ไข่ดองน้ำส้มสายชูหมัก
ไข่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมักเป็นตำรายาโบราณของจีนในสมัยพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ ได้สืบทอดต่อมาจนถึงบัดนี้ได้เผยแพร่ไปทั่วแถบเอเชีย และในหมู่ชาวจีน ในประเทศอเมริกาผู้นำตำรามาเผยแพร่คนแรกได้นำยามาทานเอง และแนะนำให้เพื่อนฝูงทานด้วยได้ผลดีเหมือนปาฏิหารย์สามารถรักษาโรคได้หลายโรคโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคของผู้สูงอายุ ผู้เผยแพร่ทานยา ไปแล้วกว่า 100 ฟองได้ผลดีเหมือนอย่างหนังกำลังภายใน สังเกตจากการเดินขึ้นบันได จะไม่เหนื่อยเหมือนแต่ก่อน เพราะหัวใจจะแข็งแรงมากเป็นพิเศษ
สรรพคุณ :
รักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (โรคหัวใจ) เลือดข้นและเหนียวเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตต่ำ ลดไขมันในเลือด (ทั้งคลอเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์) ไทรอยด์ อัมพฤกษ์หรืออัมพาตอันเนื่องจากเส้นเลือดในสมองตีบ ละลายหินปูน อาการเมื่อยชา ตึง ปวดและบวมตามร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณด้านหน้าและด้านหลัง ปวดเข่าปวดหลัง ขาไม่มีเรื่ยวแรง (ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากหินปูนที่งอกพอกกระดูกสันหลังเบียดหรือทับเส้นประสาท)โรคข้ออักเสบ เช่นข้อนิ้วมือแข็งแรงและงอไม่ลงเป็นต้น ไหล่ติดอาการหน้ามืดบ่อยๆ หมดความรู้สึกทางเพศ ทำให้หลอดเลือดสะอาดเลือดหมุนเวียนได้สะดวก สร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ไม่เกิดสิว แผลสดจะหายเร็วกว่าปกติ ใบหน้าอ่อนวัย แข็งแรงกว่าเดิมเป็นยารักษาโรคครอบจักรวาล สำหรับผู้สูงอายุ 40 ปีขึ้นไปไม่มีผลข้างเคียงเพราะมาจากธรรมชาติสุดแสนประหยัด สามารถทำได้เอง และได้ผลอย่างแท้จริง
วิธีการทำไข่ดิบดองน้ำส้มสายหมัก
ตัวยา/อุปกรณ์ ที่ใช้ :
1. น้ำส้มสายชูหมัก หมักมีสีคล้ายกับสีของน้ำชาอ่อนไม่ใสเหมือนสีของน้ำส้มสายชูกลั่น ซึ่งเป็นสารเคมี น้ำส้มสายชูหมักที่ใช้ต้องมีกรดน้ำส้มอยู่ประมาณร้อยละ 4.2 ถึง 4.5% น้ำส้มสายชูหมักที่นิยมนำมาดองไข่ในตอนนี้เป็นยี่ห้อ ไดมอนด์ มีขายที่ฟู้ดแลนด์ มีหลายสาขาในกรุงเทพฯ
2. ไข่ไก่สดใหม่ 8 ฟอง ต่อน้ำส้มสายชูหมัก 1 ขวด (ไข่ไก่ขนาดเล็กเบอร์ 3 หรือ เบอร์ 4 จะเหมาะที่สุด)ห้ามแช่เย็นมาก่อน ถ้าใช้ไข่จะเน่าเสียทั้งหมด
3. โหลแก้วเท่านั้น จำนวน 2 ใบเพื่อให้การทานยาต่อเนื่อง เลือกขนาดโหลที่พอดี อย่าให้ไข่ซ้อนกันเกิน 2 ชั้น ถ้าซ้อนกันมาก ไข่มีโอกาสแตกได้ถ้าไม่มีโหลอาจใช้ถ้วยแก้วดองไข่เพียงครั้งละ 5-8 ฟองแทนก็ได้บางคนก็ดองใส่แก้วๆละฟอง อันนี้แล้วแต่ความเหมาะสมที่จะพลิกแพลงเอา
การเตรียมยา
1. เช็ดผิวไข่ให้ สะอาด อาจแช่น้ำหรือขัดในน้ำให้สะอาดเบาๆเช็ดให้แห้งนำไปเรียงในโหลแก้ว เทน้ำส้มสายชูโดยให้น้ำสายส้มชูท่วมไข่ เมื่อแช่ทีแรกจะเห็นฟองก๊าซผุดขึ้นมาตามเปลือกไข่
2. ไข่จะนิ่มทั้งฟองภายในหนึ่งหรือสองวัน และไม่ควรปิดฝาให้แน่นในช่วงนี้ เพื่อให้แก๊สที่เกิดระบายสู่บรรยากาศได้โดยง่าย หลังจากนั้นค่อยปิดฝาขวดโหล เมื่อ ทิ้งไว้นาน 4-5 วันเต็มจะสังเกตเห็นไข่จะขยายตัวใหญ่ขึ้น แต่บางทีก็ต้องดองถึง 10 วัน จะช้าจะเร็วนั้นขึ้นอยู่กับความข้มข้นของกรดในน้ำส้มด้วย เมื่อดองไข่ได้ที่แล้วให้นำไข่ออกมารับประทานวันละ 1 ฟองจนหมดจึงทิ้งน้ำส้ม ทานติดต่อกันไปจึงจะได้ผล
