สมาร์ทโฟนถือเป็นเรื่องปกติที่เราพบเห็นได้ทั่วไป และยิ่งมีอุปกรณ์อีกเยอะแยะมากมายที่มาช่วยเสริมให้สมาร์ทโฟนเป็นได้มากกว่าโทรศัพท์มือถือธรรมดา ก็ยิ่งทำให้ชีวิตเราทุกวันนี้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
วันนี้เรามีนาฬิกาอัจฉริยะ ที่จะมาทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนของเรา ช่วยให้เราดูแลคนในครอบครัวได้แม้ต้องอยู่ไกลกัน โดยเฉพาะผู้ป่วย, เด็ก หรือผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง
Embrace ตัวเรือนนาฬิกาทำมาจากโลหะขัดเงาอย่างดี สายทำมาจากหนังแท้จากอิตาลี เวลาที่สวมใส่สายจะทำการรัดกับข้อมือโดยใช้แม่เหล็ก ทำให้สามารถขยายขนาดได้ มี LED เป็นตัวบอกเวลา และสำหรับใครที่ใช้เฉพาะดูเวลาอย่างเดียวแบตเตอรี่สามารถใช้ได้นานถึง 6 เดือนอีกด้วย
Embrace นาฬิกาอัจฉริยะที่สามารถใช้งานได้เหมือนนาฬิกาอัจฉริยะทั่วไปที่ใช้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย, การบันทึกการทำกิจกรรมทั่วไป และดูเวลาได้ แต่ที่พิเศษกว่าก็คือ Embrace สามารถตรวจจับการหมดสติของคนที่ใช้นาฬิกานี้
หรือแม้แต่การตรวจวัดความเครียด โดยเจ้านาฬิกานี้จะทำการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน หากมีคนหมดสติระบบจะทำการสั่นเตือนไปยังผู้ที่ใช้แอพฯนี้ทันที ทำให้เราสามารถช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Indiegogo
Credit Dailygizmo
ZANO โดรนจิ๋วบังคับถ่ายภาพก็ได้ถ่ายวีดีโอก็แจ่ม
สมัยนี้การใช้ Drone ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แล้ว เพราะภาพยนตร์บางเรื่อง, มิวสิควิดีโอ หรือคนทั่วๆไปก็หันมาใช้ Drone ในการถ่ายภาพหรือวิดีโอมุมสูงกันมากขึ้น แต่ด้วยขนาดของมันที่ค่อนข้างใหญ่และพกพาลำบาก ทำให้บางครั้งเราก็พลาดมุมสวยๆเวลาไปท่องเที่ยวกันได้
Torquing groupได้ทำการพัฒนา Drone ให้มีขนาดจิ๋วลงจนได้ออกมาเป็น ZANO ที่จะช่วยให้เราไม่พลาดมุมเจ๋งๆเวลาไปเที่ยวอีกต่อไป โดยตัวเครื่องของเจ้า Drone ตัวนี้มีน้ำหนักแค่ 55 กรัมเท่านั้นเอง แถมยังมีขนาดที่เล็กสะดวกแก่การพกพา และที่สำคัญคือราคายังเบาเหมือนน้ำหนักตัวอีกด้วย
การทำงานของ ZANO จะทำการเชื่อมต่อกับแอพฯบนสมาร์ทโฟน ใช้งานได้ง่าย โหมดหลักๆที่มีก็คือ โหมดถ่ายภาพนิ่ง, ถ่ายวิดีโอ, ถ่ายภาพแบบพาโนราม่าและ Free Flightสามารถบังคับซ้ายขวาได้ตามปกติ
ส่วนด้านบนมีข้อมูลสถานะของแบตเตอรี่ว่าเราเหลืออีกกี่นาทีในการใช้งานและข้อมูลบอกระดับความสูงของ Drone ส่วนด้านล่างของแอพฯก็จะมีปุ่มสำหรับกดเพื่อถ่ายรูปนั่นเอง
นอกจากนี้สำหรับผู้เล่นมือใหม่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้งาน เพราะมีโหมด Virtual Tetherและ Follow Meที่จะช่วยตั้งค่าระยะทางไม่ให้มันบินออกไปนอกเส้นทางที่เราต้องการ และที่พิเศษคือZANOมีการฝังเซ็นเซอร์ที่จะช่วยให้ Drone สามารถบินหลบสิ่งกีดขวางได้ และยังสามารถตรวจจับตำแหน่งของ Drone หรือแม้แต่ตอนที่แบตเตอรี่ใกล้หมด มันก็สามารถบินกลับมาหาคนที่บังคับได้ทันที
ในส่วนของตัวกล้องมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว มีความทนทานและกันน้ำได้ เรียกได้ว่าทำออกมาเพื่อตีตลาดของกล้อง GoPro กันเลยทีเดียวเพราะนอกจากคุณสมบัติจะคล้ายกับกล้อง GoPro แล้ว(แต่เจ๋งกว่าตรงที่สามารถถ่ายภาพมุมสูงได้) ราคาของ ZANO ยังถูกกว่าอีกด้วย โดยสนนราคาขายอยู่ที่ประมาณ 184.95 ยูโร และจะเริ่มวางจำหน่ายจริงเดือนมิถุนายนปีหน้า ใครสนใจก็เก็บเงินรอซื้อกันได้เลย
credit dayly gizmo
Cicret กำไลข้อมือล้ำๆ เปลี่ยนผิวหนังคุณให้ทัชสกรีนได้
ใครที่ชอบดูภาพยนตร์แนว Sci-fi คงจะคุ้นเคยกับความไฮเทคที่ดูจะล้ำโลกอยู่เสมอๆ อย่างเช่น ฉากที่พระเอกสามารถกดดูข้อมูลหรือป้อนคำสั่งต่างๆผ่านทางผิวหนังได้เลย ใครที่ได้ดูก็คงรู้สึกว่ามันเจ๋งมาก เท่ห์สุดๆ อยากจะทำได้แบบนั้นบ้าง ใครจะไปคิดล่ะว่าวันนึงจะมีคนที่คิดประดิษฐ์อุปกรณ์ไฮเทคแบบนี้ให้เกิดขึ้นมาได้
