-อาหารแพง ส่วนประกอบหลักจะเป็นเนื้อ ที่เป็นเนื้อจริงๆ ไม่ใช่เศษเนื้อ เศษกระดูก และ ส่วนใหญ่ จะไม่มีส่วนประกอบของ ข้าวโพดและธัญพืช (บางยี่ห้อที่แพงก็แอบมี)

-อาหารถูก จะใช้ข้าวโพดและธัญพืชต่างๆเป็นหลัก เนื้อนั้นจะเป็นเศษเนื้อ กระดูก หรือถ้าหาอ่านจากหลังถุง เขียนว่า meat from by product

โปรตีนเยอะคือไม่ต่ำกว่า 30% แต่ แมวได้รับโปรตีนที่ได้จากอาหารเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น ที่ไม่สามารถย่อยได้คือพวกข้าวโพด ถั่ว กับ ธัญพืช อาหารถูกนั้น แมวกินเข้าไปแล้วจะได้รับโปรตีนจากเนื้อและไข่อบแห้งเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็ อึทิ้งออกมาหมด เพราะกระบวนการทดสอบโปรตีนนั้น ไม่สามารถแยกได้หรอกว่า โปรตีนที่มีในอาหารน่ะ มาจากส่วนไหนบ้าง นึกถึงกรณีที่นมผงเด็กจากจีนใส่ เมลามีน เพื่อโกงผลทดสอบให้ได้มาตรฐาน แต่มันไม่ได้ร้ายแรงเท่านะ อย่าเพิ่งเตลิดไป และข้าวโพดกับธัญพืช ก็ไม่ได้ก่อพิษภัยอะไรต่อแมวมากนัก และก็ไม่ใช่ว่าจะย่อยไม่ได้เลย แต่ได้ในปริมาณที่น้อยมากๆตะหาก เปรียบเทียบก็คือเราทานขนม
ก็มันแพงง่ะ เค้าไม่ไหว แมวเค้ากินเยอะ จะทำไงห่วงก็ห่วง อาหารแพง มีโปรตีนที่แมวนำไปใช้ได้จริงๆ 30%+ แน่ๆ
อาหารถูก มีโปรตีนที่แมวได้รับจริงๆเพียงแค่ไม่เกิน 10% ที่เหลือใช้ไม่ได้อึออกมาหมด
ถ้าคุณให้แมวกินอาหารแพง คุณควรที่จะลดปริมาณที่ให้จากเดิมลงด้วยถึงจะให้ผลดีที่สุด เพราะถ้าให้เท่าเดิม แมวกินเข้าไปสุดท้ายร่างกายก็ขับถ่ายออกมาหมดเหมือนกัน เพราะใช้ไม่ได้หมดน่ะเอง
แล้วจะไปซื้ออาหารแพงทำไม ในเมื่อสุดท้ายมันก็ได้รับเท่าเดิมอยู่ดี แต่คุณต้องไม่ลืมด้วยว่า ส่วนผสมที่ดีมีผลต่อสุขภาพของแมวโดยตรง  ไหนจะเรื่องของวิตามิน ส่วนผสมอื่นๆอีกล่ะ ที่อาหารถูกๆนั้นไม่มี และพอแมวกินน้อยลง แมวก็ถ่ายน้อยลง ประหยัดทั้งค่าทราย ทั้งค่าหาหมอ
การได้รับน้ำ และการออกกำลังกาย สำคัญด้วย
Me-o, Whiskas, Frieskies, Purina one, Royal canin, ANF , Chicken soup, Science Diet
จืดทุกยี่ห้อ มันจะเค็มที่กลิ่นมากกว่าซึ่งตรงนี้แหล่ะที่แต่งกลิ่นกันออกมาขาย

จุดประสงค์ของอาหารเม็ดแบบแห้งก็คือทำมาเพื่อความสะดวกสบายของคนเลี้ยง ที่สามารถให้อาหารลูกๆไว้ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่เสียคุณภาพไป ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้