รูปแสดงการเตรียมยา
ไข่ที่กำลังดอง
การรับประทานยา
1. นำไข่ซึ่งนิ่ม 1 ฟอง เปิดน้ำประปาล้างไข่พร้อมใช้นิ้วลูบเปลือกไข่เบาๆเปลือกไข่จะยุ่ยหลุดออกมาเหมือนแป้งจนเกือบหมดเหลือเพียงเยื่อใสๆซึ่งหุ้มไข่ขาวและไข่แดงอยู่ภายใน นำไข่ใส่แก้ว เจาะเยื่อหุ้มไข่ (วางไข่ในแก้ว ป้องกัน ไข่กระเด็น แล้วใช้ไม้จิ้มฟันเจาะเอาเยื้อหุ้มไข่ทิ้ง)นำไข่แดงและไข่ขาวมารับประทานหลังอาหารเช้า วันละ 1 ฟอง ห้ามทานตอนท้องว่างถ้ารับประทานยากให้ผสมน้ำผึ้งก็ได้แต่ผสมกับน้ำเชื่อมจะคล้ายบัวลอยทานง่ายที่สุด ห้ามทำให้สุกเด็ดขาด น้ำส้มจะเสื่อมสภาพ
2. หลังรับประทานแล้วให้ดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดาให้มากๆทั้งวันเพื่อระบายท้องเสียหลังทานยาห้ามดื่มน้ำเย็นทันทีเพราะอาจทำให้คลื่นไส้ได้ ถ้าหายดีแล้วควรทานเป็นประจำ แต่ลดยาลงเหลืออาทิตย์ละ 2-3 ฟอง(ทุกครั้งที่ทานยาห้ามนอนทันทีแต่ควรทำอะไรไปพลางก่อนเพื่อให้ยาเดินสำคัญมาก) การทานหลังอาหารมื้อเช้าประมาณ 10-15 นาที จะดีที่สุดแล้วทานน้ำมะนาวหรือของเปรี้ยวอื่นๆ ชิ้นเล็กๆ ตบท้าย จะช่วยให้รู้สึกดีมากมีน้อยมากที่จะพบเฉพาะบางท่านเท่านั้น ที่รับประทานยาติดต่อกันหลายวันอาจมีอาการร้อนใน เช่น ปากเป็นเม็ด ริมฝีปากแห้ง หรือมีขี้ตา เป็นต้นควรหยุดทานยาชั่วคราว แล้วแก้อาการร้อนในด้วยการรับประทาน ยาเขียวตราใบห่อชนิดระบายอ่อน ในบางกรณีอาการปวดหรือชาอาจมากขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวันให้อดทนรับประทานต่อไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอาการจะดีขึ้น เห็นได้ชัดเนื่องจากเป็นช่วงยาออกฤทธิ์ใหม่ๆขับอาการของโรคออกแล้วจะรู้สึกดีขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะผู้ที่กำลังป่วยอยู่
ประวัติและการวิเคราะห์การทำงานของยา
1. ผู้มีอาการเสี่ยงต่อการช๊อก ได้แก่โรคหัวใจ (เจ็บแปลบๆ ปวดจี๊ดสาเหตุ เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเพราะเส้นเลือดฝอยตีบ) , ผู้ที่เคยผ่าตัดหัวใจ (ทำบายพาสมาแล้วแต่เป็นซ้ำอีก) , หัวใจโต , ผู้มีน้ำตาลในเลือดสูงมากถึงขึ้นต้องฉีดอินซูลิน , ผู้มีความดันโลหิตสูงเส้นเลือดฝอยมีโอกาสเปราะแตกอาจเสียชีวิตได้ทุกเมื่ออาการเสี่ยงเหล่านี้จะหมดไปอย่างรวดเร็วในทันทีที่เริ่มทานไข่ดองน้ำส้มสายชูหมักซึ่งจะรู้สึกได้เอง ยิ่งสามารถทานต่อเนื่องได้ทุกวันผู้ป่วยจะรู้สึกได้เองว่ายานี้ได้ผลดีจริงในระยะเวลาที่เร็วมากอีกทั้งน้ำส้มสายชูหมักมีวิตามินซีสูงมากทำให้เส้นเลือดเหนียวและเปราะแตกได้ยากมาก
2. สำหรับผู้ป่วยที่มีผลการตรวจขอแพทย์เป็นตัวเลขยืนยันชัดเจนเมื่อทานยาติดกันประมาณ 30 ฟอง แล้วไปให้แพทย์เจาะเลือดผลปรากฎว่าระดับน้ำตาล , ความดัน , ครอเรสเตอรอล ไตรกรีเซอร์ไรด์จะลดลงใกล้เคียงปกติทุกคน ยังไม่เคยมีใครทานยานี้แล้วไม่ได้ผลเพียงแต่ต้องทำยาให้ถูกต้อง และทานยาให้ต่อเนื่องจึงจะถูกวิธีโดยผู้ป่วยทุกรายยืนยันเองได้ผลจริง และได้ผลเร็วเกินคาด
