ไอสไตน์ค้นพบอะไร?
แสงเดิมเชื่อว่าเป็นคลื่น แต่พบว่ามีลักษณะเป็นอนุภาคด้วย => คลื่นกับอนุภาคเป็นสิ่งๆเดียวกันได้ จุดเริ่มต้น ควอนตั้มฟิสิกส์
เวลาไม่ใช่ค่าสัมบูรณ์ เวลาขึ้นอยุ่กับความเร็วของคนจับเวลา เวลาเป็นสัมพัทธ์ ไม่ใช่ absolute
สสารและพลังงานเป็นสิ่งๆเดียวกัน นำไปสู่ รากฐานของพลังงานนิวเคลียร์ E=mc2
General Relativity (1915) ความสัมพันธ์ระหว่าง Space และ time พื้นฐานการทำนาย blackhole bigbang , graviry ware ,รูหนอน การเดินทางย้อนเวลา
แรงดึงดูดระหว่างมวลไม่มี มีแต่มวลที่ทำให้ space มัน โค้ง และ การโค้งของ space ก่อให้เกิดอัตราเร่งของมวลที่เข้าหากัน ล้มความคิดแบบ ไอแซคนิวตัน

นิพพาน คือ ดับ มอดของไฟ ดับของทุกข์

ผลงานของพระพุทธเจ้า
1.ค้นพบ ทฤษฏี/กดเกน
2.คิดค้น หลักปติบัติ

เค้กก้อนเดียวกันจะแบ่ง8ส่วน เรียกมรรค8แบ่งเป็น3เรียกสิกขา3

ผลงานการค้นพบที่มีชื่อเสียงที่สุด
การดับทุกข์ที่พระพุทธเจ้าค้นพบ แบบที่เรียกว่า นิพพาน (ก่อนหน้านั้นการดับทุกข์มีการค้นพบแต่ไม่ใช่เทคนิคที่เรียกว่านิพพาน)
ทิดสะดีทุกข์ นำไปสู่การดับทุก ครอบคลุมทั้งสาเหตุ และ ดับทุกข์ และ นำไปสู่การปติบัติตนให้พ้นทุก เรียก มรรค8 ต่อมาค้นพบ ทิดสะดีจิต ขัน5 นำสู่วิธีอบรม(=ภาวนา)จิตเช่น วิปัสสนา อบรมจิตทำได้ตลอดเวลา เอาความทุกข์มาเปนครูให้ได้ ทำไมถึงทุกข์ สาเหตุจากไหน แก้ให้ตรงจุด ถ้าทุกข์จนหดหู่ หรือ ซึมเศร้า มันรุนแรงถึงขั้น สารเคมีคุณไม่สมดุล คุณต้องไปหาจิตเเพทย์ ไม่ต้องมานั่งสมาธิแล้ว ทำให้สารเคมีให้สมดุลก่อน เเล้วค่อยใช้ธรรมะเสริมให้สมบูรณ์ ต่อมาค้นพบ สัจธรรมของชีวิต (ความจริงแท้ (Axioms) เช่น 0 ไม่เท่ากับ 1 ถ้าไม่ยอมรับ ก็เรียนวิชาคนิตศาตร์ไม่ได้เลย

พระพุทธเจ้า ค้นพบ (วงกลมจากในไปนอก แสดงถึง สัจจธรรมครอบคลุมภายในทั้งหมด แต่ละชั้นครอบคลุมเป็นลำดับ) นิพพาน>ทิดสะดีทุกข์ > ทิดสะดีจิต >สัจจรรมของชีวิต
จะอธิบายจาก นอกเข้าไป คือ จาก สัจธรรมของชีวิต แล้วไป นิพพาน กว้างไปแคบ

ไอสไตน์ : อนาคตเป็นไปตามเหตุปัจจัย
นีลส์โบร์ : อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนต่อให้รู้สมการทั้งปวง รู้แจ้งทุกอนูของจักรวาลนี้ ก็ไม่สามารถทำนายอนาคตได้

