• September 23, 2018

    Digg.com กับการกบฏบนเว็บ

    สิ่งที่อาจจะเรียกว่าเป็นการก่อจลาจลบนเว็บขึ้นที่ digg.com หลังจาก Digg.com ได้รับจดหมายแจ้งเตือนให้ลบข้อความและลบบัญชีผู้ใช้งานที่นำเอาโค้ดการแครค ไฮ เดฟฟินิชั่น ดีวีดี มาโพสต์ ปรากฏว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตามามาทันทีหลังจาก Digg.com จำเป็นต้องยอมทำตามจดหมายแจ้งเตือนเพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาข้อกฎหมาย

    บรรดาสมาชิกผู้ใช้งาน digg.com ก็พากันทั้งโพสต์ และโหวต หน้าเพจที่ลงโค้ดแครค HD DVD กันยกใหญ่ ถล่มเข้าไปยังไซต์เป็นพันๆ เลยทีเดียว

    ผลจากการก่อการกบฏ หรือจลาจลของชาวเว็บแห่ง Digg.com ทำให้ผู้บริหารเว็บตัดสินใจเพิกเฉยต่อหนังสือแจ้งเตือนในที่สุด ส่วนหนึ่งก็เพราะแก่นแกนแนวคิดของ Digg.com นั้นคือการสร้างชุมชนที่สมาชิกต่างมีส่วนร่วมในการสร้าง เรื่องที่สมาชิกโพสต์เข้าไปยังเว็บจะถูกงัดขึ้นมานำเสนอหน้าแรกนั้นผ่านการให้คะแนนจากสมาชิกผู้อ่านคนอื่นๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นมากๆ ของ Digg.com เทียบได้กับอำนาจอยู่ที่สมาชิกในชุมชนเป็นสำคัญ

    “เควิน โรส” ผู้ก่อตั้งอธิบายจุดยืนของ Digg.com ไว้ทำนองนี้ หลังจากที่ตอนแรกตัดสินใจยอมตามหนังสือแจ้งเตือน แต่เมื่อได้เห็นการโพสต์โค้ดสั้นๆ บรรทัดนั้นเข้ามาอีกนับเป็นร้อยๆ รวมทั้งการอ่านและคอมเมนต์อีกหลายพัน ก็เป็นอันชัดเจนว่า สมาชิกของชุมชน “อยากจะเห็น Digg ถูกปิดเพราะการต่อสู้มากกว่าการค้อมหัวให้กับบริษัทที่ใหญ่โตกว่า เราได้ยินเสียงของพวกท่าน และให้มีผลในทันทีนับจากนี้คือ เราจะไม่ลบข้อความหรือความคิดเห็นที่มีโค้ดดังกล่าวอยู่ในนั้น และเราพร้อมจะรับมือกับผลที่จะตามมา”

    เท่ากับการพลีเว็บไซต์เพื่อสมาชิกเลยทีเดียว เพราะการขัดขืนต่อคำเตือนจะตามมาด้วยการต่อสู้ในแง่กฎหมาย ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล และผลสุดท้ายก็อาจจะถูกปิด เพราะแนวโน้มที่จะแพ้นั้นก็พอมองเห็นอยู่เหมือนกัน

    นี่นับเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจติดตามเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากประเด็นของปัญหาไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เพราะมันคือความต้องการอิสระของผู้บริโภคที่จะก๊อบ… ไฮ เดฟฟินิชั่น ดีวีดี ซึ่งบริษัทผู้เป็นเจ้าของเทคโนโลยีต้องการปิดกั้นการทำซ้ำหรือการก๊อบ…

    ประเด็นความขัดแย้งแบบนี้เกิดขึ้นทุกครั้งที่สื่อบันทึกแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นในโลก แต่ที่ผ่านมาสุดท้ายแล้วการปิดกั้นก็ต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด เป็นเรื่องที่มีนัยสำคัญใหญ่โตกว่าการละเมิดลิขสิทธิ์หรือกฎหมายแบบอื่นๆ เช่น ภาพลามกอนาจาร หรือการล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เป็นต้น

    อย่างน้อยๆ ในแวดวงอินเทอร์เน็ตนับจากนี้ไป ชื่อของ เควิน โรส อาจจะได้รับการจดจำไว้ในฐานะฮีโร่คนหนึ่ง แม้ในที่สุดแล้วเขาอาจจะรักษา Digg.com เอาไว้ไม่ได้เว็บไซต์อื่นๆ เช่น กูเกิล, เวิร์ดเพรส ได้รับแจ้งเตือนแบบเดียวกัน แต่พวกนั้นไม่ได้ลุกขึ้นสู้แบบ Digg.com

    อย่างไรก็ตาม ข้อวิจารณ์ที่มีต่อ Digg.com ในการเซ็นเซอร์เรื่องอื่นๆ ก่อนหน้านี้ก็ผุดขึ้นมาไม่แพ้กัน

    ที่มา – ประชาชาติธุรกิจ

    ตอนนี้ Digg.com ยังอยู่น๊า  ::)



เวอไนน์ไอคอร์ส

ประหยัดเวลากว่า 100 เท่า!






เวอไนน์เว็บไซต์⚡️
สร้างเว็บไซต์ ดูแลเว็บไซต์

Categories


Uncategorized