Cicret เป็นต้นแบบสายรัดข้อมือแห่งอนาคต ที่มีความพิเศษกว่าสายรัดข้อมือไฮเทคแบบอื่นๆที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ เพราะมันสามารถแสดงผลข้อมูลต่างๆบนผิวหนังของเราได้ โดยอุปกรณ์จะมีเซ็นเซอร์ทั้งหมด 8 ตัว ที่จะหน้าที่เหมือนเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ฉายภาพลงบนผิวหนังของเรานั่นเอง ซึ่งเจ้าสายรัดข้อมือตัวนี้จะทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ผ่านทางสัญญาณบลูธูท
วิธีการใช้งานก็แค่บิดข้อมือ เพียงเท่านี้ภาพต่างๆก็จะถูกฉายออกมาบนแขนเราแล้ว และเรายังสามารถ Touch Screen ได้เหมือนเวลาใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตอีกด้วย คราวนี้จะดูหนังฟังเพลง เล่นเน็ตเวลาเข้าห้องน้ำก็ไม่ต้องกังวลว่าสมาร์ทโฟนจะตกน้ำอีกต่อไป นอกจากจะดูล้ำสมัยแล้วมันยังเจ๋งสุดๆไปเลย
ตอนนี้สายรัดข้อมือ Cicret ยังไม่มีออกจากจำหน่ายจริง และยังไม่รับการพรีออเดอร์ใดๆทั้งสิ้น เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการระดมทุนผ่านทางเว็บไซต์ http://www.cicret.com/ ใครสนใจก็เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลย
Credit Dailygizmo
Lamborghini 88 Tauri สมาร์ทโฟนสุดหรูเชื้อสายอิตาลี
หากพูดถึงรถ Lamborghini คงไม่มีใครไม่รู้จักกิตติศัพท์ขึ้นชื่อในเรื่องความแรงหรูหราอลังการอย่างแน่นอน แต่เคยนึกภาพเล่นๆ กันมั้ยว่าถ้าแบรนด์ชั้นนำอย่าง Lamborghini หันมาผลิตโทรศัพท์สมาร์ทโฟนจะมีรูปร่างเป็นอย่างไร และราคาแพงขนาดไหน วันนี้มีคำตอบมาให้ได้รู้ได้เห็นกับตากันเลย กับเจ้าสมาร์ทโฟนหน้าตาเลิศหรูอลังการเชื้อสายอิตาลีที่มีชื่อรุ่นว่า Lamborghini 88 Tauri ที่มีผู้ออกแบบให้เป็นถึงลูกชายของ Ferruccio ผู้ก่อตั้ง Lamborghini เลยทีเดียว
แน่นอนว่าคงไม่มีใครไม่อยากรู้ถึงสเปคของเจ้าสมาร์ทโฟน Lamborghini 88 Tauri ตัวนี้ว่าจะเทพขนาดไหน โดยตัวสมาร์ทโฟนมี 2 รูปแบบให้เลือกระหว่างตัวเครื่องที่เป็นวัสดุพรีเมี่ยมผลิตจากโลหะกับหนังแท้ มีขนาดหน้าจอประมาณ 5 นิ้ว HD CPU Quad Core Snapdragon 801 สี่แกน 2.3 GHz มาพร้อมกับ Ram ขนาด 3 GB และหน่วยความจำประมาณ 64 GB ใช้งานได้นานด้วยแบตเตอรี่ขนาด 3200 mAh
ส่วนกล้องด้านหลังก็มีความละเอียดมาให้ถึง 20 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล แถมผลิตจำนวนจำกัดซะด้วยเพียง 1,947 เครื่องเท่านั้น (ตามปีเกิดของเจ้าของ Lamborghini)
ซึ่งราคาคงไม่ต้องพูดถึงเพียงแค่ 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ ตีเป็นเงินไทยก็อยู่ราวๆ 198,000 บาทเท่านั้นเอง เชื่อได้เลยว่าถือขึ้นมานี่ไฮโซไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน
แน่นอนว่ากลุ่มเป้าหมายทางการตลาดก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเน้นไปที่กลุ่มคนที่มีเงินซื้อรถ Lamborghini ขับได้หรือขับรถแบรนด์หรูนี้อยู่แล้ว เรียกว่ามีเงินซื้อรถได้แล้วสมาร์ทโฟนราคาแค่นี้นับเป็นเรื่องสิวๆ ไปเลย จริงมั้ย?
credit dayly gizmo
Hendo Hoverboard บอร์ดลอยได้! ตัวแรกของโลก
หากพูดถึง Hoverboard (โฮเวอร์บอร์ด) อุปกรณ์คล้ายๆ สเก็ตบอร์ดที่สามารถลอยได้เชื่อว่า หลายๆ คนคงต้องนึกถึงหนังเรื่อง Back to the Future 2 ของ Robert Zemekisอย่างแน่นอน กับฉากเด็ดในความทรงจำวัยเด็กตอนที่พระเอกได้กระโดดขึ้นไปบนบอร์ด Hoverboard ที่สามารถต้านแรงโน้มถ่วงวิ่งข้ามแม่น้ำได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการปล่อยคลิป Hoverboard (โฮเวอร์บอร์ด) มาครั้งนึงแล้ว ซึ่งทำมาเหมือนในหนังแบบเป๊ะๆ (เล่นพาตะลึงกันเลยทีเดียว) แต่แล้วก็ได้มีการพิสูจน์ออกมาว่าเป็นคลิปปลอมที่ทำ “เฟค” ขึ้นเพื่อโปรโมทการระดมทุนมาพัฒนาโปรเจคนี้
แต่ล่าสุดก็มีคนเนรมิตให้มันมีตัวตนจริงๆ ขึ้นมาได้แล้วและถือเป็น Hoverboard ตัวแรกของโลกด้วย โดยทีมงานจาก Hendo
Hendo Hoverboard ตัวนี้สามารถลอยเหนือพื้นดินได้จริงๆ ประมาณ 3/4 นิ้วโดยใช้ผิวหน้าที่เป็นโลหะชนิดพิเศษที่สามารถสร้างสนามแม่เหล็กที่เรียกว่า Magnetic Levitationขึ้นมา
ด้วยเครื่องกำเนิดแม่เหล็กสีตัวตามมุมของบอร์ด ที่มีคุณสมบัติในการช่วยผลักดันให้บอร์ดนี้ลอยขึ้นเหนือพื้นดินได้อย่างสบายๆ และยังสามารถรองรับน้ำหนักของมนุษย์ได้ถึง 200 ปอนด์ หรือประมาณ 90 กิโลกรัม
