สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย 13 ม.ค. 66 14:10 น.
โบรกฯ มองควบรวม TRUE – DTAC คาดมูลค่าบริษัทแตะ 6 หมื่นลบ. ให้กรอบราคาเป้าหมายบริษัทใหม่ 10-10.40 บาท ส่วนใหญ่แนะระยะสั้น หากราคาพุ่งแรงก่อนกระบวนการควบรวมแล้วเสร็จ แนะทยอยทำกำไร นักลงทุนระยะยาวถือต่อได้ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีมติเรียกประชุมผู้ถือหุ้นร่วม ในวันที่ 23 ก.พ.66 เพื่อพิจารณาและอนุมัติเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการควบบริษัท เบื้องต้นกำหนดชื่อใหม่ในการควบรวมเป็น “บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE)” แต่หลังจากการควบรวมแบรนด์ TREU และ DTAC จะแยกให้บริการลูกค้าของตนเองต่อเนื่อง และจะดำเนินการควบรวมให้เสร็จภายในไตรมาส 1/66 1 หุ้นเดิมใน TRUE ต่อ 0.60018 หุ้นในบริษัทใหม่ 1 หุ้นเดิมใน DTAC ต่อ 6.13444 หุ้นในบริษัทใหม่ จะหยุดพักการซื้อขายหุ้น TREU และ DTAC ช่วงวันที่ 20 ก.พ. – 2 มี.ค. 66 เพื่อนำหลักทรัพย์ใหม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ก่อนจะนำกลับเข้ามาซื้อขายใหม่ในวันที่ 3 มี.ค. 66 บล.กรุงศรี ประเมินมูลค่าหลังควบรวม TRUE-DTAC ที่ 6 หมื่นลบ. 10 บาท ประเมินจากการคำนวณมูลค่าบริษัทที่จะเกิดขึ้นหลังการควบรวม (Synergy Value) ของทั้ง 2 บริษัท คาดอยู่ที่ระดับประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลังจากเข้าเทรดวันที่ 3 มี.ค.66 ไปอีก 2-3 สัปดาห์ ทีมผู้บริหารน่าจะประกาศแนวทาง Synergy Value ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งหากมูลค่าของ Synergy Value มากกว่าที่เราประมาณการไว้ มีโอกาสจะประเมินราคาพื้นฐานใหม่ ทั้งนี้ ในเบื้องต้นระหว่างจะถึงกระบวนการต่างๆ ในช่วงนี้ก่อนจะหยุดการซื้อขาย 20 ก.พ. 66 คาดว่าราคาหุ้นทั้ง TRUE และ DTAC มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นเก็งกำไรข่าว และหากเกินราคาเป้าหมายที่วางไว้คือ 5 บาท และ 50.50 บาทตามลำดับ แนะนำให้นักลงทุนขายทำกำไรออกมาก่อน และกลับเข้ามาซื้ออีกครั้งหลังหุ้นเข้ามาเทรดในนามบริษัทใหม่รวมถึงนโยบายต่างๆ ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะดำเนินธุรกิจ และการแข่งขันอย่างไร แต่หากราคาหุ้นทั้ง 2 ยังไม่เกินราคาเป้าหมายดังกล่าว แนะนำถือต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการแข่งขันด้านราคาในอุตสาหกรรมจะลดลง เนื่องจากหลังจากนี้ ADVANC ผู้ซึ่งเห็นโอกาสการแข่งขันด้านราคาตั้งแต่ไตรมาส 4/64 เพื่อดึงลูกค้าจากคู่แข่งอีก 2 ราย จากประเด็นควบรวม ผลคือไม่ได้ส่งผลดีต่องบการเงินของบริษัทฯ ซึ่งภาพรวมลูกค้าได้กลับมาเพียงเล็กน้อย แต่ผลกำไรในช่วงปี 65 ชะลอตัวลง ซึ่งตอนนี้ ADVANC เริ่มปรับขึ้นราคาตั้งแต่ไตรมาส 4/65 ในทุกมิติทั้งมือถือ และอินเตอร์เน็ตบ้าน ดังนั้นค่าย TRUE และ DTAC คงไม่กลับมาแข่งขันกันเรื่องราคาอีก เพราะ ADVANC ซึ่งยังเป็นเบอร์ 1 ในตลาด ไม่เล่นเรื่องราคาแล้ว ด้าน TRUE ซึ่งก่อนหน้านี้แข่งขันเรื่องราคาเพื่อดึงฐานลูกค้า หากควบรวมกับ DTAC แล้ว ฐานลูกค้าจะมากกว่า ADVANC จึงไม่จำเป็นต้องมาแข่งขันด้านนี้อีก โดยมองว่าทั้ง 2 บริษัทฯ ที่ควบรวมคงมุ่งเน้นการทำหลังบ้านให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดมากกว่า ส่วน ADVANC ยังมีเรื่อง 3BB ที่ต้องไปจัดการหลังบ้านด้วยเช่นกัน *** โบรกฯ ประเมินราคาใหม่หลังควบ TRUE-DTAC สูงสุด 10.40 บ. นายประสิทธิ์ สุจิรวรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.