• October 11, 2020

    GTM ตัวกลางช่วยให้สามารถอัปเดต Tag และข้อมูลโค้ดในเว็บไซต์หรือบนแอปพลิเคชันได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
    GTM เป็น Tag ประเภท Container Tag คือ เป็น Tag ที่เอาไว้บรรจุ Tag อื่นๆ
    เช่น Google Analytics Google Adword Facebook Pixel และ Tag ประเภทต่างๆ อีกมากมาย
    ทำให้ Online Campaign ของคุณสามารถ Track Performance ต่างๆ ได้ง่ายมาก

    ติดตั้งง่ายมากเพียงแค่กรอกชื่อธุรกิจ ใส่ชื่อเว็บไซต์ กด Create แล้วก็ให้ Code กับโปรแกรมเมอร์ไปติดตั้งในเว็บไซต์ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการของการติดตั้งแล้ว

    ลดความซับซ้อนของการทำงานระหว่าง Programmer และ Marketer ที่ต้องเจอปัญหาการคุยไม่รู้เรื่องกันอยู่บ่อยครั้ง เจ้าเครื่องมือตัวนี้ก็มาลดความยุ่งยากในจุดนี้ไป เพียงแค่ให้โปรแกรมเมอร์นำ Code ไปติดตั้งในเว็บไซต์ ซึ่ง Marketer ที่ไม่ต้องรอการติดตั้ง Tracking ต่างๆ ในเว็บอีกต่อไป ทำให้ Marketer ทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย

    หลังจากติดตั้งแล้วก็ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับ Code ของเว็บไซต์นั้นอีกและยังสามารถเพิ่ม Tracking ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook Pixel , Adwords Conversion , Adwords Remarketing , การกดปุ่ม LINE@ , การฝาก Email ในหน้าเว็บไซต์

    การใช้ Google Tag Manager ช่วยประหยัดเวลา ทรัพยากร และค่าใช้จ่าย เพราะเมื่อเพิ่มข้อมูลโค้ด GTM ลงในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันแล้ว จะสามารถกำหนดค่า Tag ผ่านทางอินเทอร์เฟซผู้ใช้ทางเว็บได้โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนโค้ดเพิ่มเติม

    เราตั้งแคมเปญต่างๆ ผ่าน Facebook Google การทำ Digital Marketing ที่มี Tag ในการวัดผลต่างๆ มากมาย แล้วเราจะต้องมาใส่โค้ดตามหน้าเว็บไซต์ จนถึงการปรับแก้ไขต่างๆ ด้วยตัวเองทุกครั้งที่ทำแคมเปญ มันจะเยอะและยุ่งยากขนาดไหน ยังต้องรอกระบวนการจากทีม Developer เข้ามาจัดการให้อีก

    google tag manager คือ เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการและติด tag หรือ code ต่างๆที่เราต้องการ track ในเว็บไซต์หรือเฉพาะหน้าใดหน้าหนึ่งของเว็บไซต์นั้น ผ่าน interface ที่ใช้งานได้ง่ายไม่ต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ก็สามารถติดตั้ง code บางอย่างเองได้ง่ายๆ

    เช่น code google analytics , facebook pixel , code remarketing ซึ่ง tag เหล่านี้เป็นพื้นฐานที่ทุกเอเจนซี่ต้องติดให้ลูกค้าอยู่แล้ว การที่เอเจนซี่สามารถติด tag ได้เองโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเมอร์ของทางลูกค้า สามารถทำให้ประหยัดเวลาไปได้มาก ที่สำคัญทำให้เราขึ้นงานได้เร็วขึ้นด้วยเพราะเราสามารถติด tag เองได้เช็คเองได้ว่า tag มันทำงานถูกต้องไหม

    Tag คืออะไร

    ข้อมูลโค้ดที่ถูกเพิ่มลงในเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์
    โดยทั่วไปแล้ว การเพิ่มแท็กจะช่วยให้สามารถวัดประสิทธิภาพของเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันได้
    เช่น การใช้แท็ก AdWords Remarketing สามารถช่วยให้สามารถติดตามการวัดประสิทธิภาพของการโฆษณาผ่าน Google และสามารถเลือกที่จะให้โฆษณาแสดงผลสำหรับผู้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์แล้ว

    Trigger คืออะไร

    ตัวกำหนดที่จะทำให้แท็กของเราทำงาน
    เช่น Trigger สำหรับ Tag Google Analytics เป็น All Pages
    หมายความว่า Tag ของ Google Analytics จะถูกเรียกขึ้นมาทำงานในทุกๆหน้า
    แต่ถ้า Trigger เป็นหน้า Page url = “/xxx” แท็กก็จะถูกเรียกทำงานแค่ตอนที่เราเปิดหน้า “/xxx” เท่านั้น