คำพูดฝั่งไหนที่เป็น Axioms
1972 มีการพิสุจ ด้วยเครื่องมือที่ซับซ้อน เหตุที่อนุภาคทั้งสองมีความสัมพันธ์กันไม่ใช่เพราะข้อมูลดั้งเดิมที่ใส่ไว้ ตั้งแต่เกิด bigbang ทำให้เชื่อว่า อนาคตยังไม่ได้ถูกกำหนดไว้ ผลการทำลองนี้สนับสนุน Bohr แสดงให้เห็นว่า แม้เรารุ้ คอนดิชั่นทั้งหมด ตั้งแต่ bigbang มาแล้ว มันยังทำนายไม่ได้เลย มันยังมีการแปรผัน มีการเปลี่ยนได้ และข้อสรุปของ ควอนตั้มแมคคานิค จนถึงทุกวันนี้คือ อนาคนเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่เราไม่ได้ปติเสธหลักแห่งเหตุปัจจัย
Axiom ข้อ2 หลักเหตุปัจจัย มีรูรั่ว มีช่องโหว่ มีแนวโน้มเป็นไป แต่คลาดเคลื่อนได้ (สอดคล้องกับหลักควอนตั้มฟิสิกสมัยใหม่)

ต่อให้รู้แจ้ง คือ รุ้กดเกนทั้งหมดของจักรวาลและสภาพของทุกอนูก็ยังไม่สามารถทำนายอนาคตได้ การพยากรณ์ของโหร/หมอดู จึงเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับ หลักควอนตัมและผลการทำลอง

ผล : หลักการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วมีช้องโหว่ ชีวิตไม่จำเป็นต้องได้รับความยุติธรรมเสมอไป อนาคตไม่แน่นอนทำนายไม่ได้ อนาคตมีความไม่แน่นอน

คุณพยายามอาจไม่สำเร็จก็ได้แต่มีแนวโน้มสำเร็วมากกว่าคนที่ไม่พยายาม

Axiom 3 (สัจธรรมที่เป็น signature ของพระพุทธเจ้า) ไวรัส>DNA RNA > ส่องเข้าไปประกอบดัวยน้ำตาลโปรตีน พวกไฮโดรคาร์บอน เต็มไปด้วยช่องว่าง ภายในโมเลกุล ก็มีอะตอม ภายในก็มีแต่ช่องว่าง ส่องเข้าไปอีกในอะตอม 99,9999% เป็นช่องว่าง มีนิวเคลียส และมีอิเล้กตรอนโควรรอบ ต่อมาเอา อิเล็กตรอนมาชนกัน เพื่อจะได้รุ้ว่า ในนั้นมีอะไร มันประกอบไปด้วยความว่างเปล่าซะเป็นส่วนใหญ่ มันเป็นพลังงาน ไม่มีเนื้อสารที่แท้จริง
Axiom3 ชีวิต คือ การประชุมกันของขันธ์ ขันธ์คือ สิ่งไม่มีชีวิต ไม่มีตัวตนที่แท้จริง
(ร่างกายเราทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นเรา คือ พลังงาน เราประกอบขึ้นจากสิ่งไม่มีชีวิต ไมีมีตัวตนที่แท้จริง)

พระพุทธเจ้า : อนาคตเป็นไปตามเหตุปัจจัย และ อนาคตมีความไม่แน่นอน

Axiom ของพระพุทธเจ้า (ไตรลักษณ์ ลักษณะธรรมชาติ3ประการของสิ่งมีชีวิต)
1.จิตอยู่ในสภาวะที่ถูกกระทบตลอด = สภาพทุกขัง (หับ ทุกข์ คนละความหมายกัน)
2.หลักเหตุปัจจัยถูกต้อง แต่มีช่องโหว่ ทำนายอนาคตแน่นอนไม่ได้ = สภาพอนิจจัง
3.ทุกชีวิต ไม่มีตัวตนที่แท้จริง = สภาพอนัตตา

ตัวเราเป็นพลังงานที่ถูกกระทบตลอด หาความแน่นอนไม่ได้ ?!