• February 21, 2012

    http://www.youtube.com/watch?v=1KQvgd5d_74
    อันตรายจากการใช้ Wi-Fi ฟรีจากที่สาธารณะ

    ข้อควรระวังและป้องกัน ในกรณีคุณใช้อินเตอร์เน็ตสาธารณะ!
    รายการ ไอที24ชั่วโมง iT24Hrs สัญจร 16 June 2011

    ช้บริการอินเตอร์เน็ตผ่านทาง wifi- ฟรี  , Wi-fi สาธารณะ และบริการเช่าคอมพิวเตอร์ไว้สำหรับพิมพ์งาน เล่นอินเตอร์เน็ตหรือเกมออนไลน์ สิ่งที่จะต้องระัวังในการใช้งานอินเตอร์เน็ตคือ ความเป็นส่่วนตัว ในขณะ login เข้าใช้งานบริการเช่น เช็คอีเมลล์ โพสวีดีโอ  เล่น facebook และ twitter และ เกมออนไลน์ เพราะมีคนโดนขโมยบัญชีของเราไปแล้วหลายรายจากการลืมกระทำบางสิ่งบางอย่าง

     

    จากหลายตอนที่แล้วที่นำเสนอเรื่องเกี่ยวกับการตั้งรหัส wi-fi ป้องกันคนอื่นแอบใช้บริการเน็ตของเราโดยฟรีๆ แต่เมื่อเรามาใช้บริการอินเตอร์เน็ตฟรี บนที่สาธารณะต่างๆเช่น ห้องอินเตอร์เน็ตในโรงเรียน  wi-fi ในหน่วยงานองค์กร ทั้งแบบฟรี และแบบเสียตังค์ที่เคยนำเสนอในตอนสงครามบริการ wi-fi ก็มักจะมีผู้ไม่ประสงค์ดี คอยดักจับสัญญาณ wifi หรือโจมตีผ่านเพื่อมาแอบโจมตีผ่านไวรัสเข้าเครื่องตลอดเวลา เพื่อทำการขโมยรหัส login ขโมยข้อมูลความเป็นส่วนตัวของคุณ  หรือมาแฝงแอบใช้บริการต่อจากคุณก็มี หากคุณลืมทำการ logout หรือ ลบข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวคุณ หากคุณเลือก wi-fi ฟรีแบบไม่มีเข้ารหัสผ่าน คุณก้มีโอกาสเสี่ยงสูงที่โดนหลอกพาเข้าสู่เครือข่ายอันตรายได้

    วิธีป้องกันคือ

    – ในกรณีใช้ wi-fi ฟรีัแบบไม่ต้องใส่รหัส ควรมีซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและตรวจสอบด้วย เฉพาะ notebook  smartphone และ tablet ที่จะต้องลงซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสด้วย เพื่อป้องกันการโจมตีเผยแพร่ไวรัสมัลแวร์ ผ่านทางอินเตอร์เน็ตทั้งทางเครือข่าย Lan ในโรงเรียน และทาง Wi-Fi สาธารณะ สำหรับโปรแกรมฟรีที่ช่วยได้บน smartphone คุณคือ โปรแกรม Lookout นี่เอง ที่สามารถสแกนไวรัสได้ด้วย

    – หากคุณใช้บริการอีเมลล์ และใช้ facebook ,twitter และเว็บสังคมออนไลน์อื่นๆ เมื่อใช้เสร็จแล้วควร logout ทุกครั้ง ด้วย หากคุณลืม logout อาจทำให้ผู้ใช้คนอื่นๆได้ใช้หรือแอบขโมยบัญชีของคุณไปทันที เพราะยังจำค่าเก่าได้อยู่

    จากภาพสังเกตให้ดีว่ามีติ๊กเครื่องหมายถูกเพื่อ auto login ดัุงนั้นเอาเครื่องหมายถูกออกด้วย

     

    – แต่ถ้าคุณใช้ wifi สาธารณะ แบบเสียเงิืน ควรใส่ username และ password ทุกครั้งก่อนใช้บริการ และ logout เมื่อเลิกใช้ทุกครั้ง (ไม่ควร save รหัสผ่าน loginอัตโนมัติโดยเด็ดขาด  )

