• November 1, 2025

    เครดิตภาษีเงินปันผล (Dividend Tax Credit) เป็นสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ถือหุ้นที่ลงทุนในบริษัทไทยที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทย เพื่อป้องกันการเก็บภาษีซ้ำซ้อน 

    ตัวอย่างการคำนวณเครดิตภาษีเงินปันผล 

    สมมติฐาน: 

    • คุณได้รับเงินปันผลสุทธิ (หลังหักภาษี ณ ที่จ่าย 10%) จำนวน 9,000 บาท
    • บริษัทจ่ายเงินปันผลจากกำไรที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 20% 

    ขั้นตอนการคำนวณ: 

    1. คำนวณเงินปันผลก่อนหักภาษี ณ ที่จ่าย (เงินปันผลทั้งหมด):
      เงินปันผลที่ได้รับ 9,000 บาท คือ 90% ของเงินปันผลทั้งหมด (เพราะถูกหัก ณ ที่จ่ายไป 10%)
      =9,000/(100−10)×100=10,000
    2. คำนวณเครดิตภาษีเงินปันผล:
      นำเงินปันผลทั้งหมด (10,000 บาท) มาคำนวณเครดิตภาษีตามสูตร:
      =10,000*(20/100−20)=2,500
      หรือคำนวณจากเงินปันผลสุทธิ (9,000 บาท):
      9,000*(20/100−20)×(100/90)≈2,500
    3. รวมเงินได้เพื่อยื่นภาษี:
      ต้องนำเงินปันผลทั้งหมด (10,000 บาท) มารวมเป็นรายได้เพื่อคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามอัตราก้าวหน้า
    4. คำนวณภาษีที่ต้องจ่ายจริง:
      สมมติว่าฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของคุณอยู่ที่ 15%
      =10,000×15%=1,500
    5. หักเครดิตภาษีและภาษีหัก ณ ที่จ่าย:
      นำเครดิตภาษี (2,500 บาท) และภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้แล้ว (1,000 บาท) มาหักออกจากภาษีที่ต้องจ่ายจริง (1,500 บาท)
      /=− −
      /=1,500−1,000−2,500=-2,000

    ผลลัพธ์: ในกรณีนี้ คุณจะมีสิทธิได้รับภาษีคืนจากกรมสรรพากร 2,000 บาท เพราะภาษีที่ถูกหักและเครดิตภาษีรวมกันสูงกว่าภาษีที่ต้องจ่ายจริง 

    ข้อควรทราบ 

     เครดิตภาษีเงินปันผลคืออะไร?

    เครดิตภาษีเงินปันผลคือสิทธิพิเศษทางภาษีที่ผู้ถือหุ้นได้รับ เมื่อบริษัทนำกำไรหลังหัก ภาษีเงินได้นิติบุคคล มาจ่ายเป็นเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น โดยปกติเงินปันผลจะถูกหัก ภาษีเงินปันผล ณ ที่จ่าย 10% ทันที ซึ่งเท่ากับว่า “กำไรจากกิจการก้อนเดียว” ถูกเก็บภาษีถึง 2 รอบ ได้แก่

    1. รอบแรก: บริษัทเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไร
    2. รอบสอง: ผู้ถือหุ้นถูกหักภาษีเงินปันผลอีก 10%

    เพื่อป้องกันการเสียภาษีซ้ำซ้อน รัฐบาลจึงให้สิทธิ เครดิตภาษีเงินปันผล โดยผู้ถือหุ้นสามารถนำเครดิตนี้ไปใช้เป็น “ภาษีที่ชำระแล้ว” เพื่อขอคืนหรือใช้หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้

    เงินปันผล 360 นี้ เกิดขึ้นหลังจากหักภาษีนิติบุคคล 20% เรียบร้อยแล้วจึงนำมาจ่ายผู้ถือหุ้น
    ส่วน 10% ที่หักไปนั้น เป็นภาษีหัก ณ ที่จ่าย ไม่ใช่ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

    ดังนั้นถ้าฐานภาษียังไม่เสียภาษีจะเอาคืนได้ทั้งภาษีหัก ณ ที่จ่ายและภาษีที่นิติบุคคลเสียไป 20% หรือที่เรียกว่าเครดิตภาษีนั่นเอง

    จากตัวอย่างแรก ถ้าหากไม่ถูกหักภาษีนิติบุคคล 20% ไปก่อน เราควรจะได้เงินปันผล 360/(1-0.2) = 450 บาท แสดงว่า สรรพากรหักเงินภาษีนิติบุคคลจากส่วนที่เป็นเงินปันผลของเราไปจำนวน 450-360 = 90 บาท และหักภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% จากเงินปันผล 360 อีก 36 บาท รวม 2 ส่วน เท่ากับ เรามีสิทธิ์ขอคืนภาษี 90+36 = 126 บาท

