เลิกเป็นคนดีแล้วจะมีความสุข
.
▪️ 1. เลิกกลัวการถูกเกลียดเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเครียดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เช่น เอาแต่กลัวว่า ถ้าเราทำแบบนี้ เขาจะหมั่นไส้เราไหม เขาจะไม่พอใจเราหรือเปล่า สุดท้าย เอาแต่กลัวจนเราไม่กล้าทำอะไร
▪️2. เลิกใช้ชีวิตในแบบที่สังคมคิดว่าควรจะเป็น เช่น สังคมบอกว่า ต้องมีลูกนะ ต้องแต่งงานนะ ถึงจะดี ต้องมีบ้านหลังใหญ่นะ ถึงจะดูร่ำรวย ทั้งที่ใจเราคือ ไม่ได้อยากมีลูก อยากมีบ้านหลังพอประมาณ จะได้ไม่เหนื่อยทำความสะอาด แต่เรากลับไปฟังเสียงของสังคม จนเราไม่เป็นตัวของตัวเอง
▪️3.เลิกกลัวการต้องอยู่คนเดียว เพราะว่าสุดท้ายแล้วคนเราสามารถใช้ชีวิตได้ด้วยลำแข้ง กำลังและการตัดสินใจของตัวเอง และจำไว้เสมอว่า ปัญหาที่เข้ามาหาเรา คนที่จะช่วยแก้ไขและข้ามมันได้ ก็คือ เรานั้นแหละ
▪️4.เพื่อนไม่ดีก็ไม่จำเป็นต้องคบ เราไม่จำเป็นจะต้องคีบความสัมพันธ์ทั้งหมด ไม่ต้องไปกังวลว่า ถ้าเราออกห่างเขา เขาจะเอาเรื่องเราไปว่าร้ายหรือเปล่า (เพราะสุดท้ายเขาจะทำไม่ทำมันก็เรื่องของเขา) แต่การที่เรามัวอยู่กับคนที่ไม่ดี มีแต่จะบั่นทอนตัวเองเปล่าๆ
▪️5.ไม่จำเป็นต้องเสียสละตัวเอง หรือให้เขามาเอาเปรียบเราซ้ำๆ เพราะบางทีการพูดคุย เจรจา หาข้อตกลงกับผู้อื่นก็อาจสามารถแก้ปัญหาได้เหมือนกัน
▪️6.เราไม่จำเป็นต้องเอาใจทุกคนเพื่อที่จะได้เป็นที่ชื่นชอบ และจำไว้ว่า การจะทำให้ไม่ถูกใครเกลียดเลยเป็นเรื่องยาก เพราะเราทำสิ่งใด มันย่อมมีคนเห็นต่าง มองต่างอยู่ทุกที ทุกเรื่อง
▪️7.อย่าเหนื่อยล้าไปกับความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นประโยชน์ หลายคนที่เหนื่อยกับความสัมพันธ์ที่คบกันไปมีแต่ถอยหลัง ทั้งบั่นทอน เอาเปรียบ เสียสุขภาพจิต และก็คิดแต่ว่า ถ้าเราทำดีกับเขา เขาจะดีกับเรา มันไม่ใช่
▪️8.รู้จักปฏิเสธให้เป็น และเลิกเกรงใจจนเกินเหตุ เพราะบางคน พอเห็นว่าเราใช้งานง่าย หรืออะไรก็ได้ เขาก็จะไม่ได้มองความรู้สึกเราเลย เผลอๆ เขาคิดด้วยซ้ำว่า จะพูด จะวาน จะทำอะไรกับเราก็ได้ เพราะเราคงไม่โกรธ ไม่ว่า ไม่วีนเหมือนคนอื่นๆ
▪️9.การมีเพื่อนน้อยแต่พูดคุยกันได้ทุกเรื่อง
สำคัญกว่าการมีเพื่อนเยอะและคบกันแค่ผิวเผิน
▪️10.ช่างหัวมันบ้างกับเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง และที่สำคัญสุดเลยคือ การเอาตัวออกห่างจากคนที่คิดว่าตัวเองถูกอยู่เสมอ เพราะอยู่ไปตัวเรานี่แหละที่จะกดตัวเอง เพราะคำพูดเขาวนเวียนในหัว ว่าเราเป็นคนที่ทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง