แบตเตอรี่รถยนต์ แห้ง รุ่น GS-D60-DL
2,200 บาท (ราคานี้เป็นราคาที่หักแลกแบตเก่าแล้ว)
vios 45amp
แอมป์ : 45 แอมป์
แผ่น/ช่อง : 13 แผ่น
CCA (-180C) : 325
รับประกัน : 1 ปี
ขนาด : L 23.8 x W 12.9 x H 22.5 cm.
เครื่องยนต์ : 1300-2000 cc
https://www.bbautobattery.com/GSBattery_Dry.html

แบตเตอรี่ เติมน้ำกลั่น 2เดือน เติมน้ำกลั่น (แล้วแต่การใช้งานรถ)
แบตเตอรี่ กึ่งแห้ง 6-7 เดือนเติมน้ำกลั่น (แล้วแต่การใช้งานรถ)
แบตเตอรี่ แห้ง ไม่มีที่เติม (ปิดไว้) อายุใช้งาน 1-2 ปี
แบตเตอรี่ AGM ใช้กับรถยุโรป จ่ายไฟได้นานกว่า มีระบบ start-stop หรือ รถ hybridge

แบตเตอรี่ กึ่งแห้ง
แบตชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นมาให้มี การสูญเสียน้ำน้อยมาก รถที่มีการใช้งานไม่มากหรือวิ่งน้อยแถบจะไม่ต้องเติมน้ำกลั่นเลยเพราะน้ำนั้นจะไม่แห้งเลย แต่ถ้ารถมีการใช้งานมากหรือ วิ่งอย่างน้อยวันล่ะเป็น 100 กิโลขึ้นไปในแต่ล่ะวันก็อาจจะทำให้น้ำในแบตนั้นแห้งได้
แบตชนิดกึ่งแห้งนี้เหมาะกับ รถที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน และเหมาะกับคนที่ไม่ชอบหรือไม่มีเวลาตรวจน้ำในแบตเตอรี่อยู่บ่อยๆ

แบตเตอรี่ แห้ง
ถึงแแม้แบตแห้งชนิดนี้ในบ้านเราจะไม่เหมือนกับที่ต่างประเทศ เพราะยังต้องใส่น้ำ ใว้ในแบตเตอรี่อยู่ เพราะสภาพอากาศที่บ้านเรานั้นร้อนมาก แต่ก็ยังถือว่าการใช้งานนั้นดีกว่าชนิดอื่นๆ เพราะไม่ต้องดูแลรักษา ใช้งานอย่างเดียว

แบตเตอรี่ AGM
AGM (Absorbent Glass Matt) มีต้นกำเนิดมาจาก การพัฒนาด้านเทคโนโลยีเพื่อให้สามารถรองรับการเติบโตก้าวล้ำนำสมัยของเทคโนโลยียานยนต์ ที่ต้องการแหล่งพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถในโซนยุโรป เช่น รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของ BMW BENZ PORSCHE AUDI BENTLEY เป็นต้น สำหรับรถในโซนเอเชียยังไม่ได้มีการนำมาใช้มากนัก

แบตเตอรี่ AGM คือแบตเตอรี่ที่มีแผ่นกั้นด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย Micro glass-fibre separators ซึ่งแผ่นกั้นใยแก้วนี้มีคุณสมบัติดูดซับน้ำกรดได้เป็นอย่างดี เมื่อแบตเตอรี่เกิดแตก จะไม่ทำให้น้ำกรดไหลมาทำความเสียหายกับรถยนต์คันนั้น ซึ่งแบตเตอรี่แบบนี้มี 2 ประเภท คือ

1. แบตเตอรี่ SLA (Sealed Lead Acid) เป็นแบตเตอรี่ชนิดปิดผนึก ส่วนมากจะใช้ในงานอุตสาหกรรม โทรคมนาคม เช่นไฟฉุกเฉิน เครื่องสำรองไฟ เป็นต้น ซึ่งแบบนี้เราจะไม่นำมาใช้ในรถยนต์กัน