อาหารเปียกทำมาทำไม?
ปัญหาของแมวจะไม่ค่อยกินน้ำ และแมวจะกินน้ำก็ต่อเมื่อร่างกาย เกิดภาวะ DEHYDRATE หรือขาดน้ำแล้วจนไม่ไหว แต่ก็ไม่แน่เสมอไป แมวบางตัวก็กินน้ำบ่อย

แมวโดยปกติทั่วไป จะได้รับน้ำจากอาหาร ปริมาณน้ำในอาหารสำคัญ ถ้าสังเกตดูอาหารกระป๋องจะเขียนไว้ถึงปริมาณ โปรตีน อย่างดีแค่ไหนก็ไม่เกิน 20% สัมพันธ์กับข้างบนเรื่องของอาหารที่มีปริมาณโปรตีน 10-30% ว่าทำไมคนเลี้ยงอาหารราคาถูกแมวถึงไม่ผอมแห้ง และให้อาหารเม็ดแพงๆมากเกินไปแล้วแมวถึงขับถ่ายออกมาหมด เพราะแมวเค้าใช้ได้แค่นั้น แต่เค้าจะบอกว่ามีปริมาณความชื้นเท่าไร ซึ่งส่วนใหญ่จะสูงกว่า 85%!

ซึ่งจากปริมาณน้ำกับอาหาร เป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงของสุขภาพ ให้ไม่เจ็บป่วยไม่สบาย จนถึง โรคนิ่ว
นิ่วเกิดจากสารตัวหนึ่ง สารตัวนี้เกิดขึ้นได้จากการได้รับอาหารทั่วๆไป เริ่มมาจาก เมื่อแมวได้รับอาหารก็จะมีสารตัวนี้เกิดขึ้นมาซึ่งร่างกายจะขับผ่านออกไปทาง ปัสสาวะ เกิดจากการที่ร่างกายนั้นขับสารตัวนี้ออกมา จนอยู่ในระดับเข้มข้น จนสารนี้ตกผลึกในทางเดินปัสสาวะ สารนี้รวมตัวกันกับแคลเซียมแล้วจะกลายเป็นตะกอนเกาะอยู่ที่ทางเดินปัสสาวะ

สารตัวนี้จะไม่เกิดผลึกขึ้นมากจนเป็นนิ่วได้ หากเหมียวได้กินอาหารที่มีโปรตีน และ ฟอสเฟตที่มากพอ เพราะ เจ้า 2 ตัวนี้ทำหน้าที่ ละลาย สารที่ทำให้เกิดนิ่ว ไม่ให้ตกผลึกเป็นตะกอนภายในทางเดินปัสสาวะได้ ซึ่งก็ไม่ใช่เพียงแค่อาหารที่มีโปรตีนเพียงพอเท่านั้น ความเข้มข้นของน้ำในไตนั้นก็ด้วย หากร่างกายขับน้ำออกมาไม่มากพอ จนความเข้มข้นนั้นสูงเกินไป มันก็ทำให้เกิดนิ่วได้ ซึ่งตรงนี้แหล่ะเป็นคำตอบว่า ทำไมบางคนให้อาหารเทพแค่ไหน สุดท้ายแมวก็เป็นนิ่ว บางคนให้อาหารถูกแค่ไหนแมวก็ไม่เป็นนิ่ว ให้อาหารแพงๆมีโปรตีนจากเนื้อล้วนๆจึงปลอดภัยกว่า เพราะปริมาณโปรตีนล้วนๆที่มากกว่า การลดปริมาณอาหารลง ก็คือลดปริมาณที่ร่างกายจะต้องจัดการกับของเสียที่เจ้าเหมียวๆทั้งหลายต้องจัดการลงไปด้วยอีกทาง และเมื่อควบคุมตรงนี้ได้ อวัยวะหรือร่างกายภายในก็ทำงานน้อยลง ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆได้มากขึ้นไปอีก