Autophagy การกินตัวเองของเซลล์
🧬เป็นการดีท็อกซ์ระดับเซลล์🧬ใช้เวลานานเท่าไหร่ไม่รู้🧬อดอาหาร งดอาหารพลังงานเช่นแป้งน้ำตาลออกกำลังกายหนัก กินอาหารพลังงานน้อยกว่าปกติ 25% ถ้านานเกินไป น้ำตาลในเลือดต่ำ ,ขาดสารอาหาร (กินวิตามิน)
กลไกการกินตัวเองของเซลล์ (Autophagy)
กระบวนการฟื้นฟูในระดับเซลล์📌กำจัดโปรตีนและออร์แกเนลล์ที่เสียหาย📌ลดผลกระทบด้านลบที่ทำให้เกิดการเสื่อมถอยของร่างก
าย📌ลดโอกาสการเกิดโรคบางอย่าง📌ทำลายแบคทีเรียและไวรัสต่าง ๆ ได้📌อ่อนกว่าวัย📌อายุยืนกระตุ้นให้เกิดขึ้นด้วยการ⭐อดอาหาร⭐ออกกำลังกายอย่างหนัก⭐จำกัดคาร์โบไฮเดรต⭐ปรับรูปแบบการกินเป็น 5:2 (กินอะไรก็ได้ 5 วันต่อสัปดาห์ ส่วน 2 วันต้องไม่ติดกัน กิน 25% ของพลังงานที่ได้รับปกติ)#ข้อจำกัด1️⃣ภาวะขาดสารอาหาร (กินวิตามินและเกลือแร่เสริม)2️⃣ภาวะหยุดการเผาผลาญ เพราะร่างกายตกใจคิดว่าใกล้ตาย อดอาหารอย่าให้ถึงจุดนี้3️⃣คนมีโรค หรือ อาการ เช่น เบาหวาน อดอาหารทำให้น้ำตาลต่ำ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia)โรคความดัน อื่นๆ#ข้อสังเกต👁️🗨️กินคลีน + ทำ IF ระยะเวลาให้เหมาะกับแต่ละคน👁️🗨️การทำ IF อาจทำให้เข้าสู่กระบวนการนี้ได้👁️🗨️การทำ IF เพื่อดึงไขมันไปใช้ จึงป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ..👁️🗨️การทำ IF ระบบย่อยอาหารได้พัก แต่ระบบอื่นไม่ได้พัก 👁️🗨️ข้อเสียของ IF คือ เครียดจากการอดอาหาร ถ้าฮอร์โมนคอร์ติซอไม่พอ ตับจะต้องสร้างคอเลสเตอรอลเพื่อผลิตฮอร์โมน ทำให้คอเลสเตอรอลสูงขึ้น และตับทำงานหนัก ขณะที่ตัวมันเองต้องเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน แล้วขณะเครียดทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระส่งผลต่อสุขภาพ👁️🗨️การทำ IF ระยะเวลาที่เหมาะสมแต่ละคนต่างกันเพราะร่างกายคนเราไม่เหมือนกันเช่น อัตราการเผาผลาญประสิทธิภาพการเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน ความทนทานต่อสภาวะต่างๆไกลโคเจน (glycogen)สะสมบริเวณตับและกล้ามเนื้อ เป็นแหล่งของพลังงาน เมื่อน้ำตาลในเลือดลดลง หรือร่างกายขาดสารอาหาร ตับจะเปลี่ยนไกลโคเจนเป็น น้ำตาลกลูโคส (glucose)เมื่อใช้หมด ร่างกายจะสลายตัวไขมัน ได้ คีโตน(ketone) เสมือนโมเลกุลของน้ำตาล ถ้าขาดสารอาหารต่อเนื่องจนร่างกายดึงทุกส่วนมาใช้หมดแล้ว จะเริ่มดึงเอากล้ามเนื้อ โปรตีน มาใช้ทดแทน💎แป้งและน้ำตาล💎ไกลโคเจน💎ไขมัน💎โปรตีน#ผลเสียการอดอาหารระดับน้ำตาลในเลือดลดลงปรับสมดุลเลือดไม่ทันหน้ามืดเป็นลมระบบเผาผลาญเสื่อมลงรับพลังงานไม่พอจะทำให้หงุดหงิดอารมณ์เสียเครียดตลอดเวลา อารมณ์แปรปรวน คาร์โบไฮเดรทสำคัญต่อการผลิตเซโรโทนินที่มีผลต่อการช่วยรักษาความสมดุลของอารมณ์โดยเฉพาะอดอาหารมื้อเช้าสมองเซื่องซึม ประมวลผลช้า คิดอะไรไม่ค่อยออก อ่อนล้า ขาดสมาธิ ไม่ปลอดโปร่ง ไม่ไบรท์ จดจำอะไรไม่ค่อยได้ เบลอๆอดแป้งทำให้ร่างกายไม่มีพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต จึงดึงโปรตีนในกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานแทน ทำให้กล้ามเนื้อนิ่มเหลว