2. แบตเตอรี่ VRLA (Valve Regulate Lead Acid) เป็นแบตเตอรี่ชนิดที่มีวาล์วระบายแรงดันภายใน กรณีเกิดแรงดันภายในสูงเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับแบตเตอรี่ จากการเกิดภาวะโอเวอร์ชาร์จ ซึ่งแบตเตอรี่ชนิดนี้เองที่นำมาใช้ในรถยนต์

นั่นคือแบตเตอรี่ชนิดนี้จะสามารถทนต่อการชาร์จของกระแสไฟได้ดีกว่านั่นเอง หรือคือไฟที่ชาร์จมายังแบตเตอรี่จะสามารถเก็บภายในแบตเตอรี่ได้ดี ทำให้ไม่ต้องชาร์จนานแบตเตอรี่ก็เต็มได้อีกทั้งสามารถจ่ายไฟคงที่ได้ต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่รถยนต์ทั่วไป จึงเหมาะสำหรับรุ่นที่มีฟังชั่นเยอะ และรถที่มีระบบ Eco Start-stop

เครื่องจั๊มสตาร์ทแบบพกพา

รุ่น GS MFX50L        9 Plate    40 Ah     ราคาพิเศษ*  1,700.-

รุ่น GS MFX60L          12 Plate   50 Ah     ราคาพิเศษ*  1,850.-

รุ่น GS MFX80L        13 Plate   75 Ah     ราคาพิเศษ*  2,100.-

1. แบบเปียก

แบ่งย่อยออกได้อีกเป็น 2 แบบ

แบบที่ต้องเติม และ ดูแลน้ำกลั่นบ่อยๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

แบบไม่ต้องดูแลบ่อย (Maintenance Free) ซึ่งจะกินน้ำกลั่นน้อยมาก

โดยทั้ง 2 แบบนี้จะมีฝาปิด-เปิดสำหรับเติมน้ำกลั่น

แบบแรกนี้จะมีอายุการใช้งานโดยประมาณ 1.5-2 ปี แต่ไม่ควรเกิน 3 ปี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน และ การดูแลรักษา ถ้ามีการดูแลรักษาอยู่สม่ำเสมอก็จะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ขึ้น อย่างไรก็ดีเมื่อถึงอายุการใช้งานของมันก็สมควรที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูก ใหม่ได้แล้ว

2. แบบแห้ง

ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น มีความทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า และ มีราคาแพง แบตเตอรี่แบบแห้งนี้จะมีอายุการใช้งานโดยประมาณ 5-10 ปี แบตเตอรี่แบบนี้ไม่มีฝาปิด-เปิดสำหรับเติมน้ำกลั่น หรือไม่ก็ถูกซีลทับฝาไปเลย แต่จะมีตาแมวไว้สำหรับไว้คอยตรวจเช็คระดับน้ำกรด และ ระดับไฟชาร์จ
https://www.klangbattery.com/how_to.html

ถ้าน้ำกลั่นไม่เคยพร่องและใช้สม่ำเสมอ 6-7-8 ปีก็มีครับ ของผมก็เข้าปีที่ 7
แต่ถ้าใช้ไม่ค่อยดูแล น้ำกลั่นแห้งหรือเหลือน้อย ปีกว่าๆ – 2 ปีกว่าๆ เต็มที่ 3 ปีครับ
รถ start ติด แบตก็ไม่มีหน้าที่อะไรแล้ว ถอดออกวิ่งยังได้เลย

ผมใช้แบบแห้งทั้งหมดนะครับ อายุมากสุดคือ 4.5 ปี ไปเร็วสุดก็ 1.5 ปี

start ติดหรือไม่อยู๋ที่ค่า CCA

ของผมเป็นแบตติดรถกระบะฟรอนเทียร์ ใช้ได้ 7 ปี ครับ  ฟังไม่ผิดครับ 7 ปี จริงๆ เป็นแบตแบบปิด
พอเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้อเดิม แต่เป็นแบบน้ำ ใช้ได้ 10 เดือน  ฟังไม่ผิดครับ  10 เดือน จริงๆ  ( เพราะรับประกัน 6 เดือน)
ตอนนี้สำหรับคันนี้เปลี่ยนไปใช้อีกยี่ห้อ  ผ่านมา 3 ปี แล้วครับ  ยังปกติ