    – ควรClear History ที่คุณท่องเว็บทุกครั้งด้วย เพราะบางคนจะติดตามเราผ่านทางเว็บ History เพื่อติดตามขโมยข้อมูลของเราได้ด้วย และยังแฝงบันทึกไว้ใน cookie ที่คอยเก็บข้อมูลในการกรอกข้อมูลตลอดเวลา ซึ่งอาจนำไปใช้ในการแฮคได้ ดังนั้นการลบข้อมูล History และ cookie นี้ไว้เพื่อป้องกัุนไว้ก่อนไม่ให้ติดตามเราได้

    วิธีการเคลีย History เพื่อไม่ให้ คนอื่นมาเจาะรหัสผ่านของเราได้ทำได้ดังนี้

    สำหรับ Internet Explorer8 ให้เลือกเมนู  tool  >> เลือก Internet Option จะปรากฎหน้าต่างด้่านล่าง

     

    เลือก ตรงโซนบริเวณ Browsing History จะเห็นปุ่ม Delete…   คลิกปุ่ม Delete…  จะปรากฎหน้าต่าง windows อีกหน้า เหมือนรูปด้านขวามือ  เลือก ถูกทั้งหมด หรือเลือกเฉพาะ Temporary Internet Files , Cookies , History , From Data , Passwords  เป็นต้น แล้วกด DELETE เพื่อเคลียข้อมูลทั้งรหัสผ่าน และหน้าท่องเวบ History แค่นี้ก็ปลอดภัยจากการถูกแอบติดตามข้อมูลคุณผ่านเว็บไซต์ หรือเจาะรหัสผ่านแล้ว

    ส่วนใครใช้ Google Chrome ก็ทำการ History ได้ตามขั้นตอนดังนี้

    1. คลิกเลือกตรง ไอคอนรูปไขควง ตามรูปเบอร์ 1  จะปรากฎเมนูรายการต่างๆ เลือก “ตัวเลือก” ตามเบอร์2 ดังรูป

     

    2. จะปรากฎหน้าต่างตัวเลือก ให้เลือกขั้นสูง ในหน้าเมนูข้างซ้าย จะปรากฎการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ให้คลิกปุ่ม “ล้างข้อมูลการท่องเว็บ….”

    3. จะปรากฎหน้าต่างการลบข้อมูล เลือกสิ่งที่ต้องการลบ แต่ที่จำเป็นต้องลบคือ ลบประวัติการเข้าชม  ลบแคช ลบคุกกี้ ลบรหัสผ่านที่บันทึกไว้ และ ลบข้อมูลฟอร์มที่ป้อนอัตโนมัติที่บันทึกไว้ แล้วคลิกปุ่มตรงล้างข้อมูลการท่องเว็บ ก็เสร็จเรียบร้อย

    บนมือถือก็เช่นกันก็ควร History และ เคลีย password ที่กรอกไว้ด้วย

    อยากใช้ Wi-Fi ฟรี ไปดูกันว่ามีที่ไหนให้บริการบ้าง

    ตอนนี้ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ก็เห็นมีสัญญาณ Wi-Fi HotSpot ให้บริการครอบคลุมทั่วเมือง เช่น
    บริการจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
    ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ
    ร้านค้า
    ร้านกาแฟต่างๆ

    ซึ่งเป็นทั้งบริการฟรี (สำหรับลูกค้าในร้าน) และไม่ฟรี (เสียค่าชั่วโมง หรือคิดตามแพ็คเกจ)

    แต่ถึงจะเจอ Wi-Fi HotSpot ฟรี ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกสัญญาณจะเชื่อมต่อได้ฟรี

    จะหา Wi-Fi ใช้ฟรีได้ที่ไหนบ้าง ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด

    Wi-Fi ฟรีที่ให้บริการอยู่ทุกวันนี้ เป็นอย่างไร

    ปกติแล้วคำว่า Wi-Fi Free นั้นไม่ได้ฟรีซะทีเดียว จริงๆแล้ว Wi-Fi ฟรีจะให้บริการ “ฟรีสำหรับการใช้งาน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย” ภาย ใต้เงื่อนไขที่กำหนด แต่จะต้องขอรหัสเข้าใช้งานเพื่อล็อกอินเข้าใช้งานได้ฟรี แต่อาจจะมีการจำกัดระยะเวลาในการใช้งานต่อการล็อกอิน 1 ครั้ง หรือกำหนดระยะเวลาในการตัดการเชื่อมต่อ และสามารถเชื่อมต่อใหม่ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง กับอีกแบบคือ ร้านกาแฟเล็กๆ ร้านขนมเค้ก เบเกอรี่ ให้บริการ Wi-Fi ฟรีโดยปล่อยสัญญาณจาก Modem Router เหมือนอินเทอร์เน็ตตามบ้านทั่วไป ผู้ใช้บริการในร้านเพียงแค่ขอรหัสผ่านก็สามารถเข้าใช้งานได้ แบบนี้อาจจะเป็นการแชร์ความเร็วกับผู้ใช้คนอื่นๆ และรองรับการให้บริการในร้านเล็กๆ จำนวนผู้ใช้ไม่มากนัก

    ตัวอย่างหน้าจอล็อกอินของ KSC HotSpot ที่ให้บริการในร้านกาแฟ Starbucks สามารถนำรหัสผู้ใช้ของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือและผู้ให้บริการอินเทอร์มา ใช้งานได้ฟรี คำว่าฟรี หมายถึง ให้บริการปล่อยสัญญาณฟรี แต่หากจะใช้งานอินเทอร์เน็ต จะต้องนำรหัสที่มีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบเสียเงิน หรือสิทธิใช้ฟรีที่คุณได้รับ มาล็อกอินเพื่อใช้งานได้ตามเงื่อนไขของรหัสเข้าใช้งานนั้นๆ

    ก่อนใช้ Wi-Fi ฟรี พึงตระหนักถึงความเสี่ยงในการเชื่อมต่อ

    การให้บริการ Wi-Fi ฟรี จะเป็นบริการที่นำเสนอให้กับลูกค้า แต่เมื่อเราเชื่อมต่อ Wi-Fi ฟรีแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่า Wi-Fi ที่เราเชื่อมต่อนั้น มีความปลอดภัย น่าไว้วางใจแค่ไหน หลายๆคนก็คิดว่า เราไม่ได้มีข้อมูลความลับองค์กรระดับชาติ แต่ก็ควรระวังในการล็อกอิน รหัสผ่าน หมายเลขบัตรเครดิต เพราะในความเป็นจริง Wi-Fi ก็คล้ายกับการใช้งานอินเทอนร์เน็ตสาธารณะตามร้านอินเทอร์เน็ตนั่นแหล่ะ เพียงแต่ใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ของเราเอง

    การใช้ Wi-Fi ฟรี อาจมีความเสี่ยงในการดักจับข้อมูล ความลับ รหัสผ่าน ตลอดจนหมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลของเราอาจรั่วไหลได้
    Wi-Fi ฟรี อาจจะมีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัย หากไม่มั่นใจจริงๆ หรือไม่แน่ใจว่าเป็นสัญญาณจากผู้ให้บริการจริงหรือไม่ก็หลีกเลี่ยงการเชื่อมต่อดีกว่า

    เราจะหา Wi-Fi ฟรีได้จากที่ไหน

    ก่อนที่จะใช้ Wi-Fi ฟรี เราควรตระหนักถึงภัยที่อาจะเกิดขึ้นจากการดักจับข้อมูล ข้อมูลสำคัญรั่วไหล เช่น หมายเลขบัตรเครดิต รหัสผ่าน เมื่อยอมรับความเสี่ยงแล้ว ก็ลองมาดูกันว่า จะหา Wi-Fi ฟรีได้จากที่ไหนบ้าง

    อันดับแรก เราควรจะทราบก่อนว่า บริการโทรศัพท์มือถือ บริกาอินเทอร์เน็ตบ้านของเรานั้น มีรหัสเข้าใช้งาน Wi-Fi ให้ใช้งานนอกสถานที่ได้หรือไม่ และสังเกตจากสัญลักษณ์ของผู้ให้บริการ บางร้านอาจจะขึ้นป้าย Free Wi-Fi หรือสังเกตสัญลักษณ์รูปสัญญาณ Wi-Fi ที่เข้าใจกันทั่วโลก โดยผู้ให้บริการ Wi-Fi ฟรีจะมี 2 แบบคือ ร้านกาแฟใหญ่ๆ หรือร้านตามห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ จะมีสัญลักษณ์ Wi-Fi จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ๆ เช่น AIS wifi, dtac wifi, True Wi-Fi, TOT Wi-Fi มองหาป้ายลักษณะนี้ แล้วนำรหัสที่ได้รับจากผู้ให้บริการมาใช้งานได้ทันทีตามเงื่อนไขที่ผู้ให้ บริการกำหนด ส่วนอีกแบบคือ ป้ายร้านทั่วๆไป Free Wi-Fi บางสถานที่อาจจะมีสัญลักษณ์เหมือนภาพประกอบด้านบนสุด ลองสอบถามพนักงานดู ว่าสามารถขอรหัสใช้งานได้โดยมีเงื่อนไขอะไรบ้าง เช่น ซื้อสินค้าครบ 100 บาท หรือแสดงบัตรสมาชิกร้านรับสิทธิ์ใช้ Wi-Fi ฟรี เป็นต้น

