- เบต้ากลูแคนที่ผลิตจากพืช เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ สาหร่าย โสม เป็นต้น
- เบต้ากลูแคนที่ผลิตจากยีสต์ เป็นการสกัดเบต้ากลูแคนจากยีสต์สายพันธุ์ต่าง ๆ
สองชนิดนี้คุณสมบัติต่างกัน
1. สรรพคุณในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
เป็นสรรพคุณที่โดดเด่นที่สุดของเบต้ากลูแคน โดยทำหน้าที่หลักในการกระตุ้นเม็ดเลือดขาว (Macrophage) ให้เห็น ดักจับ ทำลายสิ่งแปลกปลอม เชื้อก่อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย รวมถึงอนุมูอิสระที่เกิดขึ้น จึงส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันมีความแข็งแรงและป่วยยาก
2. คุณในการต้านมะเร็ง
กระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้ดักจับเซลล์และทำลายมะเร็งที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย กดการทำงานของเซลล์ร้าย ป้องกันการขยายและกระจายตัวของเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้สำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างเข้ารับการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัดและรังสีรักษา เบต้ากลูแคนมีส่วนช่วยในการลดผลข้างเคียงหลังการรักษา และป้องกันการบุกรุกของเชื้อโรคร้ายได้
3. ลดคอเลสเตอรอล
ช่วยลดไขมันประเภท LDL ซึ่งจัดเป็นไขมันชนิดที่ไม่ดี ไตรกลีเซอไรด์ รวมถึงระดับคอเลสเตอรอลโดยรวม จึงมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและความดันโลหิตอีกทางหนึ่ง
4. ต้านเบาหวาน
ผลการวิจัยบางส่วนชี้ว่าการรับประทานอาหารที่มีสารเบต้ากลูแคนติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ช่วยปรับสมดุลของระดับอินซูลินและคอเลสเตอรอล รับประทานติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือนจะช่วยลดระดับกลูโคสในเลือด ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ได้
5. ป้องกันโรคภูมิแพ้ตัวเอง
ลดสารที่กระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการภูมิแพ้ ทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ทั้งยังช่วยควบคุมไม่ให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานมากเกินไป จึงไม่มีความเป็นพิษต่อร่างกาย
เบต้ากลูแคนเป็นสารอาหารประเภทใยอาหารชนิดละลายน้ำที่ การสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันเพื่อต้านทานต่อโรค ชะลอความเสื่อมและบำรุงร่างกายให้แข็งแรง
เสริมภูมิคุ้มกัน และผิวพรรณให้แข็งแรง ด้วย เบต้า-กลูแคน
เบต้า-กลูแคน เป็นสารโพลีแซคคาไรด์ที่พบได้จากอาหารตามธรรมชาติ ได้แก่ ธัญพืช เห็ด และยีสต์
โดยเบต้า-กลูแคน ที่พบมากในธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ต จะมีคุณสมบัติในการลดระดับไขมัน และน้ำตาลในเลือด ในขณะที่ เบต้า-กลูแคน ที่พบมากในเห็ด โดยเฉพาะเห็ดทางการแพทย์ เช่น เห็ดหอมหรือเห็ดชิตาเกะ เห็ดไมตาเกะ เห็ดยามาบูชิตาเกะ จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และลดปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็ง
ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน
กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน
เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ผิวและปกป้องผิวจากรังสี UV
เบต้ากลูแคนถูกสกัดมาจากผนังเซลล์ของยีสต์ เห็ดรา หรือพืชบางชนิดอย่างธัญพืชและรำข้าว แม้ประโยชน์ส่วนมากของเบต้ากลูแคนจะชี้ไปที่การป้องกันโรคหัวใจหรือภาวะคอเลสเตอรอลสูง แต่มีงานวิจัยบางส่วนพบว่า กระตุ้นภูมิต้านทานของคนเราเช่นกัน โดยเฉพาะเบต้ากลูแคนที่สกัดจากยีสต์ สารอาหารดังกล่าวจึงถูกนำไปใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อดูแลสุขภาพ นำเบต้ากลูแคนมาศึกษาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาเสริมของโรคมะเร็งด้วย
เมื่อใดที่สิ่งแปลกปลอมอย่างสารหรือเชื้อโรคชนิดต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์จากภายใน ภูมิคุ้มกันของเราจะสร้างโปรตีนชนิดพิเศษที่เรียกว่า แอนติบอดี (Antibody) ต่อสู้กับการติดเชื้อหรือความผิดปกติที่เกิดขึ้น และคงอยู่ในร่างกายเพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อครั้งถัดไป
เบต้ากลูแคนส่งผลต่อการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในระบบภูมิคุ้มกัน งานวิจัย เบต้ากลูแคนมีคุณสมบัติในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
การทดลองโดยให้ผู้หญิงที่มีสุขภาพดีบริโภคอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของเบต้ากลูแคนจากยีสต์ในปริมาณ 250 กรัม ติดต่อกันนาน 12 สัปดาห์ อาการจากโรคระบบทางเดินหายใจส่วนบนอย่างไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่บรรเทาลง
การศึกษาในผู้ป่วยหญิงที่เป็นโรคมะเร็งเต้านม หลังบริโภคเบต้ากลูแคนจากยีสต์ปริมาณ 10 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันนาน 21 วันพบว่า เบต้ากลูแคนชนิดนี้มีคุณสมบัติต้านทานมะเร็งที่เกี่ยวเนื่องกับการกระตุ้นเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน
เบต้ากลูแคนอาจนำไปต่อยอดด้านการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้ม อย่างการติดเชื้อหรือโรคมะเร็งได้
“เบต้ากลูแคน” มีหลายแบบ และแต่ละแบบให้ประโยชน์ที่แตกต่างกัน
“ยีสต์เบต้ากลูแคน” เป็นสารสกัดที่หลายงานวิจัยยกให้เป็นผู้ช่วยในการกระตุ้นประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวในการดักจับและกำจัดเชื้อโรครวมถึงสิ่งแปลกปลอม ลดเสี่ยงมะเร็ง
“เบต้ากลูแคน” เป็นสารสกัดที่สามารถพบได้จากหลายๆ แหล่งตามธรรมชาติ เช่น ธัญพืช อย่าง ข้าวโอ๊ต, ข้าวบาร์เล่ย์ หรือเชื้อรา อย่าง เห็ด, ยีสต์ โดยเบต้ากลูแคนที่พบได้ในธัญพืชจะเป็นกลุ่มโครงสร้าง beta-1,3/1,4-glucan ส่วนกลุ่มโครงสร้าง beta-1,3/1,6-glucan จะพบได้ในเห็ด ยีสต์สุรา และยีสต์ขนมปัง หรือพูดง่ายๆ ก็คือ “ยีสต์เบต้ากลูแคน” เป็นเบต้ากลูแคนที่สกัดจากยีสต์นั่นเอง
เบต้ากลูแคน กลุ่มโครงสร้าง beta-1,3/1,6-glucan มีประสิทธิภาพช่วยฟื้นฟูการทำงานของภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้นได้
ยีสต์เบต้ากลูแคน…กับประโยชน์ดีๆ ที่น่าทึ่ง
- ฟื้นฟูการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานอย่างสมดุล ไม่มากเกินหรือน้อยเกินไป
- ปรับระดับคอเลสเตอรอลในเลือดให้ดีขึ้น
- ชะลอไม่ให้น้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดเร็ว ลดระดับความต้องการอินซูลิน
- ลดโอกาสเกิดออฟฟิศซินโดรม เพราะมีส่วนช่วยฟื้นฟูร่างกายจากการอักเสบ ร่างกายถูกบูสต์จากความเหนื่อยล้า
- ฟื้นฟูการอักเสบของระบบประสาท ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
- กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ช่วยกำจัดเชื้อโรคและเซลล์แปลกปลอม ทำให้ลดโอกาสเสี่ยงโรคมะเร็ง
ยีสต์เบต้ากลูแคน หัวใจสำคัญของการฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกัน
เบต้ากลูแคนเป็นสารอาหารที่พบได้ในธรรมชาติ
ธัญพืช ข้าวโอ๊ต รำข้าว ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ เห็ดบางชนิด ควรร่วมกับ ..