3. โรคต่างๆ ที่เกิดจากหินปูนกดทับเส้นประสาทควบคุมการเคลื่อนไหว ได้แก่อาการเมื่อย ชา ปวด บวม ข้อและเข่าอักเสบ ไหล่ติดนิ้วมือเท้าแข็ง ตับ ไตไทรอยด์ นอนไม่หลับ ฯลฯ รักษาได้ผลดีรวดเร็วมาก เพราะน้ำส้มจะละลายหินปูนตามข้อต่างๆ รวมทั้งนิ่วและในไตน้ำส้มจะทำให้เส้นประสาทสั่งการจากสมองทำงานได้สมบูรณ์ด้วยการทำความสะอาดเส้นเลือดฝอยทุกเส้น ทำให้เลือดเดินได้สะดวก อวัยวะต่างๆ เช่น ตับ ตับอ่อนไต หัวใจ ม้าม ฯลฯ ก็สามารถฟื้นตัวทำงานได้ปกติโดยอาศัยความสามารถของไข่ไก่เป็นตัวพาน้ำส้มไปทำความสะอาดผนังหลอดเลือดในรูปของสารอาหารเพราะน้ำส้มสายชูหมักถือเป็นสิ่งแปลกปลอมทางร่างกาย รับประทานโดยตรงร่างกายจะไม่ดูดซึมและขับออกทั้งหมดทางปัสสาวะจึงไม่สามารถใช้ประโยชน์โดยตรงได้
4. น้ำส้มสายชูหมักในไข่ไก่จะละลายหินปูนและทำความสะอาดผนังทางหลอดเลือดทั่วร่างกายแม้แต่ในกระดูกตั้งแต่เส้นเลือดใหญ่จนถึงเส้นเลือดฝอยอย่างละเอียดทำให้ปัญหาในการอุดตันในเส้นเลือดฝอยที่เป็นเส้นประสาทสั่งการสำคัญๆ สะอาดเลือดไหลเวียนสะดวก ทำให้ยานี้รักษาโรคอัมพฤกษ์และอัมพาตหายและได้ผลจริงโดยหลักการที่ว่าเมื่อหลอดเลือดสะอาดจะทำให้เซลล์เนื้อเยื่อทั่วร่างกายฟื้นตัวกลับสู่ปกติเพราะได้รับสารอาหารและออกซิเจนจากเลือดอย่างพอเพียงและทั่วถึงและดึงของเสียที่เกิดจากการใช้งานของเซลล์กลับออกมาทำให้ปราศจากเซลล์เสียในร่างกายเท่ากับการป้องกันและยับยั้งการเกิดการขยายตัวของเซลล์มะเร็งโดยอัตโนมัติ ทานยานี้เป็นประจำจะช่วยป้องกันและรักษาโรคได้ทุกชนิดดังกล่าวมานับว่าเป็นยาอายุวัฒนะที่มีสรรพคุณวิเศษต่อมวลมนุษย์อย่างแท้จริงเพราะราคาถูกทำเองได้ง่ายๆไม่ต้องทานยาแผนปัจจุบันที่เป็นสารเคมีและราคาแพงไปตลอดชีวิตแต่อาการทรงตัวไม่สามารถหายขาดได้และยังมีผลข้างเคียงติดตามมาเป็นอันตรายต่อตับและไตอย่างมาก
· ท่าน อ.ศักดา วัชรินทร์กร ที่ชมรมแพทย์แผนไทยก้าวหน้า มีผลวิจัยเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
หาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหนังสือ ” ไข่+น้ำส้มสายชูรักษา โรค “ตามแผงเซเว่นหรือ ซีเอ็ดบุ๊ค
ประเภทของน้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชู แบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่
1 . น้ำส้มสายชูหมัก คือน้ำส้มสายชูที่ได้จากการหมัก เมล็ดธัญพืช เช่น ข้าว ข้าวโพด ผลไม้ เช่น สับปะรด แอ๊ปเปิ้ล หรือ น้ำตาล กากน้ำตาล
การผลิตน้ำส้มสายชูหมัก เป็นการหมัก สองขั้นตอน คือ การหมักน้ำตาล ให้เกิดแอลกอฮอล์โดยใช้ยีสต์ ตามด้วยการหมักแอลกอฮอล์ให้เกิดกรดอะซิด้วยแบคทีเรียในกลุ่ม อะซิโตแบ็คเตอร์ และ กลูคูโนแบ็คเตอร์น้ำส้มสายชูที่หมัก จะใส ไม่มีตะกอน ยกเว้นตะกอนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีกลิ่นหอมตามกลิ่นของวัตถุดิบ มี รสชาติดี มีรสหวานของน้ำตาลที่ และมีปริมาณกรดน้ำส้ม (กรดอะซิติก) ไม่น้อยกว่า 4%
2. น้ำส้มสายชูกลั่น เป็น ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำเอทธิลอัลกอฮอล์กลั่นเจือจางมาหมักกับเชื้อน้ำส้มสายชู หรือเมื่อหมักแล้วนำไปกลั่น หรือได้จากการนำน้ำส้มสายชูหมักมากลั่น น้ำส้มสายชูกลั่นจะต้องมีลักษณะใส ไม่มีตะกอนและมีปริมาณกรดน้ำส้มไม่น้อยกว่า 4%
