้องมีส่วนผสมสารทำละลายเช่น นํ้ามันสน หรือ ทินเนอร์ มากกว่าจะเป็นพวกสีนํ้าพลาสติก
สีน้ำมัน มีกลิ่นแรง/ฉุน กลิ่นตกค้างได้หลายวัน อาจต้องเลือกชนิดที่แห้งหายไวราคาแพงกว่าเดิมหน่อย
ต้องดูว่าสียี่ห้ออะไร? และใช้ทินเนอร์ตัวไหน?
เพราะปกติ ถ้าช่างสีใช้ทินเนอร์ตามที่ผู้ผลิตสีน้ำมันแนะนำ (ทินเนอร์ของเขา) กลิ่นก็จะอ่อนลงทั้งระหว่างทาและตกค้างไม่นานวันเท่าไหร่ แต่ช่างส่วนใหญ่ (80-90%) นิยมใช้ “น้ำมันสน” แทน ซึ่งก็มีหลายยี่ห้อ/หลายเกรด-หลายคุณภาพ ตัวนี้ก็ส่งเสริมเรื่องกลิ่นมากขึ้น (เกิดปฏิกิริยาเคมีที่ไม่พึงประสงค์ เพราะส่วประกอบและคุณภาพ)
ใช้นิ้วหรือเล็บกดดู หากฟิล์มสีนิ่ม ช่างทาหนาเกินไป ใจร้อนอยากทาน้อยเที่ยว เนื้อสีข้างในก็เลยไม่ยอมแห้ง(ตลอดการ) อย่างนี้ต้องลอกสีออกโดยการขัด หรือใช้น้ำยาลอกสี แล้วเริ่มทาใหม่ให้ถูกวิธีตามที่ผู้ผลิตแนะนำ
ตรงบริเวณเรียบพื้นผิวอาจจะแข็งแห้ง แต่ถ้าเป็นมุมโค้ง หรือมุมอับ เอาเล็บกดลงไปมีการยุบตัวของฟิลม์ อย่างนี้ก็งานหยาบ แก้โดย
– ใช้เกรียงเหล็กขูด/แซะ ส่วนที่หนา/ไม่แห้งสนิทออกเท่าที่พอจะกระทำได้ ส่วนที่แห้งสนิทไม่จำเป็นต้องแก้
– ใช้กระดาษทรายเหล็ก(สีดำ) ชนิดหยาบปานกลาง ขัดผิวปรับให้ฟิล์มสีที่เหลือ ทั้งส่วนที่ถูกขูด/แซะ และส่วนที่แห้ง ให้เรียบเนียน กลมกลืนระนาบกัน ไม่จำเป็นขนาดต้องขัดสีเดิมออกจนหมด (ยากครับ/ยกเว้นมีสว่านไฟฟ้า ติดหัวขัดงานเหล็ก เป็นหัวแปรงขนเหล็ก)
– ใช้กระดาษทรายเหล็ก(สีดำ) ชนิดละเอียด ขัดลูบทั่วๆไปอีกซักเที่ยว เสร็จแล้วใช้ผ้า/แปรงปัดเศษฝุ่นที่เกิดขึ้นจากการทำงานข้างต้นให้เกลี้ยง
ทาสีทับหน้าใหม่ด้วย “สีน้ำมัน / สูตรน้ำ” ทาง่าย แห้งไว ไม่มีกลิ่น ใช้น้ำสะอาดเป็นตัวทำละลาย อ่านข้อแนะนำการใช้งานที่ข้างกระป๋องให้เข้าใจ ทาไม่หนา/ไม่บาง ด้วยแปรงทาสีเล็กๆหรือพู่กัน(ปากแบน)ใหญ่ๆ รวม 2 เที่ยว น่าจะสวยขึ้นและกลิ่นก็น่าจะหมดไปด้วย
แต่หากฟิล์มสีแห้งแข็งดี อาจใช้ทินเนอร์อะไรแปลกๆมาใช้แทน แก้โดยใช้กระดาษทรายละเอียดขัดลูบฟิล์มสีเดิมให้หยาบขึ้น แล้วทาสีทับหน้าลงไปใหม่
สีน้ำมัน สูตรน้ำ อาจจะหาซื้อได้เฉพาะร้าน HomePro/ไทวัสดุ/บุญถาวร/Globle House
เป็นไปได้ให้ใช้ “สีน้ำมัน สูตรน้ำ“
– TOA : Supershield Aqua Gloss
– ICI : Dulux Water-based Gloss
– Nippon Paint : Hydro Gloss
ไม่มีกลิ่นตกค้าง ทาง่ายกว่าสูตรน้ำมัน ราคาอาจจะสูงกว่านิดหน่อย ฟิล์มสีจะออก กึ่งเงา-กึ่งด้าน
สีน้ำมัน นั้น ผู้ผลิต/จำหน่ายสีทุกยี่ห้อ แนะนำให้ใช้กับ งานไม้และเหล็ก และไม่แนะนำให้ใช้กับงานปูน-คอนกรีต มีบางครั้ง พบเห็นบางอาคาร(เช่นร้านก๋วยเต๋ยว/ร้านอาหาร)ใช้กัน น่าจะใช้กันเปื้อน/ทำความสะอาดได้ง่าย ก็เลยเข้าใจผิดไป และใช้ตามๆกันไป