    Variables คืออะไร

    ตัวแปรที่บรรจุข้อมูลต่างๆ ซื่งตัวแปรนี้จะถูกแยกออกเป็นหลายๆ ชนิด
    เช่น ชนิดที่เป็น url ก็จะเก็บ url ของเว็บไซต์เราไว้ และนำตัวแปรไปตรวจสอบกับ Trigger ว่าตรงตามที่เรากำหนดหรือไม่ ถ้าตรง แท็กก็จะถูกเรียกขึ้นมาทำงาน

    #วิธีเช็คว่าในเว็บไซต์มี Google tag manager แล้วหรือยัง
    ให้โหลด plug in ที่ชื่อว่า google tag assistant ใน google chrome

    • ไม่ใช้ GTM : tag ต่างๆอาจจะวางไว้ไม่เป็นระเบียบ เข้าไปแก้ไขยาก
    • ใช้ GTM เข้าไปจัดการติด tag ต่างๆ tag ดูเป็นระเบียบ จะเข้าไปแก้ไปจัดการก็ง่ายขึ้นผ่าน interface ที่ใช้ง่านได้ง่ายกว่า

    มันเหมือนโปรแกรม หรือ service ที่รวม code ต่างๆ ที่ต้องติดตั้งลงในเว็บไซต์ ประมาณว่า รวมไว้ให้ แก้ที่เดียวคือในตัวมัน เช่น GTM ก็ได้เลย คล้าย include ของ php ซึ่งรวม code ไว้

    ปที่เว็บไซต์ https://tagmanager.google.com กดไปที่ create account และใส่ข้อมูลให้ครบซึ่งประกอบไปด้วย ชื่อ account และเว็บไซต์ที่ต้องการติด gtm

    การติดตั้ง

    วิธีการการติดตั้ง Google analytics ผ่าน Google tag manager
    ซึ่งการทำงานของ google tag manager จะประกอบไปด้วย 3 สิ่ง
    1.Tag : code ที่เราต้องการติด เช่น code google analytics , facebook pixel
    2.Trigger : เป็นตัวที่จะกำหนดว่าจะให้ Tag เราไปทำงานที่ถ้าไหนหรือตรงปุ่มไหนของเว็บไซต์
    3.Variables : ตัวแปร “Used to receive or store information to be used by tags and triggers.”

    Start
    1. ให้ไปที่ tag จากนั้นกดที่ new
    2.หลังจากกดที่ new แล้ว ให้ตั้งชื่อ tag และกดต่อไปที่ tag configuration ในที่นี้เราจะติด google analytics ก็เลือกไปที่ Universal Analytics

    variable ให้เราคลิกไปที่ Selecte Setting Variable จากนั้นเลือก New variable
    ตั้งชื่อ variable ซึ่ง variable ที่เราจะใช้ในที่นี้คือ tracking code จาก google analytics
    ในส่วนนี้เราต้องไปเอาเลข tracking code จาก google analytics ของเรา
    เพื่อที่จะได้บอก tag google analytics ของเราว่าให้ส่งข้อมูลไปที่ google analytics ไหน ซึ่งเราต้องสร้าง google analytics account สำหรับเว็บไซต์ที่เราต้องการใช้ไว้ก่อนครับถึงจะได้ tracking code มา

    Triggering ซึ่ง trigger ก็คือตัวที่เราจะระบุว่าให้ tag google analytics ของเราเนี่ยไปทำงานที่หน้าไหนบ้าง กดไปที่ All page เพราะปกติเราต้องติด google analytics ทุกหน้าของเว็บไซต์อยู่แล้ว

    สรุป  ขั้นตอนแรกสร้าง Tag จากนั้นสร้าง variable ด้วยการใช้ tracking code ของ google analytics เพื่อบอก GTM ว่าให้ส่งข้อมูลไปที่ Google analytics account นี้นะจากเลข id และสุดท้ายกำหนด trigger เพื่อบอกว่าให้ Tag ของเราทำงานที่หน้านี้นะซึ่งจากตัวอย่างในที่นี่คือสั่งให้ tag ทำงานทุกหน้า


    https://www.hooktalk.com/google-tag-manager/



เวอไนน์ไอคอร์ส

ประหยัดเวลากว่า 100 เท่า!






เวอไนน์เว็บไซต์⚡️
สร้างเว็บไซต์ ดูแลเว็บไซต์

Categories


Uncategorized