วิธี ทำการตลาดด้วย Facebook ให้เจ๋งกว่าคู่แข่ง
ทำการตลาดด้วย facebook ให้เจ๋งกว่าคู่แข่งได้ ด้วย 4 วิธีนี้
หลายคนกำลังหาวิธีทําให้คนกดไลค์เพจเยอะๆ และพยายามนำเนื้อหาต่างๆมากมายที่คิดว่าแฟนเพจจะชอบ มาโพสใน Facebook ของตัวเองอยู่ เพื่อหวังจะสร้างยอดขาย หรือหาลูกค้า!
ผมกำลังจะบอกว่าใครๆก็สร้างเพจขายของได้ แต่จะทำยังไงจะให้เพจของเราแตกต่างจากคู่แข่ง จนทำเกิดแฟนคลับ และกลายเป็นลูกค้าของเราในที่สุด
4 วิธี ที่จะทำให้ Facebook คุณเจ๋งกว่าคู่แข่ง หัวใจสำคัญของการทำ Content Marketing
1.แฟนเพจได้ประโยชน์อะไรจากเพจของคุณ
เจ้าของธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็มี Facebook เพจเป็นของตัวเองทั้งนั้น แต่หลายธุรกิจสร้างเพจขึ้นมา เพียงเพราะว่า คู่แข่งมี เราก็ควรต้องมี คนอื่นเขาทำกัน เราก็เลยต้องทำตามเขาบ้าง โดยละเลยจุดประสงค์ของการสร้างเพจไปเลย แต่ในทางกลับกัน ก็พร่ำหายอดขาย ลูกค้าใหม่ ยอดไลค์ ยอดแชร์จาก Facebook ของตัวเองอยู่ทุกวัน
หากเพจเราทำเหมือนคู่แข่ง ผลที่ได้อาจจะเหมือนคู่แข่ง แต่ส่วนใหญ่จะได้ไม่เท่ากับคู่แข่ง ทั้งที่ตอนแรกบอกตัวเองว่าจะทำให้เหนือคู่แข่งให้ได้!! ผมกำลังจะบอกว่า ทำเหมือนเดิม วิธีการเหมือนๆเดิม ผลลัพธ์ก็คงไม่ต่างจากเดิม ฉะนั้นเราต้องเปลี่ยนอะไรบางอย่าง เริ่มจากคำถามนี้ “แฟนเพจจะได้ประโยชน์อะไรจากเพจธุรกิจของเรา?” ยกตัวอย่างเพจขายครีมละกันนะครับง่ายๆ เห็นกันบ่อยๆ ส่วนใหญ่เนื้อหาที่เจ้าของเพจนำมาโพสก็จะมี
สลิปโอนเงิน (พยายามบอกว่าลูกค้าฉันเยอะนะคะ)
ภาพการแพ็คของ ไม่ก็ตอนส่งไปรษณีย์ (ออร์เดอร์เพียบนะคะจะบอกให้)
ภาพรีวิวสินค้า Before After
ภาพแคปหน้าจอ ตอนคุยกับลูกค้า คำชมต่างๆนาๆ
ประมาณนี้ จริงไม่จริง? ผมว่าจริง เพราะมีลูกค้าผมหลายเพจ ที่ก่อนที่จะเจอกันก็ทำประมาณนี้กัน ผลลัพธ์ก็ไม่ได้ดีเท่าที่ควร เพราะอะไร? เพราะคู่แข่งเขาก็ทำแบบนี้ไงครับ เสียเปรียบคู่แข่งที่เปิดเพจมาก่อน เพราะเขามีลูกค้าประจำเยอะแล้ว ที่สำคัญบางเพจบางธุรกิจ ไม่ได้เป็นเจ้าของแบรนด์เอง เป็นเพียงตัวแทนจำหน่าย ยิ่งยากเข้าไปใหญ่เลย จะเอาอะไรไปสู้ เพราะเนื้อหาต่างๆ คุณก็รับมาจากเพจแบรนด์หลัก และตัวแทนจำหน่ายรายอื่นๆ ก็ใช้เนื้อเดียวกันกับคุณ แล้วเราควรทำยังไง? คุณควรสร้างความแตกต่างด้วยเนื้อหา ที่มีคุณค่าเป็นประโยชน์ต่อแฟนเพจหรือกลุ่มเป้าหมาย ลักษณะของเนื้อหาที่เป็นประโยชน์นั้น มีดังนี้
