อันตรายของคลื่นโทรศัพท์มือถือ!
โทรไร้สาย
เครื่องโทรศัพท์ไร้สาย หมายถึงโทรศัพท์ทุกชนิดที่ไม่ใช้สาย เช่น โทรมือถือ PCT แม้กระทั่งโทรตามบ้านที่ไร้สาย
โทรศัพท์อาจจะเป็นปัจจัยที่5ของมนุษย์ยุคดิจิตอล ประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของมือถือบางคนมีมากกว่า 1 ครั้งและใช้กันอย่างไม่ลืมหูลืมตาโดยที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือผลเสีย ที่จะเกิดขึ้น
บทความนี้จะกล่าวถึงความปลอดภัยของคลื่นวิทยุต่อคนโดยมีการทบทวนโดยองค์การอนามัยโลก องค์การสุขภาพของแคนาดาและอังกฤษ
การเจริญเติบโตของธุรกิจมือถืออย่างมาก ประมาณการว่าจะมีจำนวนเครื่องโทรศัพท์ประมาณ 1.6 ล้านๆเครื่องนอกจากนั้นก็ยังมีสถานีเครือข่ายเพิ่มขึ้นมากมายที่ปล่อยคลื่น ความถี่วิทยออกมา ปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพได้แก่
การทำงานของโทรมือถือ
เมื่อเราพูดโทรศัพท์มือถือ คลื่นเสียงจะเปลี่ยนเป็นคลื่นวิทยุุ radio waves ซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่ง( electromagnetic radiation) คลื่นนี้จะกระจายไปในอากาศและไปสู่สถานีของวิทยุมือถือ เมื่อมีคนโทรติดต่อมาคลื่นเสียงจะแปลงเป็นคลื่นวิทยุ ส่งไปตามสถานีและส่งมายังผู้รับ
ความแรงของคลื่นส่วนใหญ่ประมาณ 0.75ถึง 1 watt ในขนะที่เราพูดสมองของเราจะอยู่ใกล้เสาอากาศของโทรศัพท์มือถือมากที่สุด พลังงานจากคลื่นวิทยุจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อ สุขภาพ
ความแรงของคลื่น
คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือจะได้รับคลื่นมากกว่าคนที่อาศัยอยู่ ใกล้สถานี คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือจะได้รับคลื่นเมื่อมีการใช้โทรศัพท์ แต่คนที่อาศัยใกล้สถานีจะได้รับคลื่นอยู่ตลอดเวลา
โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์มือถือสมัยเก่าเป็นระบบ 850 MHz ปัจจุบันเป็นแบบ 1900 MHz ส่วนของประเทศทางยุโรปใช้ระบบ Global System for Mobile Communications (GSM) ซึ่งมีคลื่นความถี่ระหว่าง 900 MHz ถึง 1800 MHz โทรศัพท์เคลื่อนที่จะให้พลังงานคลื่นเพียง 0.2-0.6 Watts สำหรับวิทยุ walkies talkies จะให้กำลังคลื่นถึง 10 Watts ความแรงของคลื่นจะลดลงอย่างมากเมื่อตัวเครื่องอยู่ห่างจากศรีษะ ดังนั้ควารจะใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า hand free ซึ่งจะลดความแรงของคลื่น
สถานีกระจายคลื่น สถานีจะให้คลื่นแรงตั้งแต่ไม่กี่วัตต์จนเป็นร้อยขึ้นกับขนาดและจำนวนของ เซลล์ไซต์ โดยตัวเสาอากาศจะมีความกว้าง 20-30 ซม. และยาวประมาณ 1 เมตรโดยตั้งอยู่ ดาดฟ้าอาคาร บนหอคอยสูง 15-50 เมตรจากพื้น หากตั้งอยู่บนพื้นจะต้องมีความสูง 50-200 ฟุตจากพื้นดิน คลื่นจากเสาอากาศจะออกในแนวราบ ดังนั้นคนที่อยู่บนดินหรือในบ้านจะได้รับคลื่นน้อยมาก ระยะห่างที่ปลอดภัยจากคือ 2-5 เมตรจากเสาอากาศ
