คามู คามู (Camu-camu)
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Myrciaria dubia พืชในวงศ์ Myrtaceae เป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก
ทำเป็นน้ำผลไม้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไอศกรีม ชาวเปรูดื่มน้ำคั่นจากผล หรือน้ำคั่นที่ผสมกับน้ำเปล่าเพื่อรักษาไข้หวัด และใช้บรรเทาอาการของโรคในระบบทางเดินอาหาร นำส่วนเปลือกต้นมาทำยาพอก ใช้รักษาแผล นำเปลือกต้นมาต้มกับส่วนของผลและเหล้ารัม ใช้รักษาโรคไขข้ออักเสบ (rheumatism)
ผลสดของ คามู คามู มีวิตามินซีสูงมาก (วิตามินซีสูงที่สุดในโลก)
มีกรดแอสคอร์บิก (ascorbic acid) หรือวิตามินซี 2.4 – 3.0 ก./เนื้อผลสด 100 ก.
วิตามินซี มากกว่าในส้ม 30 เท่า
เหล็กเป็น 10 เท่า
ไนอาซีน 3 เท่า
ไรโบฟลาวิน (วิตามินบี 2) 2 เท่า
ฟอสฟอรัสมากกว่าส้ม50%
ผงคามูคามู 100% วิตามินซีสูง เสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด
CamuCamu powder ขนาด 100 กรัม ทานได้ 33 มื้ออาหาร
ผลคามูคามู ผลไม้ให้วิตามิน C สูงมีดีต่อผิว
ผลคามูคามู 100 กรัม วิตามินซี 1,882-2,280 มิลลิกรัม
ช่วยรักษาสุขภาพดวงตาและผิวหนัง
กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันช่วยป้องกันโรคหวัดหอบหืด
บรรเทาอาการขิงโรคเหงือก อ่อนเพลียเรื้อรัง
วิตามินซีสูง และต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนในชั้นโครงสร้างผิวและปกป้องเซลล์ผิวจากการโดนทำลาย ช่วยต่อต้านริ้วรอยช่วยให้ผิวพรรณสวยใส
ผลคามู คามู มีสารในกลุ่ม phenolic ถึง 30 ชนิด เช่น flavonoids, flavanols, flavan-3-ols, catechins, ellagic acid, gallic acids, anthocyanins, delphinidin 3-glucoside, cyanidin 3-glucoside, flavonols, rutin, flavanones, naringenin, tannins (gallo- และ ellagitannins)
ผลคามู คามู มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านการอักเสบ และมีคุณค่าทางอาหารสูง
ชายที่สูบบุหรี่เป็นประจำจำนวน 20 คน โดยสุ่มให้ดื่มน้ำคั้นของผลคามู คามู 100% ขนาด 70 มล. (มีปริมาณวิตามินซี 1050 มก.) หรือ ได้รับวิตามินซี 1050 มก. อัดเม็ด เป็นเวลา 7 วัน พบว่า
กลุ่มที่ดื่มน้ำคั้นของผลคามู คามู มีระดับตัวชี้วัดของภาวะการเกิดออกซิเดชันและภาวะการอักเสบลดลง ในขณะที่ค่าดังกล่าวของกลุ่มซึ่งได้รับวิตามินซีอัดเม็ดไม่เปลี่ยนแปลง
วิจัยที่เกี่ยวกับการรักษาภาวะของเบาหวานพบว่า สารสำคัญอย่างสารในกลุ่ม phenolic และ ellagic acid ในผลคามู คามู ไม่สามารถยับยั้งเอนไซม์ alpha-amylase หรือ alpha-glucosidase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะเบาหวานได้
วิตามินซี
คามู คามู มีวิตามินซีมากกว่าส้มและผลไม้ชนิดอื่นหลายเท่า
ผงคามู คามู ครึ่งช้อนชาจะมีวิตามินซีมากถึง 400 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการในแต่ละวัน
โพแทสเซียม
ร่างกายของเราต้องการโพแทสเซียมเพื่อให้ไตและหัวใจทำงานได้ตามปกติ คามู คามู จะมีโพแทสเซียมอยู่ประมาณ 71.1 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
วาลีน (Valine) เป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถผลิตได้เอง วาลีนทำหน้าที่ป้องกันการเสื่อมของกล้ามเนื้อและระบบประสาท
ลิวซีน (Leucine) เป็นกรดอะมิโนจำเป็นอีกชนิดที่ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ ต้องรับจากอาหาร ลิวซีนจำเป็นต่อการเติบโตและการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ กระดูก และมีส่วนช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต
ซีรีน (Serine) กรดอะมิโนที่ร่างกายสังเคราะห์เองได้ พบได้ในนม เนื้อสัตว์ ถั่ว มีส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของเซลล์ ช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมัน ช่วยย่อยโปรตีนและโพลีเป็บไทด์ให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้
ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) บางชนิดสามารถต้านทานอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินซี พบในผักผลไม้ ซึ่งในพืชแต่ละประเภทจะมีปริมาณและชนิดของฟลาโวนอยด์แตกต่างกันไป ซึ่ง คามู คามู มีฟลาโวนอยด์อยู่หลายชนิด เมื่อรับประทานจะเท่ากับได้บริโภคผักผลไม้หลายๆ ชนิดพร้อมกัน
กรดแกลลิก (Gallic Acid)ที่พบใน คามู คามู มีสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านไวรัสและเชื้อโรคหลายชนิด
กรดเอลลาจิก (Ellagic Acid)เป็นกรดอีกชนิดหนึ่งที่พบใน คามู คามู มีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระเคยมีการศึกษาว่ามีสรรคุณต่อต้านมะเร็ง รวมถึงมีผลในการรักษาโรคเบาหวาน
ผลการศึกษาในปี 2010 จาก Journal of Agricultural and Food Chemistry ที่พบว่า
คามู คามู มีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ส่งผลดีต่อการรักษาเบาหวาน
วารสาร Journal of Cardiology ในปี 2008 ทดลองเรื่องผลในการลดการอักเสบและติดเชื้อของปอด โดยนักสูบบุหรี่เพศชาย 20 คน ถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้ดื่มน้ำ คามู คามู เทียบกับอีกกลุ่มหนึ่งที่รับประทานวิตามินซีชนิดเม็ดทุกวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เมื่อจบการทดลอง ปรากฏว่ากลุ่มที่ใช้ คามู คามู พบว่าสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ และมีปริมาณเซลล์ที่ถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระในสภาวะที่สารต้านอนุมูลอิสระไม่เพียงพอ (oxidative stress) ลดลง โดยกลุ่มที่ได้รับวิตามินซีชนิดเม็ดไม่เกิดผลอะไรเลย
ปัญหากับระบบย่อยอาหาร
ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอเรื่องการที่ร่างกายจะนำข้อดีของผลไม้ชนิดนี้ไปใช้ประโยชน์ทั้งหมด เพราะคุณสมบัติบางอย่างของมันอาจส่งผลกระทบต่อระบบการดูดซึมได้ เนื่องจากปริมาณวิตามินซีที่สูงมากก็ทำให้ปริมาณกรดธรรมชาติที่มีมากตามไปด้วย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร โดยเฉพาะกระเพาะอาหารได้
ท้องร่วงรุนแรง
วิตามินซีช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในผู้ใหญ่ ถ้าบริโภคไม่เกินวันละ 2,000 มิลลิกรัม หากรับวิตามินซีเข้าไปในปริมาณมากๆ ร่างกายก็จะทำการกำจัดส่วนเกินออกทางปัสสาวะและอุจจาระที่จะมีความถี่มากขึ้น จนถึงขั้นท้องร่วงรุนแรง
นอนไม่หลับและมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น
คามู คามู มีส่วนในการเพิ่มของ เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ควบคุมความหิวและอารมณ์ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม คามู คามู จึงถูกใช้เป็นสมุนไพรรักษาอาการซึมเศร้า เมื่อคนที่มีอาการซึมเศร้ามีอารมณ์ที่ดีขึ้น ก็จะมีความกะปรี้กะเปร่า ไปจนถึงคึกคัก นอนไม่หลับ และมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าอยู่ในสภาวะแบบนี้นานๆ จะส่งผลกระทบต่อส่วนอื่นๆ ของร่างกายอีกมาก
พิษจากเหล็ก
วิตามินซีช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็ก เมื่อบริโภคผลไม้ที่มีวิตามินซีปริมาณมากจะส่งผลต่อการดูดซึมธาตุเหล็กของร่างกายให้มากตามไปด้วย ทำให้เกิดภาวะธาตุเหล็กเกิน (iron overdose) มากกว่าที่ร่างกายต้องการ ส่งผลให้เกิดอาการอาเจียนรุนแรง และอาจทำให้ไตและตับเสียหายได้
หัวใจเต้นเร็ว
ผู้ที่อยู่ในภาวะซึมเศร้า กังวล และเครียด มีโอกาสทำให้ตัวเลขความดันเลือดสูง คามู คามู ที่ใช้ในการรักษาอาการดังกล่าวจึงอาจส่งผลให้ความดันเลือดสูงขึ้นกว่าเดิม และแม้จะเป็นผลกระทบที่มีโอกาสเกิดขึ้นไม่มากนัก แต่ก็มีคำแนะนำทางการแพทย์ว่า การใช้ คามู คามู เป็นสมุนไพรบำบัดภาวะทางอารมณ์ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์
+ คามู คามู ยังเป็นเพียงสมุนไพร
คามู คามู ยังเป็นสมุนไพรที่ผ่านการทดลองหาประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์เท่านั้น เป็นเพียงสารเสริมอาหาร ที่ไม่ได้เป็นเคมีภัณฑ์ที่เป็นยา