หากต้องการคุณสมบัติดังกล่าว ปัจจุบันมีสีน้ำอะครีลิค(กึ่งเงา) ที่มีฟิล์มสีที่แข็ง/แกร่ง ไม่เก็บคราบสกปรก เช็ดรอยคราบเปื้อนต่างได้ง่าย อาทิ ICI/Dulux Homematt, JOTUN/Majestic, Captain/WaxyShield และในบางยี่ห้อ/บางรุ่นยังยับยั้ง/ขจัดเชื้อแบคทีเรีย/ไวรัสได้อีกด้วย อาทิ TOA/SuperShield DuraClean, ICI/WeatherShield Easycare, CAPTAIN/ParaShield FreshiClean
ในอาคารที่อยู่อาศัย และจะมีการทาสีซ่อมแซม ควรพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สีน้ำมัน เพราะจะมีกลิ่นฉุนมากระหว่างทา และมีกลิ่นตกค้างต่อเนื่องอีกนานหลายๆวัน ดังนั้นช่วงที่มีกลิ่นตกค้างก็เท่ากับเราเสมือนดมทินเนอร์ไปอย่างไม่รู้ตัว
สียี่ห้อที่ระบุ หากได้มาตรฐาน มอก. (สีน้ำมันจะเลขที่ 327-2538) ก็จะปราศจากสารปรอทและตะกั่ว
สีน้ำมัน “สูตรน้ำ”
สีน้ำมันสูตรน้ำ จะเป็นประเภทอะครีลิคเรซิน (acrylic resin)
สีน้ำมัน ดั้งเดิมทั่วๆไป จะเป็นอัลขีดเรซิ่น (alkyd resin)
คุณสมบัติทั่วๆไป “สูตรน้ำ” จะดีกว่า “สูตรน้ำมัน”
หมายเหตุ : สีน้ำมันสูตรน้ำ มีอยู่ในเพียงบางยี่ห้อ(ชั้นนำ)เท่านั้น
– ทาง่ายกว่า & แห้งเร็วกว่า ใช้เวลา 2-3 ชม. (สูตรน้ำมัน 8-10 ชม.)
– ไม่สิ้นเปลืองทินเนอร์ และไม่มีกลิ่นรบกวนทั้งระหว่างทำงาน และไม่ทิ้งกลิ่นตกค้างเหมือนชนิดสูตรน้ำมัน
– ไม่เหลืองตัว (กรณีเลือกเป็นเฉดสีขาว หรือสีอ่อนๆ) ขณะที่ชนิดสูตรน้ำมันจะมีอาการเหลืองตัวไปทีละน้อย
– ทนแดด ทนฝน/ความชื้นได้ยาวนานกว่าเป็นเท่าตัว (ต้องใช้รองพื้นให้เหมาะสมด้วย)
– ราคาจะสูงกว่า และความเงาของฟิล์มสีด้อยกว่า (เหลือใช้ ยังเก็บไว้ใช้ต่อได้นานกว่าชนิดสูตรน้ำมัน)
สีน้ำมันสูตรน้ำ สีไม่มีกลิ่น TOA AQUA GLOSS สีขาว เงา ขนาด 1GL
https://shopee.co.th/สีน้ำมันสูตรน้ำ-สีไม่มีกลิ่น-TOA-AQUA-GLOSS-สีขาว-เงา-ขนาด-1GL-i.21453452.877978566
นวัตกรรมสีเคลือบเงาสูตรน้ำ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตจากอะครีลิคโมดิฟายด์ 100% คุณภาพสูงจากยุโรป ด้วย H2Oil Technology สูตรพิเศษเฉพาะของ ทีโอเอ ที่รวมคุณสมบัติของสีเคลือบผสานเข้ากับโมเลกุลของน้ำ จึงเป็นสีรักษ์โลกที่คุณภาพสูงกว่าเดิม ไม่ง้อทินเนอร์ เพียงผสมกับน้ำ ไร้กลิ่นฉุน ปลอดภัยต่อทุกชีวิตในบ้าน
สีเคลือบเงาสูตรน้ำ ไร้กลิ่นฉุน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีสาร VOCs ต่ำ จึงปลอดภัยกว่าสีน้ำมัน 10 เท่า ใช้ง่ายเพียงผสมน้ำ แห้งไวภายใน 1 ชม. สามารถใช้ในกับงานเร่งด่วน หรือต้องการขจัดปัญหากลิ่นรบกวน ขณะทาสี ช่วยป้องกันการเกิดสนิม สีขาวคงความขาวยาวนาน ไม่เหลืองตัว ยับยั้งแบคทีเรียและเชื้อรา โดย Microban ลิขสิทธิ์เฉพาะของ TOA ใช้ง่ายเพียงผสมกับน้ำ คงความขาวยาวนาน ไม่เหลืองตัว เหมาะสำหรับการทาพื้นผิว เหล็ก กัลวาไนซ์ ไม้ และปูนคอนกรีต
Ref.