ไม่แข็งแรงการงดอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และไขมัน จะทำให้ ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น หนังรอบเล็บแห้ง ฉีกขาดง่าย ปากแห้ง อาหารที่มีไขมันดี ช่วยบำรุงผิวหนังและสุขภาพเล็บให้ชุ่มชื้นอดแป้งจะทำให้ร่างกายขาดไฟเบอร์ ทำให้ระบบขับถ่ายมีปัญหาอดแป้งจะส่งผลให้สมองขาดกลูโคสที่เป็นตัวที่คอยมากระตุ้นการทำงาน ทำให้เกิดอาการหลงๆ ลืมๆอดแป้งจะทำให้กล้ามเนื้อขาดกลูโคสช่วยในการทำงาน ทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า และอ่อนเพลียง่าย#การกินอาหารหลังอดอาหารนานการที่เราจะเริ่มกลับมารับประทานอาหาร กินอาหารที่พร้อมจะดูดซึม เช่น อาหารเจล เพื่อปรับลำไส้ กินแล้วดูดซึมได้เลย กินต่อเนื่อง4-7 วัน ให้ร่างกายมีการปรับตัวด้วยการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมา และกลับมาย่อยอาหารหรือดูดซึมเองได้ จำกัดชนิดอาหารและปริมาณค่อยๆ เพิ่มการกิน หากยังถ่ายเหลวแสดงว่าระบบดูดซึมของลำไส้ยังไม่ดีระวัง ภาวะรีฟีดดิ้ง ซินโดรม (Refeeding Syndrome)ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารนั้นเลย เมื่อได้รับสารอาหารโดยทันที จะทำให้เซลล์ทุกอย่างในร่างกายเริ่มซ่อมแซมส่วนที่ขาดหายพร้อมๆ กัน และดึงพลังงานนำไปใช้พร้อมกันหมด ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เกิดอาการชา ตะคริว ชัก เกร็งได้ และ การสร้างเซลล์ใหม่ๆ ต้องใช้วิตามินบี 1 เข้าไปช่วยด้วย
Autophagy การกินตัวเองของเซลล์UncategorizedEdit PostApril 13, 2021
Autophagy การกินตัวเองของเซลล์🧬เป็นการดีท็อกซ์ระดับเซลล์🧬ใช้เวลานานเท่าไหร่ไม่รู้🧬อดอาหาร งดอาหารพลังงานเช่นแป้งน้ำตาลออกกำลังกายหนัก กินอาหารพลังงานน้อยกว่าปกติ 25% ถ้านานเกินไป น้ำตาลในเลือดต่ำ ,ขาดสารอาหาร (กินวิตามิน)กลไกการกินตัวเองของเซลล์ (Autophagy)กระบวนการฟื้นฟูในระดับเซลล์📌กำจัดโปรตีนและออร์แกเนลล์ที่เสียหาย📌ลดผลกระทบด้านลบที่ทำให้เกิดการเสื่อมถอยของร่างกาย📌ลดโอกาสการเกิดโรคบางอย่าง📌ทำลายแบคทีเรียและไวรัสต่าง ๆ ได้📌อ่อนกว่าวัย📌อายุยืนกระตุ้นให้เกิดขึ้นด้วยการ⭐อดอาหาร⭐ออกกำลังกายอย่างหนัก⭐จำกัดคาร์โบไฮเดรต⭐ปรับรูปแบบการกินเป็น 5:2 (กินอะไรก็ได้ 5 วันต่อสัปดาห์ ส่วน 2 วันต้องไม่ติดกัน กิน 25% ของพลังงานที่ได้รับปกติ)#ข้อจำกัด1️⃣ภาวะขาดสารอาหาร (กินวิตามินและเกลือแร่เสริม)2️⃣ภาวะหยุดการเผาผลาญ เพราะร่างกายตกใจคิดว่าใกล้ตาย อดอาหารอย่าให้ถึงจุดนี้3️⃣คนมีโรค หรือ อาการ เช่น เบาหวาน อดอาหารทำให้น้ำตาลต่ำ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia)โรคความดัน อื่นๆ#ข้อสังเกต👁️🗨️กินคลีน + ทำ IF ระยะเวลาให้เหมาะกับแต่ละคน👁️🗨️การทำ IF อาจทำให้เข้าสู่กระบวนการนี้ได้👁️🗨️การทำ IF เพื่อดึงไขมันไปใช้ จึงป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ..👁️🗨️การทำ IF ระบบย่อยอาหารได้พัก แต่ระบบอื่นไม่ได้พัก 👁️🗨️ข้อเสียของ IF คือ เครียดจากการอดอาหาร ถ้าฮอร์โมนคอร์ติซอไม่พอ ตับจะต้องสร้างคอเลสเตอรอลเพื่อผลิตฮอร์โมน ทำให้คอเลสเตอรอลสูงขึ้น และตับทำงานหนัก ขณะที่ตัวมันเองต้องเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน แล้วขณะเครียดทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระส่งผลต่อสุขภาพ👁️🗨️การทำ IF ระยะเวลาที่เหมาะสมแต่ละคนต่างกันเพราะร่างกายคนเราไม่เหมือนกันเช่น อัตราการเผาผลาญประสิทธิภาพการเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน ความทนทานต่อสภาวะต่างๆไกลโคเจน (glycogen)สะสมบริเวณตับและกล้ามเนื้อ เป็นแหล่งของพลังงาน เมื่อน้ำตาลในเลือดลดลง หรือร่างกายขาดสารอาหาร ตับจะเปลี่ยนไกลโคเจนเป็น น้ำตาลกลูโคส (glucose)เมื่อใช้หมด ร่างกายจะสลายตัวไขมัน ได้ คีโตน(ketone) เสมือนโมเลกุลของน้ำตาล ถ้าขาดสารอาหารต่อเนื่องจนร่างกายดึงทุกส่วนมาใช้หมดแล้ว จะเริ่มดึงเอากล้ามเนื้อ โปรตีน มาใช้ทดแทน💎แป้งและน้ำตาล💎ไกลโคเจน💎ไขมัน💎โปรตีน#ผลเสียการอดอาหารระดับน้ำตาลในเลือดลดลงปรับสมดุลเลือดไม่ทันหน้ามืดเป็นลมระบบเผาผลาญเสื่อมลงรับพลังงานไม่พอจะทำให้หงุดหงิดอารมณ์เสียเครียดตลอดเวลา อารมณ์แปรปรวน คาร์โบไฮเดรทสำคัญต่อการผลิตเซโรโทนินที่มีผลต่อการช่วยรักษาความสมดุลของอารมณ์โดยเฉพาะอดอาหารมื้อเช้าสมองเซื่องซึม ประมวลผลช้า คิดอะไรไม่ค่อยออก อ่อนล้า ขาดสมาธิ ไม่ปลอดโปร่ง ไม่ไบรท์ จดจำอะไรไม่ค่อยได้ เบลอๆอดแป้งทำให้ร่างกายไม่มีพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต จึงดึงโปรตีนในกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานแทน ทำให้กล้ามเนื้อนิ่มเหลว ไม่แข็งแรงการงดอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และไขมัน จะทำให้ ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น หนังรอบเล็บแห้ง ฉีกขาดง่าย ปากแห้ง อาหารที่มีไขมันดี ช่วยบำรุงผิวหนังและสุขภาพเล็บให้ชุ่มชื้นอดแป้งจะทำให้ร่างกายขาดไฟเบอร์ ทำให้ระบบขับถ่ายมีปัญหาอดแป้งจะส่งผลให้สมองขาดกลูโคสที่เป็นตัวที่คอยมากระตุ้นการทำงาน ทำให้เกิดอาการหลงๆ ลืมๆอดแป้งจะทำให้กล้ามเนื้อขาดกลูโคสช่วยในการทำงาน ทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า และอ่อนเพลียง่าย#การกินอาหารหลังอดอาหารนานการที่เราจะเริ่มกลับมารับประทานอาหาร กินอาหารที่พร้อมจะดูดซึม เช่น อาหารเจล เพื่อปรับลำไส้ กินแล้วดูดซึมได้เลย กินต่อเนื่อง4-7 วัน ให้ร่างกายมีการปรับตัวด้วยการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมา และกลับมาย่อยอาหารหรือดูดซึมเองได้ จำกัดชนิดอาหารและปริมาณค่อยๆ เพิ่มการกิน หากยังถ่ายเหลวแสดงว่าระบบดูดซึมของลำไส้ยังไม่ดีระวัง ภาวะรีฟีดดิ้ง ซินโดรม (Refeeding Syndrome)ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารนั้นเลย เมื่อได้รับสารอาหารโดยทันที จะทำให้เซลล์ทุกอย่างในร่างกายเริ่มซ่อมแซมส่วนที่ขาดหายพร้อมๆ กัน และดึงพลังงานนำไปใช้พร้อมกันหมด ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เกิดอาการชา ตะคริว ชัก เกร็งได้ และ การสร้างเซลล์ใหม่ๆ ต้องใช้วิตามินบี 1 เข้าไปช่วยด้วย