ซึ่งแน่นอนว่าเดี๋ยวจะหาว่าราคาคุยรึป่าว โดยทาง Hendo ก็ได้นำเซียนสเก็ตบอร์ดระดับตำนานอย่าง Tony Hawk มาลองของให้ได้ชมกัน
หลังจากที่เจ้าตัวฝึกซ้อมอยู่สักพักก็สามารถบังคับบอร์ดตัวนี้ได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าโปรเจคนี้จะสามารถระดมทุนรอบแรกได้สำเร็จบน Kickstarter ไปแล้ว แต่ทาง Hendo ก็ได้ยังเจอข้อจำกัดอย่างเช่น ตัวบอร์ดที่สามารถลอยได้เฉพาะพื้น อะลูมิเนียม โลหะ หรือ ทองแดง เท่านั้น และยังควบคุมได้ยากมาก ซึ่งต้องใช้การฝึกฝนพอควร
ใครที่สนใจอยากร่วมระดมทุน ให้ไปที่เว็บ Kickstarter นี้ได้เลยซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้คนเอาโปรเจคเจ๋งๆ มานำเสนอ เพื่อให้มีคนช่วยระดมทุนพัฒนาโปรเจคนั้นๆ ปัจจุบันโปรเจคHoverboard (โฮเวอร์บอร์ด) ก็มียอดระดมทุนไปแล้วถึง 279,052 ดอลลาร์ (ทะลุเป้าหมายที่ 250,000 ดอลลาร์แล้ว)
ที่มา http://www.dailygizmo.tv/
BitBite หูฟังวิเคราะห์พฤติกรรมการกิน
ปัจจุบันกระแสรักสุขภาพกำลังมาแรง หลายๆคนหันมาใส่ใจเรื่องของการออกกำลัง รวมไปถึงการรับประทานอาหารแบบคลีนกันมากขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นกระแสที่ดีและน่าทำตามมากๆ เพราะไม่ใช่แค่เราจะมีร่างกายที่ดูสวยงามสมส่วน แต่ยังช่วยให้ร่างกายของเราสมบูรณ์แข็งแรงอีกด้วย
นอกจากเรื่องของการออกกำลังกายและอาหารที่เรารับประทานแล้ว ลักษณะนิสัยในการทานของเรา ก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เรารับประทานอาหารได้ถูกสุขลักษณะมากยิ่งขึ้น โดยเราสามารถเช็คทุกอย่างที่กล่าวมานี้ได้ผ่านทางอุปกรณ์ที่มีชื่อว่า BitBite
อุปกรณ์ตัวนี้จะมาพร้อมกับไมโครโฟนและลำโพง เราสามารถสั่งการด้วยคำสั่งเสียงและดูข้อมูลได้ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน วิธีการใช้งานก็เหมือนเราใช้หูฟังทั่วๆไป โดยBitBite จะทำการจับสัญญาณจากการเคี้ยวอาหารของเรา เพราะการเคี้ยวอาหารนั้นสามารถบอกได้ถึงปริมาณอาหารที่เราทานเข้าไป หรือเวลาที่เราใช้ในการทาน ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้จะถูกนำไปประมวลผล
ผลที่ได้ก็จะมีตั้งแต่สารอาหารหลักๆ ที่เราจะได้, ปริมาณแคลอรี, ความเร็วเฉลี่ยในการเคี้ยวอาหารของเรา และยังช่วยให้คำแนะนำที่ถูกต้องเกี่ยวกับการลดหรือเพิ่มปริมาณอาหาร เพื่อให้เราได้สารอาหารที่เพียงพอกับน้ำหนักตัวของเรา หรือแม้กระทั่งคำแนะนำในการเคี้ยวอาหาร ว่าควรจะช้าหรือเร็ว
เนื่องจากการเคี้ยวอาหารให้ละเอียดนั้นมีความสำคัญมาก เพราะส่งผลต่อสุขภาพและอวัยวะภายในหลายระบบ เช่น ระบบการย่อยอาหาร เนื่องจากการเคี้ยวอาหารเป็นขั้นตอนแรกของระบบ และเมื่อกลืนลงสู่กระเพาะแล้ว กรดในกระเพาะจะเข้าไปย่อยสลาย จากนั้นสารอาหารจะถูกดูดซึมผ่านกระเพาะอาหารและผนังลำไส้เล็กเข้าสู่ร่างกาย ถ้าเราสามารถบดอาหารให้ละเอียดมากๆ การย่อยอาหารก็จะดี ร่างกายก็สามารถดูดซึมสารอาหารเพื่อนำไปใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับใครที่อยากรู้รายละเอียดของ BitBite ก็เข้าไปดูกันได้ในเว็บไซต์ Indiegogo สนนราคาอยู่ที่ $109 ถ้าใครสนใจสั่งซื้อตอนนี้ก็จะมีที่ชาร์จและแอพพลิเคชั่นมาให้ด้วย ไหนๆ เราก็หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมาขนาดนี้แล้ว มีเจ้าอุปกณ์นี้ติดตัวไว้ก็ถือได้ว่าเรามีผู้ช่วยที่ดี ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ที่มา http://www.dailygizmo.tv/
LG AKA สมาร์ทโฟนอัจฉริยะ! แสดงอารมณ์กะพริบตาได้
สำหรับสมาร์ทโฟนในยุคนี้ใครยิ่งมีลูกเล่นที่โดดเด่นแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใครก็ยิ่งได้รับความสนใจจากลูกค้า โดยเฉพาะในงาน World IT Show 2014 ที่ ปูซาน เกาหลีใต้ เมื่อ 20-23 ตุลาคม ผ่านมานี้ บรรดาค่ายสมาร์ทโฟนดังๆ ต่างก็มาปล่อยของโชว์ทีเด็ดกันมากมายแต่หนึ่งในนั้นที่เด่นสะดุดตามากที่สุดเห็นจะไม่พ้นค่ายดังอย่าง LG ที่งานนี้ปล่อยสมาร์ทโฟนอินดี้ที่มีชื่อว่า LG AKA ที่มาพร้อมนิยามเจ๋งๆ ที่ว่า เป็นมือถือที่สามารถแสดงอารมณ์ของผู้ใช้งานได้ ฟังแค่นี้ก็น่าชวนอยากรู้อยากเห็นแล้วใช่มั้ยละ ว่ามันเป็นยังไง?