    ปล. ถ้าต้องการจะขอคืนเงินภาษี เราต้องนำหุ้นทุกตัวที่เราได้รับเงินปันผลในปีนั้นมาคำนวณรวมเป็นเงินได้ของเรา ไม่สามารถเลือกขอคืนภาษีเงินปันผลเพียงบางบริษัทได้

    เนื่องจากเครดิตภาษีมีหลายตัว และทางสรรพากรให้เราเลือกว่าจะนำมาคำนวณภาษีหรือไม่ ถ้าไม่นำมาคำนวณก็ต้องไม่นำมาคำนวณทั้งหมด จะแบ่งเอาบางฉบับมาคำนวณไม่ได้
    3% 10% 15% 20% 23% 25% 30% อื่นๆ

    บางคนมีเป็นสิบๆใบซึ่งแต่ละใบเครดิตภาษีไม่เท่ากัน ให้แยกกันก่อนคำนวณเครดิตภาษี ว่ามีกี่เปอร์เซ็นบ้างและนำมาบวกแต่ละประเภทก่อนแล้วค่อยนำมาคูณหาเครดิตภาษี
    สมมติว่า
    ตัว 3% รวมกันแล้วได้(รวม หัก ณ ที่จ่ายด้วย) 20,000 ก็เอา 20,000×3/97 = 618.56
    ตัว 10% รวมกันแล้วได้15,000 ก็เอา 15,000×10/90 = 1,666.67
    ตัว 20% รวมกันแล้วได้ 32,000 ก็เอา 32,000×20/80 = 8,000

    ให้นำมารวมกันทั้งสองส่วนคือ
    ส่วนที่ 1 ; 20,000+15,000+32,000 = 67,000 บาท
    ส่วนที่ 2 ; 618.56+1,666.67+8,000= 10,285.23 บาท

    ให้นำมาใส่ในแบบคำนวณภาษี
    ส่วนที่ 1 ใส่ช่องที่ 4 (เงินปันผลฯ)
    ส่วนที่ 2 ใส่ช่อง 5 (เครดิตภาษี)

    สรุป

    1. การเสียภาษีซ้ำซ้อน (Double Taxation):
      • รอบแรก: บริษัทที่จ่ายเงินปันผลได้จ่าย ภาษีเงินได้นิติบุคคล จากกำไรสุทธิไปแล้วครั้งหนึ่ง
      • รอบสอง: เมื่อบริษัทนำกำไรส่วนที่เหลือมาจ่ายเป็นเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น (นักลงทุน) ผู้ถือหุ้นจะต้องถูกหัก ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย อีก 10% ทันที (หรือนำไปรวมคำนวณภาษีปลายปี)
    2. บทบาทของเครดิตภาษี:
      • เพื่อบรรเทาความซ้ำซ้อนนี้ รัฐบาลจึงให้สิทธิผู้ถือหุ้นสามารถขอ เครดิตภาษีเงินปันผล คืนได้ โดยเป็นการนำภาษีเงินได้นิติบุคคลที่บริษัทได้จ่ายไปแล้ว มารวมคำนวณเป็นรายได้ของผู้ถือหุ้นก่อน จากนั้นจึงนำเครดิตภาษีที่คำนวณได้มาหักออกจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ต้องจ่าย
    3. ทางเลือกสำหรับผู้ถือหุ้น (บุคคลธรรมดา): ผู้ถือหุ้นมีทางเลือกในการยื่นภาษีเงินปันผล 2 ทาง คือ:
      • ทางเลือกที่ 1: “หัก-จ่าย-จบ”
        • ยอมให้หักภาษี ณ ที่จ่าย 10% และ ไม่ นำเงินปันผลส่วนนี้มารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตอนสิ้นปี
        • ไม่สามารถ ขอเครดิตภาษีเงินปันผลได้
      • ทางเลือกที่ 2: “นำมารวมคำนวณภาษีและขอเครดิตภาษี”
        • นำเงินปันผลที่ได้รับ ทั้งหมด มารวมคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามอัตราก้าวหน้า
        • สามารถ ใช้สิทธิขอเครดิตภาษีเงินปันผลได้
    4. ใครควรใช้สิทธิเครดิตภาษี:
      • โดยทั่วไป ผู้ที่มีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ต่ำกว่า อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่บริษัทจ่ายไป (เช่น 20%) มักจะได้รับประโยชน์จากการขอเครดิตภาษี เพราะมีโอกาสได้ภาษีคืน

    ข้อควรระวัง:

    ภาพที่แสดงให้เห็นหลักการของ Dividend Tax Credit:



เวอไนน์ไอคอร์ส

ประหยัดเวลากว่า 100 เท่า!






เวอไนน์เว็บไซต์⚡️
สร้างเว็บไซต์ ดูแลเว็บไซต์

Categories


Uncategorized