3. น้ำส้มสายชูเทียม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำเอากรดน้ำส้ม (Acetic acid) ซึ่งสังเคราะห์ขึ้นทางเคมี เป็นกรดอินทรีย์มี ฤทธิ์เป็นกรดอ่อนมีความเข้มข้นประมาณ 95% มาเจือจางจนได้ปริมาณกรด 4 – 7% ลักษณะใส ไม่มีสี
น้ำส้มสายชูหมักตราไดมอนด์
สรรพคุณของน้ำส้มสายชูหมัก
น้ำส้มสายชูหมัก หรือที่ฝรั่งเรียกว่า ไวเนกร้า ที่เรามักเห็นบ่อย ๆ คือ แอปเปิ้ลไซเดอร์ ซึ่งมีขายทั่วไปในยุโรป อเริกา และที่ญี่ปุ่น ส่วนเมืองไทยก็มีบ้างประปราย ก็คือน้ำส้มสายชูหมักที่ทำจากผลแอปเปิ้ลนั่นเองซึ่งโดยปกติจะมีรสเปรี้ยวจัด การรับประทานส่วนใหญ่จึงนิยมนำมาผสมน้ำผึ้ง เจือจางด้วยน้ำสะอาด เพื่อกลบรสชาติ และจัดว่าเป็นยาอายุวัฒนะ สรรพคุณของน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลมีมากมาย ได้แก่ ช่วยในระบบย่อยและดูดซึมอาหาร ทำให้การขับถ่ายเป็นปกติ ช่วยล้างทางเดินอาหารและกระเพาะให้สะอาด ล้างสารพิษในร่างกาย ช่วยปรับระดับกรด-เบสในร่างกายให้สมดุล บรรเทาอาการปวดศีรษะ ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ ป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยบรรเทาอาหารปวดกล้ามเนื้อและปวดข้อ ช่วยให้ระบบปัสสาวะเป็นปกติ บำรุงสายตา ช่วยลดน้ำหนักได้ ใช้ทาผิวรักษาผิวพรรณ ช่วยให้ความจำดีขึ้น แก้ผมแตกปลาย กำจัดรังแค และอาการคันศีรษะ รักษาโรคความดันโลหิตสูง และยังใช้แช่ผักที่มีสารตกค้างได้อีกด้วย ส่วนในบ้านเราซึ่งได้ชื่อว่าแดนสุวรรณภูมิ ถึงแม้จะไม่สามารถปลูกแอปเปิ้ลได้ แต่สามารถหาผลิตภัณฑ์อื่นมาทำน้ำส้มสายชูหมักได้ง่าย ๆ และคุณค่าไม่ได้ด้อยไปกว่า ของฝรั่งเลย ดังที่นิยมทำกันก็มี กล้วย อ้อย น้ำมะพร้าว ข้าว สับปะรด ข้าวโพด
วีดีโอที่เกี่ยวข้อง
ไข่ดองน้ำส้มสายชูหมัก โดยบล็อกยาอมตะ
ไข่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมัก
การทำน้ำส้มสายชูหมักเองง่าย ๆ จาก ม.เกษตร
ดาวน์โหลดบทความในรูปแบบไฟล์ PDF
ลิ้งค์ของบทความที่เกี่ยวข้อง
การรักษาโรคด้วยไข่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมัก โดย คุณไอยริณจันทร์เกษร
สรรพคุณของ ไข่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมัก 1
สรรพคุณของไข่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมัก 2
ตัวอย่าง ผู้ทาน ไข่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมัก หายจากอาการปวดข้อ และความดันลดลง
โฆษณาผลิตภัณฑ์น้ำส้มสายชูหมักของไดมอนด์
kaidang ที่ 22:21
ใช้ร่วมกัน
78 ความคิดเห็น:
น้ำส้มสายชูหมักจากสับปะรด ตรา Diamond Gold, Ambrocia4 พฤษภาคม 2555 เวลา 17:36
ขออนุญาติคุณkaidang ฝาก link เว็ปนี้ด้วยนะคะ เกี่ยวกับเบาหวานและความดันสูง เพื่อให้ผู้ที่สนใจหาได้ง่ายขึ้น เป็นlink ของน้ำส้ม Diamond โดยเฉพาะ หากเป็นการรบกวนเว็ปของท่านกรุณาลบออกไปได้เลย ขอบคุณค่ะhttp://pineapplevinegar.blogspot.com/2012/03/blog-post_05.html
ตอบ
ไม่ระบุชื่อ26 มิถุนายน 2555 เวลา 19:25
ยาอายุวัฒนะสูตรใหม่น่าลองนะ
ตอบ
Unknown4 กรกฎาคม 2555 เวลา 10:09