LG AKA มีความสามารถในการแสดงอารมณ์ได้ โดยจะมาพร้อมกับเคสที่ปิดด้านหน้าตัวเครื่องและจะเหลือพื้นที่ด้านบนสำหรับจอภาพเพื่อแสดงอารมณ์ของตัวมือถือเป็นกราฟฟิคลูกตากะพริบได้ ด้านล่างเป็นฝาหน้าที่สามารถเปลี่ยนกรอบได้
ซึ่งทาง LG กล่าวว่ามือถือแต่ละเครื่องจะแสดงอารมณ์ตามลักษณะการใช้งานของคุณเอง รวมถึงฟีเจอร์ที่ใช้ เช่น นาฬิกาปลุก,แอป,เพลง ที่กำลังฟังอยู่ เป็นต้น (ส่วนสเปคเครื่องนั้นยังไม่มีรายละเอียดออกมา)
โดย LG จะเน้นแนวคิด “ตัวตน (Personal และ ปรับแต่งได้ (Customizable)” การปรับแต่งชิ้นส่วนมือถือให้เข้ากับบุคลิกของผู้ใช้นั้น ดังเช่นค่ายมือถือในอดีตเคยทำมา คือการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้เลือกเปลี่ยนชิ้นส่วนเป็นสีที่ชอบได้ เช่น การเปลี่ยนสีหน้ากาก ให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
LG AKA มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ด้วยกัน ก็คือ สีดำ,สีขาว, สีเหลืองและสีชมพู
ทั้งนี้ทาง LG เปิดเผยว่าจะกำหนดวางจำหน่าย LG AKA นี้มีกำหนดวางจำหน่ายในเกาหลีใต้ช่วงเดือนหน้าและอาจไม่ได้กระจายไปยังตลาดมือถือในโซนเอเซีย เพราะมันยังเป็นแค่ Concept Device แต่ไม่แน่ถ้าตลาดให้การตอบรับดีก็ยังมีโอกาสให้เราได้ใช้กัน
RescueMe Balloon! มิติใหม่แห่งแคปซูลพลุ SOS ลอยได้
เวลาดูภาพยนตร์แล้วมีฉากติดเกาะ ติดป่า หรือมีฉากที่ต้องส่งสัญญาณ SOS เพื่อขอความช่วยเหลือ ก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าการส่งสัญญาณด้วยการจุดพลุแค่ไม่กี่ครั้ง แถมยังสว่างแค่แป๊บเดียวก็หายไป มันจะทำให้คนที่มาช่วยเหลือทันเห็นหรือเปล่า? แล้วถ้ามันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เราจะใช้พลุเหล่านี้ให้คุ้มค่าและช่วยชีวิตเราได้ยังไง
วันนี้เรามี RescueMe Balloon ที่จะมาแก้ปัญหาของพลุขอความช่วยเหลือให้หมดไป โดยเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้มีรูปร่างเป็นแท่งแคปซูล ขนาดพอๆ กับพลุส่งสัญญาณ ภายในของอุปกรณ์ตัวนี้จะบรรจุลูกโป่ง, ก๊าซฮีเลียม, หลอดไฟ LED พร้อมแบตเตอรี่ และม้วนเชือกน้ำหนักเบา เอาไว้ใช้ผูกติดกับตัวเราเอง
วิธีการใช้งานก็แค่บิดฐานของแคปซูลเพื่อจะอัดก๊าซฮีเลียมเข้าลูกโป่ง เมื่ออัดก๊าซได้เต็มที่แล้วก็ปล่อยขึ้นท้องฟ้า ซึ่งจะสามารถอยู่บนท้องฟ้าได้นานถึง 7 วัน ตัวลูกโป่งจะมีสีส้ม และที่สำคัญถ้าเป็นตอนกลางคืนจะมีหลอดไฟ LED กระพริบเพื่อให้คนที่มาช่วยเหลือมองเห็นอีกด้วย
ถึงแม้ตอนนี้ RescueMe Balloon จะยังไม่มีออกมาจำหน่ายจริง แต่ก็ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยชีวิตเราในยามที่เราต้องการความช่วยเหลือได้ไม่มากก็น้อย
ที่มา http://www.dailygizmo.tv/
Fugu Luggage กระเป๋ามหัศจรรย์! ยืดได้หดได้
ใกล้จะถึงเทศกาลแห่งความสุขและเทศกาลแห่งวันหยุดเข้าไปทุกที หลายๆ คนคงมีแพลนไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าหนาวนี้จะพาครอบครัวไปเที่ยวที่ไหนดี บางคนก็อาจจะเที่ยวในประเทศ แต่บางคนก็อาจจะอยากให้รางวัลชีวิตแบบพิเศษหน่อย ด้วยการเดินทางไปรับลมหนาวที่ต่างประเทศ และแน่นอนสิ่งที่ต้องมาพร้อมกับการเดินทางไกลในครั้งนี้ก็คือ การช้อปปิ้ง ไม่ว่าจะเป็นของตัวเอง ของฝากเพื่อน หรือของที่เพื่อนฝากซื้อ ภารกิจครั้งนี้ช่างหนักหนาและใหญ่หลวงนัก เตรียมกระเป๋าไปทีไรไม่เคยจะพอทุกที
Fugu Luggage คือกระเป๋ามหัศจรรย์ ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาของนักช้อปอย่างเราๆ ได้เป็นอย่างดี โดยขนาดของกระเป๋าก็เท่ากับ Cabin Size ทั่วไป ที่เราสามารถเอาไปวางบนช่องเก็บกระเป๋าได้เลย และเมื่อถึงเวลาที่อยากจะขยายเพื่อใส่ของให้มากขึ้นก็สามารถยืดกระเป๋าให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ด้วย ไม่ต้องเสียเวลาไปหากระเป๋าเพิ่มอีกต่างหาก
ข้อดีของเจ้ากระเป๋า Fugu Luggage ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะตัววัสดุที่ใช้ผลิตนั้นมีความแข็งแรงทนทาน ทนต่อแรงกระแทกแถมยังกันน้ำได้อีกด้วย เมื่อเรายืดกระเป๋าออกมาเต็มที่ยังสามารถใช้เป็นโต๊ะเพื่อใช้งานอย่างอื่น เช่น วางของ หรือจะใช้เป็นโต๊ะทำงานขนาดย่อมๆก็ยังได้
กระเป๋า Fugu Luggage มีให้เราเลือกมากมายหลายสี สนนราคาอยู่ที่ $219 สาวๆหรือหนุ่มๆคนไหนสนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดกันได้ที่ เว็บไซต์ Kickstarter