กลิ่นสีน้ำมันไม่ยอมหาย 1เดือนกว่าแล้ว
https://pantip.com/topic/34420794
ช่วยด้วยค่ะ..คุณแม่ปวดหัวเพราะกลิ่นสีทาบ้านมาก จะทำยังไงดีคะ
https://pantip.com/topic/31333579
ช่วยด้วยครับ เรื่องของสีน้ำมัน ทาบ้าน
https://pantip.com/topic/13070294
https://www.thaimetallic.com/2019/12/19/ความแตกต่างระหว่าง-สีน้/
สีพลาสติกหรือสีอคริลิก (สีน้ำ)
ดูดกลิ่น
หอมแดง ประมาณ 1-2 กิโลกรัม ทุบให้แตก ให้มีน้ำหอมแดงออกมา แต่ไม่ต้องละเอียดวางไว้ตรงบริเวณที่ทาสี เพียงแค่ 2-3 ชั่วโมง กลิ่นสีก้อจะหายไป
—
หัวหอม
ผ่าหัวหอมออกเป็น 4 ส่วน หอมแดงลูกเล็กก็ทุบแล้วใส่ภาชนะวางกระจายไว้ทั่วห้อง หัวหอมจะมีคุณสมบัติดูดกลิ่นที่ติดบ้านให้หายเกลี้ยง หรือจะใช้มะกรูดก็ให้ผลดีเช่นเดียวกัน
กากกาแฟ : ใส่ถ้วยเล็กๆ วางไว้รอบห้อง จะช่วยดูดกลิ่นฉุนของสีทาบ้านให้หมดไป
น้ำส้มสายชู : เทน้ำส้มสายชูกลั่นใส่ถ้วย วางไว้รอบห้อง
ถ่าน : มีคุณสมบัติในการกำจัดกลิ่น เพียงแค่นำถ่านมาบดเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ภาชนะวางไว้ในห้อง1 คืน
กลิ่นวานิลลา หรือตะไคร้หอม : ช่วยผ่อนคลาย และยังกำจัดกลิ่นสีได้ ให้หยดน้ำมันหอมกลิ่นวานิลลา หรือตะไคร้หอม ลงบนสำลีแบบก้อนกลม แล้วใส่ลงในชามที่เติมน้ำสะอาดก่อนวางไว้ทั่วห้อง
เทียน : จุดเทียนแล้วตั้งไว้ในห้องสัก 2-3 เล่ม เทียนจะช่วยกำจัดกลิ่นสีให้หายไปอย่างได้ผล ให้ตั้งเทียนดังกล่าวไว้ในจานที่ใส่น้ำ เพื่อป้องกันอันตรายจากการไหม้
มะนาว : 10 ลูก ฝานเป็นแผ่นบางๆ แล้วใส่ภาชนะแล้วตั้งทิ้งไว้ให้ทั่วห้องสัก 2-3 วัน มะนาวไปช่วยดูดกลิ่นฉุน
เบกกิ้งโซดา : เทเบกกิ้งโซดาใส่ถ้วยแล้ววางไว้ทั่วห้อง บ้านไหนปูพรม ให้โรยให้ทั่วๆ พรมแล้วทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง ตอนเช้าก็ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก กำจัดกลิ่นสีแล้ว ยังทำความสะอาดและกำจัดกลิ่นบนพรมไปในตัว
สับปะรด : หั่นสับปะรดสุกออกเป็นแว่นหนาๆ แล้ววางไว้หลายๆ จุดรอบห้อง สับปะรดไปช่วยดูดกลิ่นสีทาบ้านอย่างได้ผล ใส่ไว้ในภาชนะหล่อน้ำกันมด
น้ำเปล่า : เติมน้ำเปล่าลงในถัง แล้วตั้งไว้รอบ ๆ ห้อง น้ำเปล่าก็จะช่วยดูดกลิ่น วิธีนี้อาจจะไม่ได้ผลดีเท่าวิธีอื่น