Google AdWords คืออะไร
AdWords คือ โฆษณาแบบตัวอักษรที่ปรากฏบริเวณด้านขวามือของการค้นหาใน Google ( www.adwords.google.com ) ซึ่งทาง Google นั้นมีระบบโฆษณาที่เกิดจากการให้บริษัทหรือร้านค้าต่างๆ มาลงโฆษณาไว้กับ Google อยู่บริเวณด้านขวามือ ซึ่งเราจะเรียกการโฆษณาแบบนี้ว่า AdWords ( เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกการโฆษณาใน Google เท่านั้น หากเป็นเสีร์ชเอนจิ้น ( Search Engine ) อื่นๆ จะเรียกต่างกันออกไป แต่โดยรวมๆ จะเรียกวิธีการนี้ว่า Pay Per Click Management เพราะเป็นการจ่ายเงินตามที่คลิก ) ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับ AdWords สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือ AdWords
AdSense เกี่ยวอะไรกับ AdWords?
เมื่อ มีคนมาลงโฆษณากับทาง Google ด้วย Keyword ต่างๆ เช่น “Hotel” แล้ว Google จะนำโฆษณานี้มาปรากฏลงในหน้าโฆษณาของผู้ที่นำระบบโฆษณา AdSense ไปไว้ในเว็บไซต์นั้นๆ โดยภายในเว็บไซต์นั้นจะต้องมีเนื้อหาเกี่ยวกับ “Hotel” เป็นต้น และเมื่อเรานำ Code ที่ได้รับจากการสมัคร AdSense ไปไว้ที่เว็บไซต์เราแล้ว ระบบของ Google จะพิจารณาเว็บไซต์ที่นำ Code AdSense ไปติดว่ามีเนื้อหาว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องใด แล้วจะแปลง Code ที่นำไปติดนั้น เป็นการโฆษณาตามเนื้อหาในเว็บไซต์นั้นๆ และเมื่อมีคนคลิกโฆษณาที่หน้าเว็บไซต์ที่นำ AdSense ไปติดนั้น Google ก็จะได้รับเงินจากผู้ลงโฆษณา AdWords และแบ่งเงินส่วนที่ได้รับนั้นให้กับผู้ที่นำ AdSense ไปติด และด้านล่างคือภาพที่แสดงการทำงานของ AdWords และ AdSense ที่ทำงานร่วมกัน
การทำ adword ให้ได้ประสิทธิภาพ
การทำ adword ให้ได้ประสิทธิภาพด้วยการให้ความ
ความสำคัญที่ Keyword ต่อ %CTR และ CPC
ในการประชาสัมพันธ์เวปไซต์ผ่านบริการของ Google AdWords ปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุดคงจะหนีไม่พ้นต้นทุนต่อการคลิ๊กหรือ Cost Per Click สูง ทั้งนี้อาจจะเนื่องจาก Keyword นั้นๆ มีอัตราการแข่งขันสูง หรือไม่ก็อาจสืบเนื่องมาจากค่า %CTR ต่ำส่งผลให้ไม่ได้ส่วนลดจากราคาเต็มที่ประมูลไว้ เป็นต้น
แนวทางในการลดต้นทุนจากปัญหาดังกล่าวสามารถทำได้โดยอาศัยหลักการดังนี้
– หลีกเลี่ยงการใช้ Keyword แบบ Board Match ควรใช้ Keyword แบบ Phrase Match หรือ Exact Match
– หลีกเลี่ยงการใช้ Keyword ที่กว้าง พยายามเลือกใช้ Keywordที่เจาะจงและระบุถึงตัวสินค้าหรือบริการนั้นๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
– ควรเขียนหัวข้อโฆษณาให้ดึงดูดผู้อ่าน แต่ให้หลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำโฆษณาที่บรรยายสรรพคุณเกินจริง
– พยายามแทรก Keyword นั้นๆ ให้ปรากฏอยู่ในหัวข้อหรือข้อความโฆษณาให้ได้มากที่สุด โดยที่ไม่กระทบต่อใจความของโฆษณา
– ถ้าเป็นไปได้ ให้เลือก Url ที่มี Keyword นั้นๆ รวมอยู่ด้วย
– กำหนดกลุ่มลูกค้าและพื้นที่ๆ โฆษณาจะถูกแสดงอย่างชัดเจน
– หลีกเลี่ยงการใช้ Keyword จำนวนมากต่อหนึ่ง Ad Group แต่ควรแยกเขียนโฆษณาออกเป็นหลายๆ Ad Group แล้วกำหนดเฉพาะ Keyword ที่สอดคล้องกับข้อความโฆษณาใน Ad Group นั้นๆ เป็นสำคัญ
– เปรียบเทียบผลลัพธ์ของแต่ละ Ad Group แล้วคัดเลือกเฉพาะ Ad Group ที่ให้ค่า % CTR สูงไว้ใช้งาน
– หมั่น Up Date ข้อความโฆษณา โดยเฉพาะเมื่อสินค้าหรือบริการนั้นๆ มีการ Promotion ใหม่ๆ
– พึงระลึกไว้เสมอว่า หากตัวเราเองเป็นผู้ค้นหาจะเลือกใช้ Keyword ใด? และต้องการคลิ๊กอ่านข้อความโฆษณาที่มีข้อความอย่างไร ?
ผลลัพธ์ ที่ได้แสดงดังภาพ ถึงแม้ในระยะแรกๆ Page View จะไม่สูงมาก แต่ %CTR ค่อนข้างสูง นั่นหมายความว่าโฆษณามีความสอดคล้องกับความต้องการของผู้ค้นหา ผลที่ตามมาก็คือต้นทุนต่อการคลิ๊กที่ต่ำกว่านั่นเอง