    แล้วที่ไหนบ้างล่ะ ที่มีบริการ Wi-Fi?

    มองหาสัญลักษณ์ Green Bangkok Wi-Fi ใช้ Wi-Fi ฟรี

    เอาใจคนกรุงด้วย Wi-Fi ฟรีจาก @TRUEWIFI หลายปีมาแล้วที่ทรูได้ร่วมกับทางกรุงเทพมหานคร ให้บริการ Wi-Fi ฟรีสำหรับชาวกรุงเทพมหานคร ภายใต้ชื่อ Green Bangkok Wi-Fi ให้บริการโดยการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ และต่ออายุทุกเดือนเพื่อ การใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกใช้บริการ Wi-Fi ฟรี ได้ตามสถานที่ที่มีบริการเครือข่าย Wi-Fi (สังเกตสัญลักษณ์ True Wi-Fi แบบในภาพบน) โดยเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi ผ่าน SSID @TRUEWIFI (ตัวใหญ่ทั้งหมด) ขณะนี้มีให้เลือกสมัครได้ 2 แพ็คเกจคือ 64Kbps ใช้งานได้ฟรีไม่จำกัดชั่วโมงต่อเดือน (แต่จำกัดความเร็วไว้ที่ 64Kbps) โดยจะมี username ขึ้นต้นด้วย bk ส่วนใครอยากได้เน็ตเร็วหน่อยก็สมัครแพ็คเกจ 1Mbps ใช้ฟรีเดือนละ 1 ชั่วโมง (เมื่อเลิกใช้งานต้องล็อกเอ้าท์ออก) โดยมี username ขึ้นต้นด้วย sbk ส่วนความเร็ว ใช้งานได้ตามข้อกำหนดของแพ็คเกจที่เราสมัครไว้ และมีข้อกำหนดคือ ตัดการเชื่อมต่ออัตโนมัติทุก 90 นาที (สำหรับแพ็คเกจ 64Kbps) เพื่อป้องกันการล็อกอินแช่ค้างไว้ตลอดทั้งวัน โดยทั้งสองแพ็คเกจ ต้องล็อกอินด้วยนามสกุลต่อท้ายคือ @truewifi (จะมีให้เลือกในหน้าล็อกอิน) เมื่อลงทะเบียนเสร็จสมบูรณ์แล้วคุณจะไม่สามารถเปลี่ยนแพ็คเกจได้ จนกว่าจะหมดอายุการใช้งานในรอบนั้นๆ ต้องรอให้หมดรอบจึงสมัครแพ็คเกจใหม่ และจะต้องต่ออายุทุกเดือนหากต้องการใช้อย่างต่อเนื่อง

    และหลังจากที่เราได้เสนอบทความไป ล่าสุดกรุงเทพมหานคร เปิดให้ใช้ Wi-Fi ฟรี 2 หมื่นจุดทั่วกรุง โดยได้เตรียมลงนามกับบริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด เพื่อให้บริการ Wi-Fi ฟรี 2 รูปแบบ

    1) ใช้งานได้ไม่จำกัดระยะเวลาใช้งาน สามารถใช้งานบนความเร็วในการ Download 256Kbps / Upload 128 Kbps
    2) จำกัดการใช้งาน 5 ชั่วโมงต่อเดือน สามารถใช้งานบนความเร็วในการ Download) 2Mbps / Upload 512 Kbps

    โดยการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการนั้น ทางกทม.จะแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

    ใช้ Wi-Fi ฟรีที่ 7-Eleven (15 นาที/วัน)