ของผมติดมากับรถ อีออส..กับไอ้โก้….อยู่ที่ 5 ปีนิดๆ

ของผมเข้าปีที่8แล้ว ทีเดียวติด

—

หาซื้อ มิเตอร์วัดโวลท์ที่เสียบกับที่จุดบุหรี่รถยนต์มาครับ

ประโยชน์ ที่ได้จากการติดโวลท์มิเตอร์ในรถ
วิเคราะห์ระบบไฟฟ้าในรถจากค่าที่อ่านได้จากโวลท์มิเตอร์
– ขณะดับเครื่องค่าควรอยู่ประมาณ  12-12.8 โวลท์ ถ้าต่ำกว่า12 ถือว่าผิดปกติอาจมีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม(เก็บไฟไม่อยู่ )หรือไดชาร์จชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่(ดูในหัวข้อตรวจสอบไดชาร์จ)
– วิธีตรวจสอบว่าแบตเสื่อมหรือไม่ทดสอบได้โดยหลังจากขับรถปกติมาจอดและดับเครื่องประมาณ 1 นาทีค่าที่อ่านจากมิเตอร์ต้องมีค่าระหว่าง 12-12.8 โวลท์ หลังจอดไว้(4-6ชั่วโมง)หรือข้ามวันค่าที่อ่านได้ต้องประมาณ 12-12.8 โวลท์ เท่าเดิมถือว่าปกติ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้มากๆเช่น11.5-11.9 แบตเตรี่เริ่มเก็บไฟไม่อยู่แต่ยังพอไหว แต่ถ้าต่ำกว่า 11.5 โวลท์ลงไป ถือว่าอันตรายเพราะถ้าจอดทิ้งสัก 2 วันอาจสตาร์ทไม่ติด(ถ้าอายุแบตเตอรี่ยังใหม่ก็อาจจะเกิดจากมีกระแสไฟฟ้า รั่วลงกราวด์แนะนำเข้าร้านให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์ตรวจสอบครับ) ***อายุแบตเตอรี่ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 18-24 เดือน แล้วแต่การดูแล***
ตรวจสอบไดชาร์จจากการอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์
ให้ทำการติดเครื่องยนต์แล้วอ่านค่าจากโวลท์มิเตอร์ค่าปกติจได้ดังนี้
1.ที่รอบเครื่องยนต์ 1000 รอบต่อนาที(รอบเดินเบา) จะต้องมีค่าประมาณ13.5-13.8 โวลท์ ถ้ามีค่าต่ำกว่านี้เช่น 12.8-13.4 โวลท์ไดชาร์จเริ่มมีปัญหาคือชาร์จไฟได้ไม่เต็มที่ ถ้าต่ำกว่า12.8 โวลท์แสดงว่าไดชาร์จไม่ชาร์จกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอริ่ และถ้าต่ำกว่า12 โวลท์ถือว่าขณะนั้นระบบไฟฟ้าในรถดึงกระแสไฟฟ้าแบตเตอรี่มาใช้งานเพียงอย่างเดียวให้ทำการตรวจซ่อมไดชาร์จ
2.ที่รอบเครื่องยนต์ 2000-2500 รอบต่อนาที จะต้องมีค่าประมาณ13.8-14.7 โวลท์ อาจมากกว่านี้ได้เล็กน้อยแต่ต้องไม่เกิน 15 โวลท์ถ้ามากกว่า 15 โวลท์อาจมีสาเหตุมาจากเรกกูเตอร์(วงจรควบคุมแรงดันของไดชาร์จ)อาจมีปัญหา ผลเสียคือแบตเตอรี่อาจเสื่อมเร็วเพราะถูกชาร์จด้วยแรงดันที่สูงเกิน ทำให้เกิดความร้อนสูงในแบตฯถ้าร้อนมากๆจะทำให้น้ำกลั่นเดือดได้
ทดสอบว่าไดชาร์จจ่ายกระแสเพียงพอหรือไม่
สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้ทำตามข้อ1และ2 แล้วทำการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทุกอย่างเช่นไฟหน้า,แอร์,ที่ปัดน้ำฝน,เครื่อง เสียง ฯลฯ แรงดันที่วัดได้ต้องเหมือนกับค่าปกติในข้อ 1 และ 2 ถ้าค่าที่วัดได้ตกลงมากแสดงว่าไดชาร์จจ่ายกระแสไม่พออาการนี้อาจไม่เกิดขึ้นกับรถเดิมๆแต่จะมีผลในรถที่ติดตั้งเครื่องเสียง แรงๆผลเสียคืออาจทำให้ไดชาร์จทำงานตลอดเวลาทำให้อายุการใช้งานต่ำลง