Did You Know? รู้หรือไม่ หมากฝรั่งให้อะไรมากกว่าที่คิด
Did You Know? รู้หรือไม่ หมากฝรั่งให้อะไรมากกว่าที่คิด
Did You Know? รู้หรือไม่หมากฝรั่งที่เราเคี้ยวเล่นกันอยู่ทุกวันนี้นอกจากจะให้ความเพลิดเพลินแล้วยังสามารถช่วยเราในเรื่อง ลดอาการเสียดท้อง ถ้าเคี้ยวหมากฝรั่งหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ จะช่วยลดกรดไหลย้อนกลับได้ หมากฝรั่งช่วยให้สุขภาพฟันดูสดใส แต่จะต้องเป็นแบบซูการ์ฟรีเท่านั้น และ การเคี้ยว หมากฝรั่ง เป็นประจำ จะช่วยลดอาการฟันผุได้ เพราะหมากฝรั่งช่วยลดกรดในช่องปาก และความเหนียวของหมากฝรั่ง จะช่วยทำให้ฟันสะอาดดีด้วย เพราะหมากฝรั่งจะช่วยเข้าไปทำให้อาหารหลุดออกมาได้ แถมยังมีหมากฝรั่งบางชนิดที่สามารถช่วยในเรื่องของการลดการสูบบุหรี่ได้อีกด้วย แต่เพื่อนๆก็อย่าลืมแปรงฟันกันด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก deedeejang
หัวขโมยมีเงิบ! เมื่อเจอหลอดไฟแสนฉลาด
ใกล้จะถึงเทศกาลแห่งความสุข เทศกาลแห่งวันหยุดยาวกันแล้ว ใครที่มีแพลนไปดื่มด่ำความหนาวเย็นก็คงจะอยากไปแบบสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องโจรขโมย นอกจากโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจที่จะช่วยให้เราอุ่นในแล้ว เรายังมีอุปกรณ์เสริมที่จะช่วยดูแลบ้านให้เราเบื้องต้นมาฝากกันด้วย
BeON เป็นหลอดไฟ LED แบบ Smart Bulb ที่มีความฉลาดมากๆ เพราะมีระบบป้องกันขโมยและสามารถควบคุมการทำงานของผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
ตัวหลอดไฟจะมีระบบเรียนรู้พฤติกรรมเปิดปิดไฟของเรา เวลาที่เราไม่อยู่บ้าน เจ้าหลอดไฟนี้ก็จะเปิดปิดเอง เหมือนมีคนอยู่ในบ้าน รับรองว่าพวกโจรไม่กล้าเข้ามาขโมยของแน่นอนและที่สำคัญมันยังมีแบตเตอรี่ในตัว สามารถทำงานได้แม้ว่าตอนนั้นไฟจะดับก็ตาม
นอกจากนี้ยังมีโหมด Night Light ที่สามารถปรับความสว่างได้ตามที่เราต้องการ และเมื่อเราออกจากห้องนั้น ไฟจะค่อยๆหรี่ลงจนดับสนิท โดยภายในตัวหลอดไฟจะมีเซ็นเซอร์วัดเสียง ซึ่งจะทำหน้าที่เตือน
ภัยหากเกิดอะไรผิดปกติขึ้นภายในบ้าน อย่างเช่น เสียงสัญญาณไฟไหม้ หรือ เสียงกระจกแตก เป็นต้น
ตอนนี้ BeON ยังไม่วางขายอย่างเป็นทางการ เพราะเจ้าของไปเดียกำลังทำการระดมทุนอยู่ที่เว็บ Kickstarter ราคาอาจจะแพงกว่าหลอดไปแบบ Smart Bulb นิดหน่อย แต่เชื่อเถอะว่าคุ้มค่ากับการลงทุนแน่นอน
ที่มา http://www.dailygizmo.tv/
กระเป๋าแบรด์เนมจริงหรือปลอม!! สแกนได้ด้วยสมาร์ทโฟน??
ถ้าจะเลือกซื้อกระเป๋าซักใบ หลายๆ คนก็คิดว่าอยากลงทุน ซื้อแบบมียี่ห้อไปเลย เพราะนอกจากเราจะได้ใช้ของมีคุณภาพแล้ว ถ้าวันไหนเราอยากเปลี่ยนใบใหม่ ใบเก่าที่ซื้อมาก็สามารถเอาไปขายเป็นมือสองได้อีกด้วย ซึ่งถ้าเราเป็นคนขายเองก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่ากระเป๋าเรานั้นเป็นของแท้แน่นอน เพราะซื้อมาจากช็อปของยี่ห้อนั้นๆ โดยตรง ลูกค้าที่ซื้อไปก็สบายใจหายห่วง แล้วถ้าวันนึงเราอยากซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองหรืออยากซื้อผ่านทางอินเตอร์เน็ตบ้างล่ะ จะมั่นใจได้ยังไงว่ากระเป๋าที่ซื้อนั้นแท้หรือเทียม
บริษัท NEC จากประเทศญี่ปุ่นจึงได้ทำการคิดค้นอุปกรณ์ ที่จะช่วยตรวจสอบให้เราได้มั่นใจว่าของที่ซื้อมานั้นเป็นของแท้แน่นอน โดยอุปกรณ์ตัวนี้จะมีลักษณะเป็นเลนส์ชนิดพิเศษซึ่งใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน มันจะทำงานด้วยการใช้ Object Fingerprint Authentication หรือ การตรวจสอบจากพื้นผิวและวัสดุที่เป็นลักษณะเฉพาะของกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อนั้นๆ เพื่อเอาไว้เปรียบเทียบว่าเป็นของจริงหรือของปลอม อย่างเช่น ซิป หรือ หมุดต่างๆบนกระเป๋า เป็นต้น
วิธีการใช้งานก็แค่ติดเลนส์นี้ไว้ที่สมาร์ทโฟน นำไปส่องที่กระเป๋าเพื่อดูรายละเอียดของพื้นผิว จากนั้นก็ทำการถ่ายรูป ระบบก็จะนำรูปถ่ายนั้นไปเปรียบเทียบกับรูปกระเป๋าแบรนด์เนมของจริงที่มีอยู่ในฐานข้อมูล เพียงเท่านี้เราก็จะรู้ได้ในทันทีว่ากระเป๋าที่เราซื้อมานั้นเป็นของจริงหรือของปลอม ช่างเป็นอุปกรณ์ที่สะดวกสบายแถมยังใช้งานง่ายไม่ยุ่งยากอีกด้วย
