การลดน้ำหนักที่เรียกว่า “คีโต” คืออะไร
อาหารคีโต คือ Ketogenic Diet เป็นการกินที่ทำให้ร่างกายสลายไขมัน
อาหารคีโต คือ กินอาหารเข้าไป แล้วร่างกายรับรู้ว่า เหมือนเราไม่ได้กินอาหาร แล้วจึงไปสลายไขมันในร่างกาย
กินที่มีข้าว แป้ง น้ำตาล คาร์โบไฮเดรตที่ต่ำมาก ๆ
ร่างกายไม่มีน้ำตาลเข้าไป จะรู้สึกเหมือนอดอาหาร จึงไปสลายไขมันในร่างกาย เกิดสาร คีโตน (Ketone)
ทำไมกินไขมัน จึงลดน้ำหนักได้
การกินอาหารไขมันเข้าไป ก็เป็นพลังงานให้ร่างกาย แต่หลักการคือ
- กินเข้าไป ร่างกายมีการสลายไขมัน เนื่องจากร่างกายรู้สึก ไม่ได้กินอาหาร
- ขณะสลายไขมัน ร่างกายจะเสียน้ำด้วย (ช่วงแรก น้ำหนักลดลงมากเพราะเสียน้ำ)
- เมื่อไม่กินพวกนี้ แล้วมีของเสีย (คีโตน) เกิดขึ้น จะทำให้เบื่ออาหาร เวลาที่กินอาหาร Ketogenic จึงไม่จำเป็นต้องนับแคลอรี แต่กินไปแล้วจะกินได้น้อยลงเอง ด้วยความเบื่ออาหาร
ระยะยาวน้ำหนักยังจะลงไหม
Ketogenic Diet มีผลในแง่ของการลดน้ำหนัก เมื่อเทียบกับเรากินอาหารไขมันต่ำหรือว่าอาหารทั่วไป มันดีกว่าจริง ๆ แต่ว่าผลที่เห็นชัดเจนมักจะเป็นในระยะสั้น ภายใน 6 เดือนแรกมันจะดีกว่าการกินอาหารชนิดอื่น แต่ระยะยาว ส่วนใหญ่จะไม่แตกต่างกัน อาจเพราะไม่สามารถทนการกินอาหารแบบนี้ไปได้ตลอด งานวิจัย ส่วนใหญ่จะกินได้ 2 ปี
กินไขมัน กินโปรตีน กินได้แต่ผักใบ
ห้ามกินผักที่เป็นหัว ห้ามกินผลไม้ ห้ามกินข้าว แป้ง น้ำตาล น้ำหวานทุกชนิด
สารอาหารเราได้ไม่ครบถ้วน ระยะยาว ต้องเสริมสารอาหารที่ขาดไป เสริมวิตามินและเกลือแร่
เมื่อไรกินพวกข้าว แป้ง น้ำตาล น้ำหนักมันจะกลับมาอย่างรวดเร็ว หรือ โยโย่
ถ้าไม่กินข้าว แป้ง น้ำตาล จะใช้ไขมัน เป็นแหล่งพลังงาน ตับจะเป็นตัวที่จะเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน
- ห้ามใช้ในคนมีปัญหาโรคตับ
- ไตเสื่อม (กลุ่มนี้จะกินโปรตีนค่อนข้างเยอะ ก็อาจจะมีปัญหาได้เหมือนกัน)
- คนที่มีปัญหาในเรื่องการเผาผลาญไขมัน พวกกรรมพันธุ์ มีคอเลสเตอรอล,ไตรกลีเซอไรด์ ในเลือดสูงมากๆ ไม่แนะนำ กลุ่มนี้ต้องใช้ไขมันค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้น คนที่มีปัญหาเรื่องการบีบตัวของลำไส้ ท้องอืดง่าย ๆ มีกรดไหลย้อน อาจจะทำให้อาการกำเริบได้
Ketogenic Diet ถูกใช้ในการลดน้ำหนัก
Ketogenic Diet ไต้องลดกลุ่มที่เป็นคาร์โบไฮเดรตทั้งหมด น้ำหวาน ไอศกรีม ผลไม้
ต้องกินน้อยกว่า 20-50 กรัมต่อวัน แต่สามารถจะกินไขมันเพิ่มขึ้นได้ ต้องกินไขมันที่ดี ไม่ใช่กินไขมันอะไรก็ได้ และ ต้องดูสภาพร่างกายแต่ละคน ด้วย เช่น คนไข้โรคตับ โรคไต มีไขมันในเลือดผิดปกติ เบาหวาน
คีโตน (Ketones)
คีโตน (Ketones) กรดที่ได้จากกระบวนการเผาผลาญไขมัน
การพบคีโตนปริมาณน้อยๆ กระแสเลือดเป็นเรื่องปกติ และอาจพบคีโตนในปัสสาวะเมื่อ อดอาหาร12-16hr
เมื่อระดับคีโตนในเลือดสูง ร่างกายจะขับออกมาทางปัสสาวะ เช่นเดียวกับน้ำตาลกลูโคส
ระดับคีโตนในเลือดที่สูงขึ้น เรียกว่า ketosis
ผู้ที่กินอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ มักต้องการให้ร่างกายอยู่ในภาวะ ketosis เพราะ แสดงว่า ร่างกายกำลังมีการสลายไขมัน แทนการสลายคาร์โบไฮเดรต แต่ระดับ ketosis ที่เกิดจากการกินคาร์โบไฮเดรตต่ำ ไม่ได้รุนแรง และมีปริมาณน้อยกว่าระดับที่พบในภาวะคิโตซิสมาก
ภาวะคิโตซิส (Diabetic Ketoacidosis)
ภาวะคิโตซิส (Diabetic Ketoacidosis)ภาวะที่ ..
– มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง
– อินซูลินต่ำ
– มีคีโตนอยู่ในกระแสเลือด ตั้งแต่ระดับปานกลาง – มาก
เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ ต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล รักษาไม่ทันอาจหมดสติ / ตายได้ ภาวะนี้พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่1 และเกิดได้กับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่2 ผู้ป่วยเบาหวาน
อาการภาวะคิโตซิส หิวน้ำมากหรือปากแห้งมาก ปัสสาวะบ่อย อ่อนเพลียและอ่อนแรง ผิวแห้ง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หายใจลึก ลมหายใจมีกลิ่นเปรี้ยว