—

ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทำไมหลายคนบอกว่าแบตเสื่อมเร็ว ปีเดียว สองปี เปลี่ยน ของผมใช้รถกระบะ
แบตตั้งกะออกโรงงาน ใช้ได้สี่ปี อาการก่อนเปลี่ยนคือสตาร์ทติดในครั้งเดียวบ้างสองครั้งบ้าง
มีอยู่วันนึงตอนเช้าขับไปเติมน้ำมันเต็มถังแล้วสตาร์ทไม่ติดเลย ตอนแรกก็รอช่างเข้างาน แต่รอ
ไปเกือบ ชม. ลองสตาร์ทใหม่ก็ได้ หลังจากนั้นยังใช้รถต่อไปอีก 1-2 สัปดาห์ถึงเปลี่ยนแบตที่ศูนย์
มารอบนี้มีสตาร์ทอืดๆ มาให้เห็นบ้าง แต่ยังใช้ได้ ตอนนี้ก็ 3 ปี 9 เดือนละ

แถมรถกระบะที่บ้านก็ใช้ราวๆ 4 ปีเหมือนกัน และรถสเปซแวกอนก็สามปีกว่าเปลี่ยนแบต  ผมงง
มากๆ กับหลายคนที่มาบอกว่าใช้แบตได้ 1-2 ปี เค้าใช้รถกันยังไง  ที่สงสัยอีกอย่างคือร้านที่
เปลี่ยนแบตให้เอาน้ำกรดอะไรใส่ให้  ผมเปลี่ยนที่ศูนย์ก็ไม่รู้เค้าเอาน้ำกรดอะไรใส่ให้ เคยคุย
กับน้องที่ขายอะหลั่ยรถ เป็นไปได้ว่าที่ศูนย์จะใช้น้ำกรดมาตรฐาน และตามร้าน แน่นอนส่วนใหญ่
สั่งน้ำกรดแถวบ้านทั้งนั้นเพราะมันถูกกว่า ทีนี้มาตรฐานมันอยู่ตรงไหนก็ลองคิดดู ร้านที่เอาเปรียบ
ก็สั่งน้ำกรดอย่างถูก ซึ่งความเข้มข้นอาจไม้ได้ตามมาตรฐาน  ส่วนน้องผมก็เคยเจอว่าน้ำกรด
ที่สั่งมาพอเติมลงแบตใหม่และชาร์จไฟให้ลูกค้า ในเวลาสักพักนึง ค่าโวลต์มันขึ้นน้อยกว่า
น้ำกรดอีกร้านนึง เป็นไปได้ว่าส่วนผสมอาจไม่ดีหรือไม่เข้มข้นพอ ตอนนี้น้องเลยเลิกสั่งจากร้าน
นั้นแล้ว  แล้วคุณๆ เคยสังเกตไหมล่ะ บางทีร้านที่เซอร์วิสดีๆ ก็อาจวางยาคุณได้เหมือนกัน
ตราบใดที่แบตยังไม่ออกอาการก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรอกคับ  อ้อ อาการอีกอย่างที่เคยเจอ
คือช่วงสตาร์ทติดยาก หากตอนที่บิดกุญแจสตาร์ท แช้ททท แล้วเข็มวัดความร้อนกับน้ำมันตก
อันนั้นให้รีบเปลี่ยนแบตเลยดีกว่า เพราะถึงแม้จะใช้ได้อีกสักพักแต่ก็วิกฤติแล้วล่

—

นั่นดิ แบตอะไรใช้แค่1-2ปี  ผมขั้นต่ำนะ3ปี

400

Product details of PUMA เครื่องชาร์จแบตอย่างดี ขนาด 6v-12v 3A