เป็นความรู้! คืออ่านแล้วได้ความรู้ใหม่ๆ โดยยังเกี่ยวกับสินค้าที่คุณขายอยู่ เช่น ถ้าขายครีม การโพสเนื้อหา ” 3 ช่วงเวลา ที่ทาครีมบำรุงหน้าแล้วจะได้ผลดีที่สุด” หาข้อมูลมาอธิบายเพิ่ม พร้อมให้เหตุผล มันจะน่าสนใจมากกว่า แค่โพสรูปสินค้าเฉยๆแน่ๆ และเนื้อหาดีๆนี้ จะเป็นตัวดึงดูดให้เกิดการติดตามต่อเนื่อง สร้างโอกาสที่จะได้ลูกค้าในอนาคต
เปิดประสบการณ์ใหม่ให้แฟนเพจ เนื้อหาหรือกลยุทธ์สำหรับทำให้แฟนเพจติดตาม ประทับใจนั้นมีเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็น การเล่นเกมส์ แจกของรางวัล ลงทะเบียนรับสินค้าทดลอง หรือล่าสุด Facebook มี Facebook Live ถ่ายทอดสด คุยกันสดๆ จากปกติโพสแต่ภาพแพ็คของ อาจจะเป็นการ Live ตอนแพ็คของแทน อาจทำให้ลูกค้ามั่นใจเรามากขึ้น
2. ชวนคุย จนเกิดการถามตอบ แสดงความคิดเห็น
การสื่อสารกับแฟนเพจนั้นเป็นเรื่องสำคัญ หลายเพจหลายธุรกิจ ปล่อยปะละเลย ทำให้เกิดการสื่อสารทางเดียว พูดง่ายๆคือ พูดแต่เรื่องของตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยไม่สนใจเลยว่าคนฟัง จะอยากรู้เรื่องที่เราพูดรึเปล่า ตัวอย่าง
โพสทำนองอวยตัวเอง สินค้าดี คุณภาพอันดับหนึ่ง เจ้าแรกของประเทศไทย บลาๆ
โพสแต่โปรโมชั่นทุกวี่วัน
เนื้อหาดังตัวอย่าง จะไม่ก่อให้เกิดการสื่อสาร ควรโพสด้วยประโยคเชื้อเชิญ สอบถาม ขอความเห็น ขอแชร์ประสบการณ์ เช่น
ครีมอะไรที่คุณจะไม่ลืมทาก่อนนอนเด็ดขาด เพราะอะไร แอดมินอยากให้มาแชร์ความรู้กันค่ะ (กรณีขายครีม ขายเครื่องสำอาง)
สิวขึ้นตรงไหน ทรมารสุดๆ รับมือยังไง มาเล่าสู่กันฟังหน่อยค่ะ (กรณีขายเครื่องสำอาง คลินิกความงามต่างๆ)
การรอให้ลูกค้าเข้ามาสอบถาม โดยไม่สร้างความสัมพันธ์ก่อนนั้น ถือเป็นการตลาดเชิงรับ ควรเปิดเชิงรุกด้วย
3. มีตัวตน สัมผัสได้ เข้าถึงง่าย
ถ้ากรณีเป็นเพจขายของออนไลน์ จะครีม เครื่องสำอางค์ จะเป็นแบรนด์ของตัวเอง หรือตัวแทนจำหน่าย ก็ต้องทำให้ลูกค้าเชื่อใจ ด้วยการแสดงตัวตนของเจ้าของ หรือแม่ค้าออกมา เห็นหน้าตา มีการโพสไลฟ์สไตล์สร้างความเป็นกันเองกับแฟนเพจ ยังมีอีกหลายประการ เช่น
ตอบ Inbox ได้รวดเร็ว ก็ถือเป็นการเข้าถึงได้ง่าย
การมีชื่อเรียกแอดมินที่ติดหู จดจำง่าย ก็ช่วยได้
การพบเจอหน้าลูกค้า แล้วนำภาพมาโพส
4. สม่ำเสมอ
ความสม่ำเสมอคืออะไร คือการสม่ำเสมอในด้านเนื้อหา เวลาที่โพส วันสินค้าเข้า โปรโมชั่น หากนำเสนอเนื้อหาเหล่านี้ได้อย่างสม่ำเสมอ แฟนเพจของคุณ จะเริ่มจดจำ และรู้เวลาติดตามในการรับข่าวสาร จนพวกเขากลายเป็นแฟนคลับของเพจคุณ ที่จะรับรู้การเคลื่อนไหวของคุณตลอดเวลา