    ร้าน 7-Eleven มีสาขากระจายอยู่ทั่วเมือง คุณสามารถใช้ Wi-Fi ได้ฟรี เพราะทาง TruemoveH และ 7-Eleven ร่วมมือกันช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร เมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้เราได้ใช้ Wi-Fi ที่ 7-Eleven ที่ร่วมรายการ กว่า 2,500 ร้าน ซึ่งความเร็วที่ได้สูงสุดคือ 8Mbps ใช้งานได้ 15 นาทีต่อวัน ตั้งแต่เที่ยงคืน – 23.59น. (ลงทะเบียนก่อนใช้งาน) รีบหน่อยเพราะใช้ได้ถึง 31 พฤษภาคมนี้เท่านั้น (หากไม่ได้ใช้งาน แนะนำให้ล็อกเอ้าท์ออก เพื่อเก็บสิทธิ์ใช้งานไว้ใช้ได้ถึง 23.59น.) แนะนำให้สังเกตสติกเกอร์หน้า 7-Eleven ที่ระบุว่า ใช้ TRUEWIFI ได้ฟรี หรือสอบถามจากพนักงาน และไม่จำเป็นต้องใช้มือถือ TruemoveH ก็ใช้ Wi-Fi ฟรีที่ 7-Eleven ได้ วิธีใช้งาน

    ใช้ Wi-Fi ชิลๆ ระหว่างช้อปเพลินๆ ที่สยาม 

    ใครที่เดินช้อปปิ้ง ซื้อของ ติดต่อธนาคาร ศูนย์บริการต่างๆ ในย่านสยาม รวมถึง Siam Paragon, Siam Discovery, Siam Center  ใช้บริการ Wi-Fi ฟรี ได้จากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ AIS, dtac, TruemoveH และ TOT สำหรับ AIS wifi (เชื่อมต่อผ่าน SSID
    @AISwifi, 3BB_WiFi, 3BB_Hotspot และ Cyberpoint โดยสามารถใช้งานผ่าน Cyberpoint ได้สูงสุด 1 ชั่วโมงต่อวัน) บนความเร็วสูงสุด 100 Mbps. กด *199*1# โทรออก เพื่อขอรหัสใช้ Wi-Fi ฟรี ถึง 31 พฤษภาคมนี้  รายละเอียด ส่วน ใครที่เป็นลูกค้าดีแทค สามารถทดลองใช้ Wi-Fi ฟรี 30 วัน กด *104*60# เพื่อขอรหัสผ่าน จากนั้นเชื่อมต่อ ผ่าน SSID @Dtac Wifi ส่วน TruemoveH และ TOT ไม่ได้ให้บริการฟรี หากมีแพ็คเกจที่สมัครอยู่แล้ว ก็สามารถนำรหัสมาใช้งานได้ทันที สำหรับผู้ใช้ Truemove, TruemoveH ที่มีรหัสผ่านอยู่แล้วก็นำมาใช้ได้เลย โดยจะใช้งานได้สูงสุด 8Mbp แต่ถ้าอยากใช้งานเร็วขึ้น และมีรหัสเข้าใช้งานความเร็วสูงสุด 100 Mbps ก็สามารถนำมาใช้งานได้เช่นกัน

    เข้าธนาคาร ก็ใช้ Wi-Fi ฟรี ได้ที่ธนาคารกสิกรไทย

    ใครที่เป็นลูกค้าธนาคารกสิกรไทย แล้วใช้ TruemoveH ก็จะได้สิทธิ์ในการใช้ Wi-Fi ฟรีของ TruemoveH โดยจะมีบริการ 2 แบบ คือความเร็วสูง Ultra Wi-Fi by TruemoveH ความเร็ว 100Mbps. และ 8Mbps. สาขาที่ร่วมรายการ

    ใช้ Wi-Fi ฟรี ที่สวนสัตว์

    ใครที่ชอบท่องเที่ยว พักผ่อน สวนสัตว์ก็เป็นอีกหนึ่งสถานพักผ่อนหย่อนใจที่มีธรรมชาติสวยงามและร่มรื่น สำหรับการใช้ Wi-Fi ฟรีนั้นให้บริการโดย TOT WiFi@ZOO ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้ว มีความเร็ว 512Kbps – 2 Mbps ใช้งานได้ฟรี 8 ชั่วโมงต่อวัน

    ใช้ Wi-Fi ฟรีที่  Café Amazon ในปั๊มน้ำมันปตท.