- วิตามินซี (Vitamin C) หรือกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวและกระบวนการกำจัดเชื้อโรค มีส่วนช่วยในการพัฒนาและการเจริญเติบโตของร่างกาย บำรุงผิวหนังและกระดูก และช่วยสมานแผล
- วิตามินดี (Vitamin D) ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นในกระบวนการสร้างกระดูก ฟัน และกล้ามเนื้อ รวมทั้งมีส่วนช่วยเสริมการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในระบบภูมิคุ้มกัน การขาดวิตามินดีเสี่ยงโรคภูมิต้านทานตนเองและไวต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
- วิตามินอี (Vitamin E) กระตุ้นการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อและการเจ็บป่วย บำรุงผิวพรรณและดวงตา อีกทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
- น้ำมันปลา เป็นไขมันหรือน้ำมันที่สกัดมาจากปลาอย่างปลาทูน่าหรือปลาแมคเคอเรล อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ลดการอักเสบของร่างกาย ช่วยบำรุงสายตา ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และอาจใช้เป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันโรคมะเร็ง
สารอาหารที่กล่าวมาข้างต้นล้วนให้ผลดีต่อภูมิต้านทานและระบบการทำงานอื่น ๆ สร้างเสริมภูมิต้านทานที่ดีกว่าการรับประทานสารอาหารเพียงชนิดเดียว ปริมาณที่ทดสอบและแนะนำให้รับประทานเบต้ากลูแคนในแต่ละวัน เพื่อเสริมระบบภูมิคุ้มกันอยู่ที่ 100–500 มิลลิกรัม แตกต่างกันไปตามชนิดของเบต้ากลูแคน
ยังไม่มีการวิจัยที่รับรองความปลอดภัยในระยะยาว ผู้ที่อยู่ในภาวะต่อไปนี้ควรระมัดระวังในการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของเบต้ากลูแคนและสารอาหารอื่น ๆ เป็นพิเศษ
- เบต้ากลูแคนไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค
- ผู้ที่แพ้ปลาทะเลหรือน้ำมันปลาไม่ควรรับประทานผลิตภัณฑ์เบต้ากลูแคนสูตรผสมน้ำมันปลา
- ผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ยาคุมกำเนิด และยารักษาโรคอ้วนบางชนิดควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์จากเบต้ากลูแคนสูตรผสมน้ำมันปลา เพราะอาจส่งผลให้ยามีประสิทธิภาพลดลง
- สตรีมีครรภ์และผู้ให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อนการรับประทาน เพราะยังไม่มีงานวิจัยที่รับรองความปลอดภัยของการใช้เบต้ากลูแคนขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ป่วยโรคเอดส์ หรือผู้ป่วยโรคเอดส์ในระยะเริ่มแสดงอาการที่รับประทานเบต้ากลูแคนจากยีสต์อาจส่งผลให้ฝ่ามือและฝ่าเท้าหนา แต่อาจหายไปได้หลังหยุดใช้เบต้ากลูแคนประมาณ 2–4 สัปดาห์
- ผู้ที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกันควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์จากเบต้ากลูแคน เพราะเบต้ากลูแคนจะไปกระตุ้นภูมิต้านทานร่างกาย จึงอาจทำให้ตัวยามีประสิทธิภาพลดลง เช่น ยาอะซาไธโอพรีน (Azathioprine) ยาไซโคลสปอริน (Cyclosporine) ยาเพรดนิโซน (Prednisone) เป็นต้น
1. ป้องกันโรคภูมิแพ้ตัวเอง
เบต้ากลูแคน เป็นสารอาหารที่ช่วยปรับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเรา ทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ซึ่งเบต้ากลูแคนจะเข้าไปลดสารที่กระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการภูมิแพ้ อีกทั้งยังควบคุมไม่ให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานมากเกินไป
เบต้ากลูแคนจึงไม่มีความเป็นพิษอยู่เลย ซึ่งแตกต่างจากการรักษาแผนปัจจุบันทั่วไปที่จะให้ยากดภูมิต้านทานไม่ให้ทำงาน ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อคนไข้ และมีโอกาสเป็นพิษได้
2. ป้องกันโรคเบาหวาน
เบต้ากลูแคน เป็นเส้นใยอาหารที่สามารถชะลอไม่ให้น้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดเร็วเกินไป ทำให้น้ำตาลค่อย ๆ ไหลเข้าสู่กระแสเลือดแบบที่ควรจะเป็น ลดระดับความต้องการอินซูลินของร่างกายลงได้
ช่วยฟื้นฟูสภาพของตับอ่อน ซึ่งทำหน้าที่ผลิตอินซูลินตามธรรมชาติ ให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ป้องกันโรคไขมันอุดตันหลอดเลือด
4. ลดปัญหาโรคออฟฟิศซินโดรม
ออฟฟิศซินโดรมเป็นโรคที่คนทำงานทุกคนต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากการทำงาน การนั่งกับที่เป็นเวลานาน อาการปวด เมื่อย ล้า กล้ามเนื้อต่าง ๆ รวมทั้งมลพิษทางอากาศ ที่ส่งผลให้เกิดความเจ็บป่วย หรือติดเชื้อได้ง่าย ภูมิคุ้มกันต่ำ และเป็นไมเกรน เบต้ากลูแคนจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้เข้มแข็ง และทำให้ร่างกายของเราหายเหนื่อยล้า ส่งผลให้ความเครียดลดลง ลดอาการปวดหัว และจิตใจสดชื่นแจ่มใสข