สุดยอดเลยหล่ะครับ โดยเฉพาะของ ม.เกษตร ของเราด้วย
ตอบ
Unknown16 กรกฎาคม 2555 เวลา 20:46
มาแสดงความคิดเพิ่มเติม แต่ก็คงจะไม่สายเกินไปนะ ผมเป็นเจ้าของธุรกิจร้านบ้านการ์ดด่วน (อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์) เดิมเป็นเบาหวานควบคุมไม่ได้ น้ำตาลสวิงอยู่ที่ 200 กว่าไปจนถึง 300 ต้นๆ จนคุณหมอที่ รพ. จะให้ใช้ยาฉีด แต่ก็ขอเวลาคุณหมอไว้ว่าอีก 1 เดือน โดยบอกว่าหากน้ำตาลไม่ดีขึ้น ก็จะยอมให้คุณหมอใช้ยาฉีด หลังจากรับปากกับคุณหมอ ใครว่ายาอะไรดีซื้อมากินหมด ขวดละพันสองพันโฆษณาปานยาเทวดาก็ซื้อมากิน แต่เมื่อกินยาเหล่านั้น น้ำตาลลงไม่กี่วันก็กลับขึ้นมาสูงแถมมากกว่าเก่าอีก กลุ้มใจมากคิดว่าคราวนี้คงไม่รอดที่จะให้หมอจ่ายยาฉีดให้แล้วล่ะ..ก็พอดีได้รู้สูตรยานี้เมื่อเหลือเวลาที่คุณหมอนัดอีกเพียง 7 วันเท่านั้น จึงได้รีบทำยาสูตรไข่ดองนี้ทันที และด้วยความใจร้อนพอดองไปได้ 3 วันเท่านั้น (ความจริงต้อง 5 วันขึ้นไป) ตรวจน้ำตาลในเลือดตัวเองดู ก็มีผลอยู่ที่ 320 กว่าๆ จึงตัดสินใจทานก่อนเวลา พอทานได้ 2 วัน ตรวจดูน้ำตาลลดลงเหลือ 200 กว่าๆ และพอทานอีก 3 วัน ก็ถึงเวลาหมอนัด หมอตรวจผลน้ำตาลในเลือดก็ลดลงเหลือเพียง 128 ปัจจุบันทานมา 5 เดือนแล้ว ไม่เคยคิดจะหยุด น้ำตาลในเลือดก็เหลือเพียง 110 เท่านั้น เรียกได้ว่าปกติดีเยี่ยม โรคปวดตามข้อเท้า ข้อเข่า (เป็นคนมีน้ำหนัก 90 กว่า) เคยปวดบวมบ่อยๆ หายไปหมดไม่เกิดขึ้นอีกเลย เพื่อนๆที่นานๆมาเจอกันทีต่างก็ทักกันเป็นเสียงเดียวกันว่า หน้าตาดูอิ่มเอิบแจ่มใสขึ้น และดูเหมือนเด็กกว่าวัย (ปัจจุบันอายุ 51 ปีแล้ว) ทุกวันนี้ทานทุกวันไม่เคยหยุดเพราะคิดว่าไม่มีพิษมีภัยอะไรมีแต่ทำให้ร่างกายกลับดีขึ้น น้ำส้มสายชูหมักผมก็ไม่ได้ซื้อยี่ห้อที่วิเศษวิโสอะไร ซื้อที่ห้างบิ๊กซีขวดไม่ถึง 20 บาท เป็นขวดพลาสติกใสฉลากสีเหลืองมองเผินๆจะเหมือนกับขวดน้ำมันพืช คงไม่ต้องบอกยี่ห้อนะครับเดี๋ยวเจ้าของบล็อกเขาจะว่าเอาเป็นน้ำส้มหมักจากสับปะรดน่ะครับ น้ำส้ม 1 ขวด ผมดองไข่ไก่เบอร์เล็กสุด 10 ฟอง พอทานไปหมด 5 ฟองก็ดองโหลใหม่เพิ่มอีก 10 ฟองเพื่อการทานที่ต่อเนื่อง เรื่องนี้ผมขอฟันธงครับว่าดีแน่นอน คนอายุเกิน 40 ควรต้องทานทุกคนครับ โดยเฉพาะคนไม่มีเวลาออกกำลังกาย สงสัยสอบถามได้ครับที่ 086-9291225 ยินดีให้ความกระจ่างกับทุกท่านครับ และก็ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการขายไข่และน้ำส้มสายชูหมักแต่อย่างใดครับ แต่เพื่อกุศลน่ะครับเพราะผมคิดว่าใช้ดีแล้วจึงบอกต่อ..
ตอบ
คำตอบ
kaidang18 กรกฎาคม 2555 เวลา 21:54
ยินดีกับคุณ พงศ์ประเสริฐด้วยนะครับ ที่เจอยาที่ถูกกับโรคนะครับ ใครสนใจก็ลองโทรไปดูนะครับ ยาต่าง ๆ ที่ผมนำมาแนะนำในบล็อกนี้ ผมได้ลองทำลองใช้มาทุกอย่างแล้วครับ ผมขอรับรองว่า ปลอดภัยมากครับ ถ้าทำถูกวิธี
ตอบ
Unknown16 กรกฎาคม 2555 เวลา 20:48
มาแสดงความคิดเพิ่มเติม แต่ก็คงจะไม่สายเกินไปนะ ผมเป็นเจ้าของธุรกิจร้านบ้านการ์ดด่วน (อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์) เดิมเป็นเบาหวานควบคุมไม่ได้ น้ำตาลสวิงอยู่ที่ 200 กว่าไปจนถึง 300 ต้นๆ จนคุณหมอที่ รพ. จะให้ใช้ยาฉีด แต่ก็ขอเวลาคุณหมอไว้ว่าอีก 1 เดือน โดยบอกว่าหากน้ำตาลไม่ดีขึ้น ก็จะยอมให้คุณหมอใช้ยาฉีด หลังจากรับปากกับคุณหมอ ใครว่ายาอะไรดีซื้อมากินหมด ขวดละพันสองพันโฆษณาปานยาเทวดาก็ซื้อมากิน แต่เมื่อกินยาเหล่านั้น น้ำตาลลงไม่กี่วันก็กลับขึ้นมาสูงแถมมากกว่าเก่าอีก กลุ้มใจมากคิดว่าคราวนี้คงไม่รอดที่จะให้หมอจ่ายยาฉีดให้แล้วล่ะ..ก็พอดีได้รู้สูตรยานี้เมื่อเหลือเวลาที่คุณหมอนัดอีกเพียง 7 วันเท่านั้น จึงได้รีบทำยาสูตรไข่ดองนี้ทันที และด้วยความใจร้อนพอดองไปได้ 3 วันเท่านั้น (ความจริงต้อง 5 วันขึ้นไป) ตรวจน้ำตาลในเลือดตัวเองดู ก็มีผลอยู่ที่ 320 กว่าๆ จึงตัดสินใจทานก่อนเวลา พอทานได้ 2 วัน ตรวจดูน้ำตาลลดลงเหลือ 200 กว่าๆ และพอทานอีก 3 วัน ก็ถึงเวลาหมอนัด หมอตรวจผลน้ำตาลในเลือดก็ลดลงเหลือเพียง 128 ปัจจุบันทานมา 5 เดือนแล้ว ไม่เคยคิดจะหยุด น้ำตาลในเลือดก็เหลือเพียง 110 เท่านั้น เรียกได้ว่าปกติดีเยี่ยม โรคปวดตามข้อเท้า ข้อเข่า (เป็นคนมีน้ำหนัก 90 กว่า) เคยปวดบวมบ่อยๆ หายไปหมดไม่เกิดขึ้นอีกเลย เพื่อนๆที่นานๆมาเจอกันทีต่างก็ทักกันเป็นเสียงเดียวกันว่า หน้าตาดูอิ่มเอิบแจ่มใสขึ้น และดูเหมือนเด็กกว่าวัย (ปัจจุบันอายุ 51 ปีแล้ว) ทุกวันนี้ทานทุกวันไม่เคยหยุดเพราะคิดว่าไม่มีพิษมีภัยอะไรมีแต่ทำให้ร่างกายกลับดีขึ้น น้ำส้มสายชูหมักผมก็ไม่ได้ซื้อยี่ห้อที่วิเศษวิโสอะไร ซื้อที่ห้างบิ๊กซีขวดไม่ถึง 20 บาท เป็นขวดพลาสติกใสฉลากสีเหลืองมองเผินๆจะเหมือนกับขวดน้ำมันพืช คงไม่ต้องบอกยี่ห้อนะครับเดี๋ยวเจ้าของบล็อกเขาจะว่าเอาเป็นน้ำส้มหมักจากสับปะรดน่ะครับ น้ำส้ม 1 ขวด ผมดองไข่ไก่เบอร์เล็กสุด 10 ฟอง พอทานไปหมด 5 ฟองก็ดองโหลใหม่เพิ่มอีก 10 ฟองเพื่อการทานที่ต่อเนื่อง เรื่องนี้ผมขอฟันธงครับว่าดีแน่นอน คนอายุเกิน 40 ควรต้องทานทุกคนครับ โดยเฉพาะคนไม่มีเวลาออกกำลังกาย สงสัยสอบถามได้ครับที่ 086-9291225 ยินดีให้ความกระจ่างกับทุกท่านครับ และก็ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการขายไข่และน้ำส้มสายชูหมักแต่อย่างใดครับ แต่เพื่อกุศลน่ะครับเพราะผมคิดว่าใช้ดีแล้วจึงบอกต่อ..
ตอบ
ไม่ระบุชื่อ24 กรกฎาคม 2555 เวลา 10:25
ลองศึกษาดู
ตอบ
ไม่ระบุชื่อ25 กรกฎาคม 2555 เวลา 16:03
อยากทราบว่าสูตรดั้งเดิมของจีนนั้นเป็นน้ำส้มอะไรครับ สับปะรดเป็นพืชเขตร้อน ไม่น่าจะเป็นของหาได้ง่ายๆในเมืองจีน ยิ่งสมัยก่อนคงจะขนส่งกันลำบากมากครับ
ตอบ
kaidang25 กรกฎาคม 2555 เวลา 20:57
ที่จริงน้ำส้มสายชูหมักจากอะไรก็ได้นะครับ คืออะไรที่ทำไวน์หรือเหล้าได้ ก็ทำน้ำส้มสายชูหมักได้หมดครับ เพราะจุลินทรีย์อะซิโตแบคเตอร์จะเปลี่ยนแอลกอฮอลล์เป็นกรดอะซิติก(กรดน้ำส้ม)จากธรรมชาติ ซึ่งมีฤทธิ์คนละอย่างกับกรดน้ำส้มที่สังเคราะห์ขึ้น
ซึ่งกรดน้ำส้มจากธรรมชาตินี้ มีฤทธิ์ละลายหินปูน โดยสังเกตได้ง่าย ๆ ว่า ไข่นั้นโดนกรดน้ำส้มกัดจนเป็นฟองทันที่ที่หมักเลยครับ
หินปูนนี้คือตัวปัญหาเพราะมันพอกในอวัยวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตับ ไต หรือตามข้อต่อต่าง ๆ ทำให้ร่างกายเกิดทำงานผิดปกติลามไปทั่วเป็นโดมิโนเลยครับ และไม่เฉพาะแค่นั้น กรดน้ำส้มยังสามารถ ละลายลิ่มเลือด และไขมันได้อีกด้วย
…..