    ก่อนหน้านี้ร้าน Cafe’ Amazon ในปั๊มน้ำมัน ปตท. ให้บริการ TOT Wi-Fi อยู่แล้ว (ไม่ฟรี) แต่ข่าวล่าสุด TOT จัดโปรโมชั่นให้บริการ Wi-Fi ฟรี 30 นาที ภายในร้านกาแฟ Café Amazon ตามสถานีบริการน้ำมันปตท. นำร่อง 20 สาขาทั่วประเทศ อยากได้รหัสเข้าใช้งาน แค่ซื้อกาแฟ 1 แก้ว รับ 1 รหัสเข้าใช้งาน 30 นาที ข้อมูลเพิ่มเติม

    ใช้ Wi-Fi ฟรีในสนามบินสุวรรณภูมิ

    ระหว่างที่เช็กอินแล้วรอเวลาขึ้นเครื่อง หากคุณไม่ได้เดินช้อป อยากนั่งเปิดโน้ตบุ๊กท่องเน็ต ทำงาน ที่สนามบินสุวรรณภูมิก็มีให้บริการ Wi-Fi ฟรีผ่าน “WLANNet” ผ่าน SSID  SVB ข้อมูลเพิ่มเติม และสำหรับใครที่ใช้ AIS ก็ใช้ Wi-Fi ฟรีได้ที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออกและขาเข้า ชั้น 1-4

    ใช้ Wi-Fi ฟรีที่ศูนย์การค้า Terminal21

    ห้างดังย่านอโศก Terminal 21 เปิดให้บริการ WiFi ฟรี (ล็อกอินมีอายุ 1 ปี) เพียงนำบัตรประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์เพื่อใช้ลงทะเบียนเข้าใช้งาน ข้อมูลเพิ่มเติม

    ใช้ Wi-Fi ฟรีที่โรงพยาบาล

    หลายๆโรงพยาบาล ให้บริการ Wi-Fi ฟรีสำหรับผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย ลองสอบถามการให้บริการได้จากเจ้าหน้าที่ และสังเกตสัญลักษณ์ ในบางโรงพยาบาลให้บริการโดย TOT Wi-FI สำหรับาการใช้งานในบางแผนก ควรปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด และปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้รบกวนผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงาน

    ใช้ Wi-Fi ฟรีตามสถานที่ท่องเที่ยว

    สถานที่ท่องเที่ยวอย่าง ตลาดน้ำอัมพวา มีบริการ Wi-Fi ฟรีจาก 3BB Hotspot ให้บริการครอบคลุมพื้นที่รอบตลาดน้ำอัมพวา ความเร็วสูงสุดถึง 4 Mbps อันนี้ไม่ใช่บริการฟรี แต่หากมีรหัสผู้ใช้ก็สามารถนำมาใช้งานได้ทันที

    สถานที่ให้บริการ Wi-Fi ฟรีที่ได้แนะนำไปทั้งหมด เป็นบริการฟรีซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขข้อกำหนดและเงื่อนไข รวมไปถึงยกเลิกจากผู้ให้บริการ หรือร้านค้าต่างๆได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และก่อนเชื่อมต่อ แนะนำให้คุณตรวจสอบให้แน่ใจ หรือสอบถามพนักงานว่าควรเชื่อมต่อกับ SSID ชื่ออะไร เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ใช่สัญญาณที่ปล่อยขึ้นมาเพื่อหลอก เพราะบางคนลองเชื่อมต่อไปเรื่อย เจออันไหนฟรีก็เชื่อมต่อ อันตรายและเสี่ยงมาก หากเป็นผู้ไม่หวังดีพยายามโจรกรรมข้อมูลของท่าน และหากท่านผู้อ่านพบว่ามีสถานที่ใดที่ให้บริการ Wi-Fi ฟรี สามารถแจ้งเพื่อนๆให้ทราบได้ผ่านคอมเมนต์ด้านล่างนี้



เวอไนน์ไอคอร์ส

ประหยัดเวลากว่า 100 เท่า!






เวอไนน์เว็บไซต์⚡️
สร้างเว็บไซต์ ดูแลเว็บไซต์

Categories


Uncategorized