ผลกระทบต่อสุขภาพ
คลื่นวิทยุจะมีผลต่อเนื้อเยื่อลึกประมาณ 1 ซม ความลึกขึ้นกับความถี่ของคลื่น เมื่อเนื้อเยื่อได้รับคลื่นจะแปลงเป็นความร้อนแต่ร่างกายก็มีกลไกที่จะควบ คุมอุณหภูมิ เชื่อว่าผลเสียของคลื่นวิทยุเกิดจากความร้อน
การศึกษาที่ผ่านมาจะศึกษาผลกระทบอของคลื่นวิทยุต่อทั้งร่าง กาย และคลื่นที่ศึกษาก็แรงกว่าคลื่นโทรศัพท์มาก การศึกษาผลกระทบของคลื่นโทรศัพทมือถือต่อคนยังมีไม่มาก
- มะเร็ง ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าคลื่นโทรศัพท์ทำให้เกิดมะเร็ง แต่จากการทดลองในสัตว์ก็ไม่มีหลักฐานว่าทำให้เกิดมะเร็ง และจากการศึกษาทางระบาดวิทยาก็ไม่มีหลักฐานว่าคลื่นโทรศัพท์ทำให้เกิดมะเร็ง
- ผลเสียต่อสุขภาพอื่น พบว่าคลื่นวิทยุมีผลต่อการนอนหลับ การตอบสนองของสมอง น้อยมาก
- การขับรถ การใช้โทรศัพท์มือถือทำให้มีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น
- การรบกวนของคลื่นวิทยุ คลื่นจะรบกวนการทำงานของอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ pacemaker ,defibrillator และอาจจะมีผลต่อการควบคุมการบิน
การเลือกซื้อต้องพิจารณาอะไรบ้าง
- ต้องทราบว่าโทรมือถือแต่ละรุ่นที่ผลิตออกมาให้ความถี่ คลื่นวิทยุออกมาเท่าไร (Raduofrequency exposure level ) ท่านจะทราบโดยขอข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิตหรือที่เวป http://www.fcc.gov/oet/rfsafety
- ท่านจะต้องทราบว่าพลังงานที่ได้จากคลื่น (Specific Absorption Rate (SAR) เป็นการคำนวนพลังงานจากคลื่นวิทยุที่เราได้รับ)ไม่ควรเกินเท่าไร ปกติไม่ควรเกิน 1.6 watts per kilogram
SAR stands for Specific Absorption Rate
แม้ว่าจากหลักฐานถึงปัจจุบันพบว่าการใช้โทรศัพท์มือถือไม่ ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ แต่ยังมีคำถามถึงความปลอดภัยของการใช้โทรศัพท์มือถือในระยะยาว ซึ่งรัฐบาลของของหลายประเทศได้แนะนำให้มีการวิจัยเพิ่มเติม
SAR คืออะไร
หมายถง Specific Absorption Rate หมายถึงหน่วยการวัดปริมาณพลังงานที่ร่างกายได้รับขณะที่เราใช้โทรศัพท์มือ ถือ โทรศัพท์ทุกเครื่องจะต้องผ่านการวัดโดยใช้พลังงานเต็มที่ แต่พลังงานที่เราใช้จริงจะน้อยกว่าค่าที่ได้จากการทดสอบ เพราะบริษัทเค้าออกแบบให้ใช้พลังงานต่ำที่สุดที่พอจะส่งคลื่นไปยังสถานีที่ ใกล้ที่สุด ดังนั้นหากเราอยู่ใกล้สถานี เราจะได้รับพลังงานน้อย
เราจะเลือกเครื่องที่มีระดับ SAR เท่าไร
ในการเลือกซื้อเครื่องโทรมือถือนอกตากจะพิจารณา บริษัทที่ผลิต รุ่น แบบ ขนาด ประเภทการใช้งาน ราคา เราจะต้องคำนึงถึง ระดับของ SAR โดยค่าปกติจะไม่เกิน 1.6 watt/Kg
โทรศัพท์ของบริษัทแต่ละรุ่นมีค่า SAR เท่ากันหรือไม่
แม้ว่าจะเป็นโทรศัพท์จากบริษัทเดียวกัน แต่จะมีค่า SAR ไม่เท่ากัน
เราจะทราบว่าเครื่องของเรามีค่า SAR เท่าไร