อย่างบางคนก็ดองกับน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปื้ล (เพราะชอบของนอก ไม่ว่ากัน) ส่วนผมก็ชอบดองน้ำส้มสายชูหมักจากกล้วยที่ทำเองครับ ที่ผมเลือกกล้วยเพราะผมหมักไว้เยอะ ผมดูข้อมูลจากในเน็ตนี่แหละครับเค้าบอกว่าสมัยก่อนประเทศไทย ไม่ได้มีน้ำส้มสายชูกลั่นเหมือนอย่างทุกวันนี้ ก็ใช้น้ำส้มสายชูที่หมักจากกล้วย และแถวที่ผมอยู่ก็ปลูกกล้วยกันมากมายครับ และกล้วยมีเปลือก ตอนผมหมักผมก็ปอกเปลือก แล้วหมักโดยไม่ต้องต้มฆ่าเชื้อเลย เพราะมั่นใจในความสะอาดเพราะเปลือกหุ้มไว้อย่างดี
อย่างสับปะรดนั้น ถ้าจะหมักเองนั้น ก็มีประเด็นปัญหาอยู่ที่จุลินทรีย์ที่ใช้ในการหมักนั้นมักมักอยูที่ตา ถ้าต้มฆ่าเชื้อก่อนจุลินทรีย์ก็ตายหมด ถ้าไม่ต้มฆ่าเชื้อก็อาจมีเชื้อปนเปื้อนได้ง่าย และเสี่ยงต่อยาฆ่าหญ้าด้วย
เมื่อมีข้อกังขาเกิดขึ้น ผมจึงลองหมักน้ำส้มจากสับปะรดทั้งสองแบบคือ
1. แบบปอกเปลือก จะไม่ค่อยเป็นกรดน้ำส้มเท่าไหร่ แต่ถ้าทำดี ๆ ก็ใช้ได้เหมือนกัน
2. แบบเอาทั้งเปลือก จะเป็นกรดน้ำส้มดี แต่ต้องหมักนานหน่อย และถูกวิธีด้วย คือให้อากาศเข้าในถังได้บ้าง
3. แบบทั้งเปลือกผสมกับน้ำส้มหมักจากกล้วย เปรี้ยวดีมากครับ สุดยอด ดองไข่ได้ผลเหมือนน้ำส้มสายชูหมักจากสับปะรดของไดมอนด์เลยครับ (ทั้งที่ใช้เชื้อตามธรรมชาติ)
ผมคิดว่าการดองไข่ด้วยน้ำส้มจากสับปะรดคงจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะตัวสับปะรดเองก็มีสรรพคุณช่วยเกี่ยวกับไตอยู่แล้ว และไตก็มีหน้าที่ควบคุมความดันโลหิตด้วย และผมสังเกตเห็นว่า สับปะรดตามธรรมชาติก็มีกรดมากอยู่แล้ว บางวันผมทำน้ำหมักจากสับปะรดทั้งวัน สับปะรด มันกัดปลายมือผมซะแสบไปหมดจนหยิบอะไรไม่ค่อยได้ไป 2-3 วันเลยครับ
สรุป น้ำส้มสายชูหมักจากอะไรก็ได้ครับ สำคัญที่กรดอะซิติก ควรจะมี 4.2-5 % แต่อาจจะให้ผลแตกต่างกันบ้าง ตามสารอาหารในผลไม้ที่ใช้หมัก ถ้าให้สรรพคุณตรงตามที่เขียนเป๊ะ ๆ น่าจะเป็นน้ำส้มสายชูหมักจากสับประรดครับ คือถ้าจะให้ตอบให้ชัวร์ว่าควรใช้น้ำส้มสายชูหมักจากอะไร ก็ต้องรู้ก่อนว่าเป็นโรคอะไร แล้วหาผลไม้ที่เหมาะสมกับโรคด้วยนั้นด้วยครับ และอีกอย่างการหมักน้ำส้มด้วยวิธีทางธรรมชาตินั้น ไม่ใช่ว่าน้ำหมักนั้นจะเป็นน้ำส้มอยู่ตลอด ขอยกตัวอย่างจากประสบการณ์หมักด้วยสับปะรด เมื่อหมักได้ประมาณ 6 เดือน จะเปรี้ยวมาก แต่เมื่อหมักถึง 1 ปีความเปรี้ยวจะลดลง จะกลายเป็นน้ำหมักเอนไซม์ ซึ่งจะไม่นิยมมาดองไข่ จะนิยมผสมน้ำผึ้งทาน แต่เมื่อหมักต่อไป มันจะกลับมาเปรี้ยวอีกก็สามารถนำมาดองไข่ได้อีกครับ มันจะกลับไปกลับมาอยู่อย่างนี้ เพราะจุลินทรีย์มันจะทำงานตลอดครับ อย่างบางโรคเช่นอัมพฤกษ์อัมพาตนั้นนั้น เค้าก็แนะนำว่าต้องใช้น้ำส้มสายชูหมัก 2 ปีขึ้นไปครับ
ส่วนน้ำส้มสายชูหมักที่มีขายทั่วไปนั้น ผ่านการฆ่าเชื้อมาเรียบร้อยแล้ว เนื่องจาก 1 เค้าหวงหัวเชื้อ 2. ถ้าไม่ฆ่าเชื้อมันจะหมักต่อและขวดอาจระเบิดได้ 3. คนทั่วไปรังเกียจคำว่าเชื้อแบคทีเรีย ด้วยเหตุ นี้จึงสามารถเก็บไว้โดยคงสภาพเป็นน้ำส้มอยู่ได้นาน
อย่างสูตรยาสมุนไพรไทยนั้น ถ้าจะทำเป็นตำรับยา
ต้องมีสมุนไพรที่ทำหน้าที่ดังต่อไปนี้
1. หัวหน้า
2. ช่วยฤทธิ์