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีการวางจำหน่ายออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ทางบริษัท NEC และทีมพัฒนาตั้งเป้าที่จะพัฒนาระบบให้สำเร็จภายในเดือนเมษายนปีหน้า ยังไงก็อดใจรอกันแป๊บนึง ไม่นานเกินรอได้ใช้งานแน่นอน
ที่มา http://www.dailygizmo.tv/
Did You Know ? รู้หรือไม่ คำย่อต่างๆที่บรรดาผู้ขายทีวีเค้าใช้กันมีอะไรบ้าง
Did You Know ? รู้หรือไม่ คำย่อต่างๆที่บรรดาผู้ขายทีวีเค้าใช้กันมีอะไรบ้าง
Did You Know? รู้หรือไม่ ทีวีสมัยใหม่นั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง COLOR PIXEL เทคโนโลยีแม่สีที่มากกว่าถึง 4 สีพิกเซลบนหน้าจอแอลจี เพิ่มซับพิกเซลสีขาวที่ทำงานร่วมกับพิกเซลสีมาตรฐาน 3 สี (WRGB) เพื่อเฉดสีสวยสดและแม่นยำที่สุด ให้ทุกประสบการณ์การรับชมภาพของคุณ สวยสมจริง แตกต่างจากที่เคย LIFE-LIKE COLOR เทคโนโลยีเม็ดพิกเซล 4 สี บนหน้าจอทีวีแอลจี โอเลตจะทำให้เพื่อนๆได้สัมผัสประสบการณ์การรับชมภาพที่มีสีสันคมชัดเป็นธรรมชาติ เสมือนนั่งอยู่ในเหตุการณ์จริง และ อื่นๆอีกมากมาย ลองมาดูกันว่าที่บรรดาผู้ขายโฆษณานั้นมีอะไรกันบ้าง
Model ชื่อรุ่น
Size ขนาดหน้าจอ
Year ออกวางจำหน่ายครั้งแรกในปี
Price (ราคาเปิดตัว)ราคาเปิดตัวครั้งแรก
Resolution รายละเอียดหน้าจอ (Full HD = 1920 x 1080p, HD Ready = 1366 x 768p)
Video Processor ชิปประมวลผล ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน
Contrast Ratio อัตราส่วนค่าความขาวที่ขาวที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับค่าความดำที่ดำที่สุด (ค่าความ คม ชัด ลึก ของภาพ) ยิ่งมากยิ่งดี
Response Time ค่าความเร็วในการแสดงภาพเคลื่อนไหว เลขยิ่งน้อยยิ่งดี ทำให้ภาพไม่เบลอ
Brightness ค่าความสว่างของภาพ ยิ่งค่ามากหน้าจอยิ่งสว่างมากกว่า
Panel Type ชนิดของแผงหน้าจอ ที่แต่ละยี่ห้อเลือกใช้
1080P Capable ความสามารถในการรองรับสัญญาณระดับ 1080p
Refresh rate ความในการสามารถแสดงจำนวนเฟรมภาพต่อวินาที รองรับเทคโนโลยี 100/120 Hz(100/120 ภาพต่อวินาที)หรือ 200/240 Hz(200/240 ภาพต่อวินาที
Picture Sensor ระบบปรับภาพอัตโนมัติ ตามสภาพแวดล้อมภายในห้อง (หลักๆ คือการปรับตามแสงภายในห้อง)
PIP ระบบภาพซ้อนภาพ
Viewing Angle มุมมองในการมองภาพในมุมกว้าง
Surround System ระบบเสียงรอบทิศทาง
Sound Output (Watts) ระดับความดังของเสียง
HDMI ช่องต่อที่รองรับสัญญาณ ภาพและเสียงภายในช่องเดียว (ควรมีอย่างน้อย 2 ช่องขึ้นไป)
HDMI-CEC ระบบ ที่รองกับการใช่้รีโมท เพียงอันเดียวในการควบคุม ทั้งทีวีและอุปการณ์ต่อเชื่อมอื่นที่นำมาต่อเชื่อมผ่านช่องต่อ HDMI (สามารถต่อเชื่อมต่อข้ามยี่ห้อได้)
ลูกเล่นเพิ่มเตืมที่ทีวีรุ่นนั้นๆมีให้เช่น Bluetooth, USB2.0, SD Card Slot, FM Radio, ช่องต่อหูฟังเป็นต้น
Cabinet Color สีของตัวกรอบจอ
Swivel Stand ขาตั้งปรับหมุนได้ (ถ้าปรับหมุนได้ควรหมุนได้อย่างน้อยๆ 20 องศา)
Power Consumption อัตราการกินไฟ
Power Supply ช่วงของกระแสไฟฟ้าที่ทีวีสามารถรองรับได้ เช่น 100 – 240V
Life Span อายุ การใช้งาน (LCD TV ส่วนมากจะอยู่ที่ 60,000 ชั่วโมง หรือใช้งานได้ราวๆ 20 ปี ถ้าเป็น Plasma TV ส่วนมากจะอยู่ที่ 100,000 ชั่วโมง หรือราว 35 ปี)
W x H X D – mm. (W/O Stand) ขนาด ความ กว้าง x สูง x ลึก หน่วยเป็น มิลลิเมตร(โดยไม่นับรวมขาตั้ง)
W x H x D – mm. (W Stand) ขนาด ความ กว้าง x สูง x ลึก หน่วยเป็น มิลลิเมตร (โดยนับรวมขาตั้ง)
Weight – Kg. น้ำหนักของตัวเครื่อง หน่วยเป็น กิโลกรัม (รวมขาตั้ง)
ขอบคุณที่มาจาก LG Thailand , lcdtvthailand.com
สะดวกแท้! ใช้สมาร์ทโฟนแทนคีการ์ดเข้าพัก Starwood Hotels
ยังที่เรารู้กันเป็นธรรมเนียมของการเข้าพักโรงแรมที่เมื่อเราเข้าเช็คอินแล้วพนักงานก็จะให้กุญแจหรือไม่ก็คีการ์ดหรือรหัสมาให้เราเพื่อเอาไว้ใช้เปิดเข้าห้องพักแต่จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถใช้สมาร์ทโฟนคู่กาย ของเราแทนคีการ์ดในการเปิดประตูเข้าห้องพักได้ละ เรียกว่าจบในเครื่องเดียวเลย โดยแนวคิดดังกล่าวนี้สามารถทำได้จริงแล้วที่โรงแรม Starwood Hotels & Resorts Worldwide Inc ที่ได้เริ่มนำเอาระบบสนับสนุนสมาร์ทโฟนมาให้บริการลูกค้าผ่านแอปบนสมาร์ทโฟน
ลูกค้าสามารถที่จะเช็คอินผ่านแอปจากสถานที่ท่องเที่ยวได้เลย โดยไม่ต้องเข้าไปเช็คอินที่เคาท์เตอร์เพื่อขอรับกุญแจหรือคีการ์ด
