• August 21, 2018
    “ความไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ”

    การก่อหนี้สินขึ้นมาผูกมัดตัวเองนั้น ย่อมอยู่บนความจำเป็นของแต่ละคน นานาเหตุลผลกันไปที่มีไม่เหมือนกันแต่คล้ายกัน แต่บนหนทางสู่ความเป็นหนี้ควรจะมีแค่เพียงความจำเป็นที่ผ่านการคิดวิเคราะห์มาแล้วหลายชั้น

    การนำเงินในอนาคตมาใช้ในปัจจุบันอยู่บนความเสี่ยงของชีวิตที่ไม่แน่นอน เพราะไม่แน่ว่าแหล่งรายได้ที่เคยมีอยู่ และใช้รับรองหนี้สินในปัจจุบันอาจหายไป คุณอาจตกงาน กิจการที่ทำอยู่ขาดทุน สภาพเศรษฐกิจแย่ลง หรือเจ็บป่วยจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ เช่นนี้แล้วหนี้สินที่มีอยู่จะ กลายมาเป็นปัญหาสำคัญในอันดับต้น ๆ ที่จะทำให้เครียด จนอาจถึงขั้นทำอะไรลงไปแบบไม่ยั้งคิด ซึ่งมีผลต่อตัวเองและครอบครัว ดังจะเห็นได้จากข่าวของคนที่คิดไม่ตกเรื่องหนี้สิน และคิดว่าชีวิตนี้จะไม่มีทางออกนอกจากการลาโลก

    ถ้าคุณไม่อยากมองเห็นภาพอนาคตของตัวเองเป็นดังที่กล่าวมา ก็ควรเริ่มต้นตั้งแต่วันที่หนี้ยังไม่เกิดหรือมีน้อยอยู่ ด้วยการคิดให้รอบด้านในมุมมอง 360 องศา ก่อนจะนำเงินคนอื่นมาใช้ และเพื่อความ ปลอดภัยในอนาคตของคุณ คุณควรเปลี่ยนความอยากที่เกิดขึ้นในขณะยังไม่พร้อมด้านการเงินมาเป็นความต้องการเมื่อมีเงินพร้อม

    หากชีวิตนี้มีหนี้อยู่แล้ว การเริ่มต้นเก็บเงินเริ่มได้จากการทำบัญชี รายรับ-รายจ่ายในแต่ละเดือน เพื่อสำรวจดูว่านอกจากหนี้สิน และรายจ่ายหลัก ๆ ที่ต้องชำระในแต่ละเดือนแล้วยังมีเงินที่พอจะนำกลับมาเก็บไว้ได้อีกหรือไม่ มีช่องโหว่จากการใช้เงินบ้างหรือเปล่า จากนั้นหาทางอุดรอยรั่วที่เกิดขึ้นด้วยการลด ละ เลิก และนำเงินส่วนที่เคยรั่วไหลไปด้วยเรื่องไม่สมควรแก่การสูญเสียเงินทอง มาเป็นเงินเก็บ ในแต่ละเดือนคุณอาจตั้งเป้าไว้ก่อนว่าเดือน ๆ หนึ่งคุณจะเหลือเงินเก็บได้เท่าไร โดยที่คุณยังมีรายจ่ายและรายรับเท่าเดิม

    คุณควรเริ่มต้นด้วยการออมเงินวันละเล็กน้อย ในเดือนหนึ่ง ๆ อาจเก็บได้แค่ 500 บาทก็อย่าพึ่งถอดใจจากยอดเงินที่อุตส่าห์เก็บออมได้ เงินเก็บเดือนละเล็กน้อยเหล่านี้ จะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้เพียงคุณอดทนรอคอย และมีวินัยในการออมอย่างสมํ่าเสมอ สมมติว่า คุณเก็บเงินได้เดือนละ 500 บาทถ้าคุณอดทนเก็บสะสมไปเรื่อย ๆ ในอีก 5 ปีข้างหน้า คุณจะมีเงินถึง 30,000 บาทของยอดเงินที่คุณเหลือเก็บเพียง 500 บาทต่อเดือน

    อย่ามัวแต่ผัดวันประกันพรุ่ง แบบเข้าข้างตัวเองว่าจะมีเงินเก็บก้อนโต ก็ต่อเมื่อชีวิตคุณปลอดหนี้เสียแล้ว ถ้ามัวแต่รอและคิดเช่นนี้ เงินก้อนโตที่คิดว่าจะมีเก็บเมื่อชีวิตไม่มีหนี้อาจเป็นเพียงแค่ความฝันในวันหนึ่ง ซึ่งบางครั้งคุณก็ยังไม่รู้ว่าวันไหนที่หนี้จะหมดไปจริง ๆ

    ถ้าในวันที่ชีวิตไร้หนี้แล้ว คุณเริ่มหมดเรี่ยวแรงและไฟในการทำงานหาเงิน หรือบางทีคุณอาจจะมีเหตุให้ทำงานหาเงินไม่ได้ไปเสียก่อนจะหมดหนี้ ซํ้าร้ายยังไม่มีเงินเก็บสำรองยามชีวิตเปลี่ยนผัน ไหนจะหนี้สินรุมเร้าอีก แล้วคุณจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อถึงตอนนี้คุณอาจจะพบว่าชีวิตคุณมีแต่ทางตันไร้ซึ่งทางออก แต่ถ้าคุณเริ่มต้นออมเสียตั้งแต่วันนี้ หนทางข้างหน้าของคุณจะไม่ตีบตันจนหาทางอกไม่เจอ เมื่อตอนนี้คุณสามารถคิดให้ยาวเผื่อวันข้างหน้าได้

    อย่ารั้งรอให้หนี้หมดแล้วค่อยอดออม เพราะหนี้สินแต่ละอย่างที่ก่อขึ้นนั้นกินเวลาในชีวิตคุณไปไม่ตํ่ากว่า 8,640 ชั่วโมง (1 ปี) แล้วจะปล่อยให้เวลาเหล่านี้ผ่านเลยไปโดยไม่คิดจะทำอะไรเพื่อความมั่นคงของอนาคตบ้างเลยหรือ…



เวอไนน์ไอคอร์ส

ประหยัดเวลากว่า 100 เท่า!






เวอไนน์เว็บไซต์⚡️
สร้างเว็บไซต์ ดูแลเว็บไซต์

Categories


Uncategorized