มี website ที่ให้ท่านค้นหาว่าเครื่องของท่านมีค่า SAR เท่าไรค้นได้จาก fcc.gov/oet/fccid
ตารางข้างล่่างจะเป็นที่อยู่ของบริษัทที่ผลิตโทรมือถือ ซึ่งท่านจะสามารถหารายละเอียดของ Specific Absorption Rate (SAR) ของเครื่องแต่ละรุ่น
|
อุปกรณ์ Hand free จะทำให้ปลอดภัยเพิ่มขึ้นหรือไม่
ในขณะที่ยังไม่ทราบถึงผลเสียของการใช้โทรศัพท์มือถือในระยะ ยาว ดังนั้นการใช้อุปกรณ์ Hand free จะทำให้สมองของเราได้รับพลังงานจากคลื่นวิทยุลดลง
อุปกรณ์ที่ป้องกันคลื่นไปสู่ศรีษะใช้การได้หรือไม่
จากการศึกษาพบว่าอุปกรณ์เหล่านี้ใช้ไม่ได้ผลเนื่องจากทำให้ การใช้โทรศัพท์ลำบาก และเครื่องจะปรับพลังงานเพิ่มขึ้น ทำให้เราได้รับพลังงานเท่าเดิม
เราจะใช้มือถืออย่างปลอดภัยได้อย่างไร
จนถึงปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานถึงผลเสียของคลื่นโทรศัพท์มือ ถือต่อสุขภาพ แต่ต้องรอผลการศึกษาอีก 3-4 ปี ดังนั้นองค์การอนามัยโลกจึงเสนอแนวทางปฏิบัติ
- ลดระยะเวลาในการพูดโทรมือถือ
- ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อสุขภาพทั้งผู้ใช้มือถือ หรือผู้ที่อาศัยใกล้สถานี
- มาตราการเสริม การออกมาตราการควรจะอาศัยข้อมูลทางวิชาการ
- หากภาครัฐหรือภาคประชาชนต้องการมาตราการเสริม ควรจะเป็นมาตราการจูงใจหรือสมัครใจ เพื่อให้บริษัทผลิตสินค้าที่มีการปล่อยคลื่นลดลง
- ส่วนประชาชนโดยเฉพาะเด็กหากต้องการลดการรับคลื่นควรจะจำกัดการใช้หรือใช้อุปกรณ์ hand free
- ปฏิบัติตามข้อห้าม เช่นไม่ใช้โทรศัพท์มือถือในโรงพยาบาล หรือเครื่องบิน
- ความปลอดภัยขณะขับขี่ ควรจะหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือในขณะที่ขับรถ หรืออาจจะใช้อุปกรณ์ hand free
- สร้างรั้วหรือสิ่งกีดขวางบริเวณสถานีเพื่อมิให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปยังบริเวณดังกล่าว
- การติดตั้งสถานี การติดตั้งสถานีใกล้โรงเรียนอนุบาล สนามเด็กเล่น โรงเรียน จะต้องพิจารณาให้รอบครอบ
ผลการศึกษา
- รายงานจาก Cellphones ‘should not be given to children’ 18:19 11, January 2005 NewScientist.com news service ,Will Knight, London แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานถึงอันตรายของมือถือต่อสุขภาพ แต่ต้องระวังโดยเฉพาะในเด็ก มีรายงานจากประเทศสวีเดน ว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดเนื้องอกเส้นประสาทหูกับมือถือ
- มีการวิจัยว่าการใช้โทรศัพท์มือถือนานๆจะเกิด Hot spot ในเนื้อสมอง ซึ่งเชื่อว่าจะมีการทำลายสมองบางส่วนและอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค เนื้องอกในสมอง และ Alzheimer’s disease
- การวิจัยใหม่ๆพบว่าคลื่นโทรมือถือ GSM จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานของเซลล์ และการเปลี่ยนแปลงคลื่นไฟฟ้าสมอง
- พบว่าคลื่นวิทยุทำให้เกิดการสลายของ DNA ซึ่งหากไม่มีการซ่อมแซมจะทำให้เซลล์สมองตาย