บัวหลวง เปิดเผยกับสำนักข่าว “อีไฟแนนซ์ไทย”ว่า จากกระบวนการควบรวมดังกล่าว ยังแนะนำให้นักลงทุนถือ TRUE และ DTAC ต่อเนื่อง โดยให้ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท และ 61.50 บาท ตามลำดับ ส่วนราคาเป้าหมายของบริษัทใหม่ เมื่อคำนวณในแง่สัดส่วนการแลกหุ้นและคำนวณ Synergy แล้วจะอยู่ที่ระดับ 10.40 บาท ซึ่งการควบรวมจะได้ประโยชน์ในแง่ต้นทุน รายได้ ระยะยาวเป็นบวก ซึ่งการที่ผู้เล่นลดลงการแข่งขันคงไม่รุนแรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา นายพิสุทธิ์ งามวิจิตรวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย ระยะสั้นราคาหุ้นทั้ง TRUE และ DTAC มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 5.15 บาท และ 50 บาท ในช่วงก่อนหยุดเทรดวันที่ 20 ก.พ. 66 เนื่องจากมองว่า กลุ่ม Telenor และ CP ต้องนำเงินไปจ่ายในส่วนของผุ้ถือหุ้นไม่เห็นด้วย ซึ่งระยะสั้นนักลงทุนมีโอกาสทำกำไรได้ ส่วนระยะยาวหากคิดราคาใหม่ของ TRUE และ DTAC จะอยู่ที่ระดับ 7.80 บาท แต่โบรกฯ ประเมินราคาเป้าหมายหลังควบรวมไว้ที่ 10.30 บาท โดยคำนวณจากรายได้ ค่าใช้จ่าย การแข่งขันน้อยลง การลงทุนน้อยลง รวมถึงคำนวณจากการเชื่อมโยงที่เกิดขึ้นหลายทาง (multiple relating) ซึ่งการรวมตัวกันทำให้ผลกำไรดีขึ้น มีโอกาสที่ P/E จะปรับตัวสูงขึ้นด้วย ซึ่งหากใครสามารถลงทุนในระยะยาว สามารถซื้อหุ้นและถือต่อเนื่องจนถึงหลังกลายเป็นบริษัทใหม่ สำหรับกรณีการใช้ชื่อบริษัทเป็น ทรู คอร์ปอเรชั่น มองเป็นแง่ดีไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายด้านการตลาดเพื่อให้ลูกค้าจดจำ “ราคาหุ้นเราคิดใหม่ที่ 10.30 บาท มาจากมูลค่าที่ไม่มีการควบรวมที่ 6 บาท , Synergy 3 บาท และ multiple relating อีก 1.30 บาท” *** บล. หยวนต้า มองเชิงกลยุทธ์ ซื้อ DTAC ได้เปรียบสุดจาก SWAP Ratio คุ้มค่า นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) ยังไม่สามารถประเมินราคาเหมาะสมของการควบรวมทั้ง 2 ธุรกิจ เนื่องจากต้องรูอดูการทำงานร่วมกัน(Synergy) ของทั้ง 2 บริษัทก่อน และอาจเป็นการชี้นำมูลค่ากิจการใหม่ การรวมแบรนด์ดังกล่าวจะทำให้ราคาเหมาะสมของ TRUE อยู่ที่ 6 บาท และ DTAC อยู่ที่ 55.75 บาท ซึ่งภาพรวมคู่แข่งจะลดลง โครงสร้างอุตสาหกรรมดีขึ้น ส่วนเชิงกลยุทธ์ประเมินซื้อ DTAC ได้เปรียบมากสุดจาก SWAP Ratio คุ้มค่าที่สุด ขณะที่ ADVANC ควรปรับขึ้นตามกลุ่ม เพราะได้ประโยชน์โดยตรงจากการรวมตลาดสื่อสารในระยะยาว ทำให้ราคาเหมาะสมของ ADVANC สูงขึ้นด้วย เป้าหมายอยู่ที่ 235 บาท แนะนำกลยุทธ์ซื้อทั้ง 3 ตัว ด้านการตั้งชื่อบริษัทใหม่ชื่อ TRUE มองว่าสมเหตุสมผล เพราะแบรนด์มีมูลค่าการคงไว้ย่อมดีกว่าสร้างแบรนด์ใหม่ ขณะที่ DTAC ไม่ได้ทำธุรกิจครอบคลุมหลายอย่างเหมือน TRUE การเลือกแบรนด์ TRUE เป็นทางเลือกที่ฉลาดในมุมมองของโบรก สำหรับบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า มีความเป็นไปได้ว่าก่อนจะหยุดการซื้อขาย จะมีการทำ Arbitrager ระหว่างหุ้น TRUE และ DTAC นั่นคือ ถ้าใช้ราคาปิดของ TRUE และ DTAC นำไปแลกเป็นหุ้นใหม่จะได้ที่มูลค่า 8.06 และ 7.54 บาท ดังนั้นหากขาย TRUE มาซื้อ DTAC ก็จะได้ต้นทุนที่ต่ำกว่าในการนำไปแลกเป็นหุ้นใหม่ |