5. แก้ปัญหาสุขภาพในผู้สูงอายุ
ช่วยเสริมและปรับระดับภูมิต้านทานให้กับคนแก่ที่มีระบบภูมิต้านทานเสื่อมถอย ซึ่งเบต้ากลูแคนจะมีผลทำให้เกิดปฏิกิริยาป้องกันการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของไข้หวัด อีกทั้งยังเข้าไปลดการทำลายข้อจากการออกซิเดชั่น ซึ่งจะทำให้ข้อเข่าอักเสบ กระตุ้นระบบประสาทให้ทำหน้าที่กำจัดสิ่งสกปรกออกจากเซลล์สมอง ทำให้มีความจำดีขึ้น ลดโอกาสการเป็นอัลไซเมอร์
6. ชะลอความแก่
เบต้ากลูแคนมีประโยชน์ในการกระตุ้นเซลล์ในด้านต่าง ๆ รวมทั้งการสร้างเส้นใยที่ทำหน้าที่ผลิตสารสำคัญที่จำเป็นต่อผิว ไม่ว่าจะเป็น คอลลาเจน อีลาสติน รวมทั้งกรดไฮยาลูโรนิก ทำให้ผิวหนังยืดหยุ่น ลดริ้วรอย ผิวดูมีน้ำมีนวล ชุ่มชื้น และที่สำคัญคือ เบต้ากลูแคนจะช่วยให้โครงสร้างผิวหนังของเราแข็งแรง คงรูป ไม่อ่อนเหลว กลับเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง
7. ช่วยบรรเทาโรคมะเร็งร้าย
เบต้ากลูแคนจะช่วยให้เม็ดเลือดขาวในระบบภูมิคุ้มกันด่านแรกของเราทำลายเชื้อโรค และเซลล์แปลกปลอมได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งเบต้ากลูแคนยังเพิ่มจำนวน และกระตุ้นการทำงานของเลือด ให้กำจัดเซลล์มะเร็งได้ดียิ่งขึ้น
ทานเบต้ากลูแคนร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบันได้อีกด้วย ทั้งก่อนและหลังทำคีโมบำบัด จะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้รวดเร็ว และไม่มีอาการข้างเคียงใด ๆ เพราะเบต้ากลูแคนจะกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดให้กับเรา สามารถฟื้นตัวจากการกดไขกระดูกของเคมีบำบัดได้เป็นอย่างดี
8. ช่วยบรรเทาโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์)
ช่วยเพิ่มจำนวนและกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว ที่คอยจำแนกสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ทำให้สามารถตรวจพบสิ่งผิดปกติได้ดีขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันที่เคยทำงานผิดปกติ สามารถกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
9. เบต้ากลูแคน ช่วยสมานแผล
เบต้ากลูแคนยังมีอีกหนึ่งคุณสมบัติที่โดดเด่น โดยสามารถรักษาแผลผิวหนังอักเสบได้ โดยเบต้ากลูแคนจะเข้าไปเพิ่มภูมิต้านทานของเม็ดเลือดขาวให้เข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นตัวหลักในการรักษาแผลทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น แผลจากศัลยกรรม ผ่าตัด เบาหวาน และรักษาอาการผิวแห้ง ซึ่งเบต้ากลูแคนช่วยให้แผลหายไว รอยแผลเป็นจางลง ลดการติดเชื้อ และลดอัตราการตายของเซลล์
10. ลดการติดเชื้อได้
เบต้ากลูแคน ช่วยลดปัญหาการติดเชื้อต่าง ๆ ทั้งการติดเชื้อจากการผ่าตัด และการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน ทำให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันกำจัดเชื้อแบคทีเรีย โดยเพิ่มจำนวนและประสิทธิภาพของเซลล์
ลดการติดเชื้อในกระแสเลือด ด้วยการกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวให้เพิ่มภูมิคุ้มกันมากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด
11. ดีต่อผู้ที่ต้องได้รับการผ่าตัด
ฤทธิ์ในการช่วยเหลือ ลดความจำเป็นในการใช้ยาปฏิชีวนะก่อนและหลังการผ่าตัด ช่วยในการรักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อร้ายแรง และยังรักษาแผลเรื้อรัง รวมถึงป้องกันแผลไม่ให้ติดเชื้อ และสมานแผลได้อย่างรวดเร็ว
12. รักษาและบรรเทาโรคระบบทางเดินอาหาร
บรรเทาอาการท้องผูก หรือโรคที่เกิดจากภาวะทางเดินอาหารได้เป็นอย่างดี เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายกลับไปสู่ภาวะปกติ เนื่องจากมีไฟเบอร์สูง ทำให้อิ่มท้องง่าย เป็นอาหารของพรีไบโอติกในลำไส้ ที่จะช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ลดภาวะกรดไหลย้อน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคทางเดินอาหารอีกมากมาย
ยังไม่มีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการรับประทานเบต้ากลูแคนแบบเห็นได้ชัดเลย แต่สำหรับการให้เบต้ากลูแคนทางกระแสเลือด จะมีผลทำให้เกิดอาการหนาวสั่น มีไข้ และปวดบริเวณที่ฉีดได้ รวมถึงปวดตามข้อ คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ มีผดผื่นส่วนผู้ป่วยที่มีเชื้อ HIV จะมีผิวที่มือและเท้าหนาขึ้น