เพราะทันทีที่มาถึงโรงแรมตัวแอปจะแจ้งเตือนว่าเราเช็คอินเรียบร้อยแล้ว พร้อมโชว์ระบุ แจ้งชั้น,หมายเลขห้อง รวมไปถึง รหัสกุญแจ เมื่อขึ้นถึงห้องแล้วก็สามารถใช้ระบบ SPG keyless systeem หรือก็คือการใช้สมาร์ทโฟนคู่ใจของเราแทนกุญแจแตะที่หน้าประตูก็สามารถเข้าห้องได้ทันที
โดย Starwood ได้ทำการตั้งเป้าที่จะนำเอาตัวระบบ SPG keyless system ไปใช้ในโรงแรมกว่า 150 แห่ง หรือกว่า 30,000 ห้อง ซึ่งระบบนี้ถูกนำมาเริ่มใช้งานจริงตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กับโรงแรมในเครือหลายแห่ง เช่น ฮ่องกงและนิวยอร์ค ในประเทศไทยเองก็เริ่มมีให้ใช้กันแล้วที่ A Loft Bangkok สุชุมวิท 11
ซึ่งระบบ SPG keyless system ดังกล่าวนี้ถูกออกแบบโดย Assa Abloy ที่เป็นผู้ออกแบบกลอนประตูที่ปลดล็อคด้วยบลูทูธจากมือถือ รวมถึงซอฟแวร์ปลดล็อคระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้งานผ่านแอปฯ ส่วนการใช้งานแขกผู้ที่จะเข้าพักต้องทำการลงทะเบียนผ่านแอป SPG ซะก่อน หลังจากนั้นจึงทำการจองห้องพัก เพียงเท่านี้สมาร์ทโฟนของเราก็เปรียบเสมือนกุญแจตลอดช่วงเวลาที่เข้าพักแล้ว
โดยในตอนนี้ระบบจะรองรับเฉพาะแขกระดับ Starwood Preferred Guest เท่านั้น ส่วนแอปนั้นจะทำงานได้บน iOS8 ขึ้นไป รวมถึง Android เวอร์ชั่น 4.3 หรือใหม่กว่า
ที่มา http://www.dailygizmo.tv/
LG ทำได้จริง! เผยพัฒนาจอโค้งงอ P-OLED สำเร็จ
ยังที่ทุกคนรู้กันดีว่าวิวัฒนาการของมือถือนั้นนับวันยิ่งมีการพัฒนาก้าวไกลอย่างไม่หยุดยั้ง ใครที่มีความไฮเทคล้ำแซงหน้าคู่แข่งก็มีความได้เปรียบในท้องตลาดมาก แต่หากจะพูดถึงเทคโนโลยี หน้าจอที่สามารถโค้งงอได้นั้น หลายๆ คนคงต้องนึกถึง แบรนด์ ชั้นนำ อย่าง LG แน่นอน ที่ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์คุณภาพออกมาไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน รวมไปถึงสมาร์ททีวี ที่มีคุณสมบัติจอโค้งโดดเด่นไม่เหมือนใคร
จนล่าสุดทาง LG Display เปิดเผยแผนการในอนาคตสำหรับจอ P-OLED ซึ่งย่อมาจาก Plastic-OLED ที่จะถูกนำเข้ามาใช้กับนาฬิกาอัจฉริยะอย่าง LG G Wacth R ที่กำลังวางจำหน่ายทั่วโลก
โดยก่อนหน้านี้ทาง LG เองก็เคยนำเอาเทคโนโลยี P-LED ดังกล่าวนี้มาใช้กับผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนอย่าง LG G Flex ที่มีหน้าจอโค้ง
โดยเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ LG เลือกที่จะพัฒนาจอ P-LED ต่อมีอยู่ 5 ข้อด้วยกัน
1.มีน้ำหนักและความเบาบางกว่าจอ OLED ที่ทำจากกระจก
2.มีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งพิสูจน์ตัวเองมาแล้วจากการใช้กับ LG G Flex
3.จอ OLED ยังมีข้อจำกัดด้านการออกแบบที่ทำออกมาเป็นรูปทรงที่ซับซ้อนมากไม่ได้
4.แม้จอใหม่จะเป็นพลาสติกแต่ด้านความแข็งแรงนั้นถือว่าแข็งแรงกว่ากระจก
5.เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า
จากที่กล่าวมาข้างต้นทำให้หลายๆ คนคงพอจะเดากันออกแล้วว่าในปีหน้านี้เราอาจจะได้เห็น สมาร์ทโฟนจาก LG ที่สามารถโค้งงอได้โดยใช้จอเป็น P-OLED ออกมาตีตลาดแน่นอน
ซึ่งจะเป็นรุ่นถัดมาจาก LG G Flex ตามกระแสข่าวลือก่อนหน้านี้และถัดจากสมาร์ทโฟนผลิตภัณฑ์ตัวถัดมาก็จะต่อด้วย แท็บเล็ต และในอนาคตเราอาจจะได้เห็นอุปกรณ์สวมใส่กับร่างกายตัวใหม่ภายใน 1 ปีข้างหน้า
แท็บเล็ตนั้นมีแผนที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2015 ต่อจากนั้นในปี 2017 ก็จะเป็นคอมพิวเตอร์งอได้ แล้วค่อยขยายไปยังจอทีวีต่อ นอกจากนั้นยังวางแผนผลิตจอ P-OLED สำหรับรถยนต์ด้วย
ซึ่งแน่นอนว่าถ้า LG ทำได้ตามแผนที่วางเอาไว้ตลาดสมาร์ทโฟนอีก 2—3 ปีข้างหน้า อาจจะเกิดความเปลี่ยนแปลงไปชนิดคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
ที่มา dailygizmo.tv
Did You Know ? รู้หรือไม่ ดูแลเสื้อผ้าด้วยของใช้ใกล้ตัวของสาวๆ
Did You Know ? รู้หรือไม่ ดูแลเสื้อผ้าด้วยของใช้ใกล้ตัวของสาวๆ
Did You Know ? รู้หรือไม่ แค่เรานำอุปกรณ์ที่เรามีอยู่ใกล้ตัวก็สามารถจัดการปัญหาการดูแลเสื้อผ้า รวมถึงอุปกรณ์ต่างให้สามารถอยู่กับเราได้นานยิ่งขึ้นมาดูกันเลยค่ะว่ามีวิธีไหนกันบ้าง
หลังจากใส่ รองเท้าผ้าใบ ไปทำกิจกรรเรียกเหงื่อมา เทเบคกิ้งโซดานิดนึงลงไปในรองเท้า จะช่วยดูกลิ่นเหม็นออกได้
กำจัดกลิ่นเสื้อผ้าเก่าเก็บ ด้วยการทำสเปรย์ จาก วอสการ์ ด้วยการเท วอสการ์ใส่ในขวดสำหรับพ่นสเปรย์หรือขวดที่ฉีดผ้านี่ล่ะ แล้วพ่นใส่เสื้อผ้านิดหน่อย แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง แอลกอฮอล์จะช่วยกำจัดกลิ่นแบคทีเรียได้ดี
ขาแว่นตาหลวม แต่ไม่มีไขควงอันเล็กมาไข ลองใช้ ยาทาเล็บ แบบใสๆแต้มตรงบริเวณที่หลวมดู
จัดการกับคราบ เหงื่อใต้รักแร้ที่ชอบติดตามเสื้อผ้าของคุณ ด้วยการนำ มะนาวผสมกับเบคกิ้งโซดา แล้วป้ายที่ รอยคราบเสื้อ ทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออกก่อนนำลงซักตามปกติ จะช่วยให้กำจัดคราบออกได้ง่ายขึ้น
รับมือกับคราบ ครีมรองพื้น บนเสื้อผ้า ด้วย ครีมโกนหนวด เชื่อว่าสาวๆต้องพบเจอกับเหตุการณ์นี้แน่นอน เพราะเวลาเราสวมเสื้อผ้าโดยไม่ทันระวัง ดันไปถูกับครีมรองพื้นที่ใบหน้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ สามารถแก้ปัญหาด้วยการใช้ ครีมโกนหนวด แต้มบางๆที่รอยคราบนั้น จะทำให้รองพื้นแตกตัว ก่อนที่จะนำไปซักตามปกติ
ก่อนจะนำเสื้อกันหนาว ที่ทำจากผ้าขนสัตว์ชนิดต่างๆ ที่เก็บไว้แรมปีออกมาใส่ใหม่อีกครั้ง ให้นำเสื้อกันหนาวมาแพคใส่ถุงพลาสติกที่มีซิบล็อค แล้วนำใส่ช่องแช่แข็ง1คืนก่อนนำมาใส่ จะช่วยทำให้ขนของเสื้อกันหนาวของคุณไม่หลุดล่วงฟุ้งกระจายในอากาศเพราะความเก่าอีกต่อไป
ขอบคุณที่มาจาก cosmopolitan
J-deite หุ่นยนต์แปลงร่าง Tranformer ในโลกแห่งความจริง
หลังจากที่ดู Transformer คงปฏิเสธกันไม่ได้ ว่ารถยนต์ที่สามารถแปลงร่างเป็นหุ่นยักษ์นี่มันเท่ห์ซะจริงๆเลย เป็นรถก็เฉียบ เป็นหุ่นก็เจ๋งสุดๆ เชื่อว่าหลายๆคนคงจะอยากเห็นTransformer ของจริงกันบ้าง เอาที่แปลงร่างได้แบบในหนังเลยยิ่งดี รับรองว่าถ้าได้เห็น Transformer ตัวเป็นๆล่ะก็ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ คงอดที่จะตื่นตาตื่นใจไม่ได้แน่นอน
ล่าสุด บริษัท Brave Robotics, Asratec Corp. และ Tomy Co. Ltd. ผู้สร้างของเล่นหุ่นยนต์ Transformer ได้ร่วมมือกันสร้าง J-deite หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ ขยับแขนขาและนิ้วมือได้ มีขนาดแค่ 1 ใน 4 ของหุ่น autobot ที่เราเห็นในภาพยนตร์
โดยมีความสูง 5 ฟุต หนัก 77 ปอนด์ และที่สำคัญเจ้าหุ่นตัวนี้มีหน้าตาคล้ายกับ Optimus Prime ซะด้วย
J-deite สามารถเดินสองเท้าได้และยังแปลงร่างเป็นรถสปอร์ตความยาว 3 ฟุต แต่เราไม่สามารถเข้าไปนั่งขับได้ ถ้าใครคิดว่ารถยนต์นี้เป็นของเล่นล่ะก็ คุณคิดผิดแล้ว
เพราะมันคือรถยนต์จริงๆ ที่มีสองที่นั่ง ความสูงจากพื้นถนน 1.5 นิ้ว สามารถทำความเร็วได้ถึง 6 ไมล์ต่อชั่วโมง และเมื่อแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์มันสามารถเดินด้วยความเร็ว 0.6 ไมล์ต่อชั่วโมง
ในส่วนของซอฟท์แวร์เขาจะใช้ V-Sido ควบคุมการทำงาน ซึ่งพัฒนาโดย Wataru Yoshizaki จาก Asratec Corp นอกจากนี้ J-deite ยังมีแบตเตอรี่ในตัว ในการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งจะสามารถทำงานได้ประมาณ 1 ชั่วโมง
ในอนาคตทาง Kenji Ishida แห่ง Brave Robotics ได้วางแผนที่จะสร้าง J-deite ให้แปลงเป็นรถยนต์จริงที่มีขนาดตัวถังยาว 16 ฟุต ให้สำเร็จภายในปี 2020 แต่สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะทำการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ก็คือ เมื่อหุ่นแปลงร่างเป็นรถยนต์แล้วจะยังมีที่ว่างพอให้คนขับไปขับได้รึเปล่า
หุ่นตัวนี้ถือเป็นหุ่น Transformer ตัวที่สองที่ Kenji Ishida พัฒนาขึ้น โดยตัวแรกได้เปิดตัวไปเมื่อปี 2012 แต่ตอนนั้นหุ่นยังมีขนาดเล็กเท่าเครื่องพีซีเท่านั้นเอง และหน้าตาก็ยังไม่ค่อยเหมือน Transformer ซักเท่าไรนักเมื่อเทียบกับ J-deite ตัวนี้นั่นเอง
ที่มา http://www.dailygizmo.tv/
Idol Idea : พรชนก นาคหรั่ง (เอมมี่)
Idol Idea : พรชนก นาคหรั่ง (เอมมี่)
พรชนก นาคหรั่ง (เอมมี่) สาวหมวยพร้อมผิวขาวตรงตามสเปคที่หนุ่มไทยต้องการ
เอมมี่ น้องจากเธอจะมีความน่ารักขี้เล่นแล้วเธอยังมีความสามารถในการเป็น DJ คอยมิกซ์เพลวต่างให้เพื่อนๆได้ฟังพร้อมกิจกรรมยามว่างที่หนุ่มหลายคนต้องการคือเธอชอบเล่นเกมส์โดยเฉพาะเกมส์ฟุตบอล ปัจจุบันเธอกำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา คณะวิทยาลัยนานาชาติ สาขา Hospitality and Tourism management ปี 2
Life’s Good ของน้อง เอมมี่ มีความหมายว่าอย่างไร
” คิดทุกคำที่พูด แต่ไม่ใช่พูดทุกคำที่คิด ”