3. คุมฤทธิ์
4. กลบฤทธิ์
5. นำทาง
ดังนั้นถ้าเทียบสูตรไข่ดองด้วยน้ำส้มสายชูหมักกับ ตำรับยาไทยแล้วคงจะประมาณว่า
น้ำส้มสายชูหมัก คือ หัวหน้า
ไข่ คือ ช่วยฤทธิ์ และนำทาง
ส่วนตัวคุมฤทธิ์ และกลบฤทธิ์ นั้น ไม่จำเป็น เพราะไม่มีผลข้างเคียง แม้แต่คนที่เป็นโรคกระเพาะ แต่สำหรับคนที่เป็นโรคไต ต้องดูเรื่องฟอตเฟตอีกทีหนึ่ง ซึ่งตรงนี้ยังไม่มีข้อมูลครับผม
ตอบ
ไม่ระบุชื่อ8 สิงหาคม 2555 เวลา 23:15
เป็นคนหนึ่งที่ทดลองกินไข่ดองน้ำส้มสายชูหมักสงสัยว่าทำไมถึงปากเป่ือยและขันตาไม่ยอมหายช่วยแนะนำวิธีแก้ไขให้หายด้วยขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ตอบ
kaidang9 สิงหาคม 2555 เวลา 20:40
– ขอทราบ อายุ โรคที่เป็น และกรรมวิธีการดอง น้ำส้มที่ใช้ และการทานด้วยครับ จะได้แนะนำได้ถูกต้อง
– การที่ปากเปื่อย เป็นแผล และมีขี้ตานั้น ก็มีเป็นกันบ้างครับ ซึ่งตามสูตรก็ได้บอกไว้แล้ว วิธีแก้คือหยุด แล้วรักษาโรคปากเปื่อยให้หายด้วยยาเขียวตาใบห่อครับ
– แล้วจะลองทานต่อวันเว้นวัน หรือลองเปลี่ยนเป็นน้ำส้มสายชูหมักจากผลไม้ชนิดอื่นที่มีกรดน้ำส้มน้อย ๆ ลงหน่อย สัก 4.2 % ดูก็ได้ครับ
– บางทีน้ำส้มที่ใช้ก็มีส่วนครับ อาจจะต้องใช้น้ำส้มที่ทำจากผลไม้ชนิดอื่น ผมเดาว่าคุณคงใช้ของไดมอนด์ที่หมักจากสับปะรด ฤทธิ์มันจะแรงครับ ร่างกายบางคนอาจจะรับไม่ได้ และอาจจะแพ้สับปะรดด้วยก็เป็นได้ อย่างผมก็แพ้สับปะรดเหมือนกัน ถ้าทานสับปะรดที่ไม่สุกหรือสุกแต่เนื้อเป็นสีขาวรสออกเปรี้ยวไม่ได้เลย จะมีตุ่มขึ้นที่ลิ้นแสบลิ้นและคันคอ ถ้าเป็นสับปะรดสุกฉ่ำก็ทานได้พอประมาณทานมากไม่ได้ มีตุ่มขึ้นที่ลิ้นเหมือนกัน และเคยอ่านในเน็ตเค้าบอกว่าสับปะรดที่ไม่สุกนั้นมีสารบางอย่างที่มีโทษต่อร่างกาย เราก็ไม่รู้ว่าเค้าเอาสับปะรดที่สุกหรือเปล่ามาหมัก แต่ส่วนใหญ่ที่ผมอยู่ใกล้กับบริษัท dole ชาวไร่จะตัดสับปะรดที่ยังไม่สุกออกจำหน่ายครับ แต่ยังไงก็เป็นเพียงแค่การคาดเดานะครับ
ตอบ
ไม่ระบุชื่อ10 สิงหาคม 2555 เวลา 21:09
คนป่วยโรคหัวใจอายุไม่ถึง 40 ปี ประมาณ 24-25 ปี จะรับประทานไข่ดองนี้ได้หรือไม่
ตอบ
kaidang10 สิงหาคม 2555 เวลา 22:41
– ผมยังยังไม่เคยให้คนที่เป็นโรคหัวใจทานนะครับ ผมเลยไม่ทราบผล
แต่ว่า มีการถามในห้องสวนลุมของเว็บพันทิป ผมขอนำมาลงบางส่วนนะครับ
เผื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ
.
ถาม: ไข่ดองน้ำส้มสายชู ตกลงมีประโยชน์รึป่าว
ดูในลิงค์เรื่องการแพทย์ไม่มีเลย พักนี้แม่ผมสนใจมาก หาข้อมูลหน่อยครับว่าดีจริงไหม เพราะกินแบบดิบๆด้วย
.
ตอบ(ความเห็นที่3 โดยคุณ SweetJanuary :
อาเจ็กผม เส้นเลือดหัวใจอุดตันแต่หมอยังไม่ทำบอลลูนให้
เพราะเป็นไม่เยอะ กินไข่ดองไป 20 กว่าฟอง ตอนนี้ไม่ต้องผ่าแล้ว
ส่วนป้าข้างบ้านนิ้วล็อค อาเจ็กแนะนำให้กินไข่ดอง กินไปแค่ 8 ฟอง
ก็ดีขึ้นเลย
ปกติไข่ดิบกินได้นะครับ คนญี่ปุ่นมักใช้ไข่ดิบจิ้มเป็นนํ้าจิ้ม Sukiyaki
(Sukiyaki ของเค้าไม่เหมือนของเราครับ)
.
– ลิ้งค์ที่มา
http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L12427976/L12427976.html
(เว็บพันทิปมักลบกระทู้ไวมาก ต่อไปอาจจะเข้าไม่ได้นะครับ)
– ส่วนเรื่องอายุ 24-25