- นักวิจัยที่ Royal Adelaide Hospital in Australia ค้นพบว่าคลื่นแม่เหล็กุที่ออกมาจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอาจจะมีความ สัมพันธ์กับการเกิดเนื้องอกสมองของหนู
- การที่สมองสัมผัสคลื่นโทรศัพท์มือถือนานๆจะทำให้สารพิษสามารถเข้าสู่เนื้อสมองได้ง่าย
- รูปข้างล่างแสดงกลไกว่าคลื่นโทรศัพท์มือถือทำให้เกิดเนื้องอกสมองได้อย่างไร
- ออสซีสงสัยคนเนื้องอกในสมองจากเสามือถือบนอาคาร
12 พฤษภาคม 2549 14:37 น.
สำนักงาน 2 ชั้นบนสุดของอาคารแห่งหนึ่งในนครเมลเบิร์นของออสเตรเลียปิดทำการชั่วคราว หลังจากเจ้าหน้าที่ 7 คนที่ทำงานในนั้นตรวจพบเนื้องอกสมอง ก่อให้เกิดความวิตกว่าอาจมีสาเหตุมาจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่บน หลังคาอาคารเจ้าหน้าที่สหภาพการอุดมศึกษาแห่งชาติของออสเตรเลียเผย ว่า 2 ชั้นบนสุดของอาคารดังกล่าว เป็นที่ตั้งสำนักงานของราชสถาบันเทคโนโลยีเมลเบิร์น มีการสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากสำนักงานดังกล่าวแล้วเมื่อวานนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ 4 คนตรวจพบเนื้องอกในสมองในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ 3 คนก็ตรวจพบเนื้องอกในสมองเช่นกัน โดยพบรายแรกเมื่อปี 2544 การพบเจ้าหน้าที่มีเนื้องอกสมองพร้อมกันมากขนาดนี้ จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ เจ้าหน้าที่ที่ป่วย 5 คน ทำงานอยู่ชั้นบนสุดของอาคาร และส่วนใหญ่ทำงานมานานไม่ต่ำกว่า 10 ปีด้านเจ้าหน้าที่ราชสถาบันเทคโนโลยีเมลเบิร์นกล่าวว่า เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ติดตั้งอยู่บนหลังคาอาคาร สร้างความกังวลมานาน แต่ผลการศึกษาเมื่อปี 2544 ไม่พบว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่รายแรกมีเนื้องอกในสมอง อย่างไรก็ดี ทางสถาบันยังไม่ตัดประเด็นนี้ออกไป และจะศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจ
ด้านเทลสตรา บริษัทโทรศัพท์รายใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียที่ติดตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์บน หลังคาอาคารดังกล่าวออกแถลงว่า เสาส่งได้มาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยของสำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์ และการป้องกันรังสีออสเตรเลีย และเป็นไปตามระเบียบที่เคร่งครัดขององค์การอนามัยโลก อย่างไรก็ดี ทางบริษัทจะร่วมกับราชสถาบันฯ สืบหาความจริงต่อไป เพื่อคลายความกังวลของเจ้าหน้าที่
เอกสารอ้างอิง
- Electromagnetic fields and public health:mobile phones and their base stations.Who Fact sheet june 2000
- Federal Communications Commission
445 12th Street SW
Washington, DC 20554
More FCC Contact Information…