ตอนอายุประมาณสี่ขวบ พ่อพาผมไปเล่นบ้านคุณอา
ผมเห็นโมเดลเครื่องบินก็ชอบได้ ฉวยโอกาสตอนที่ทุกคนไม่สังเกตขโมยมาซ่อนไว้
ตอนที่อยู่บนรถกำลังกลับบ้าน ผมเก็บความลับไว้ไม่ไหว
บอกพ่อว่าผมขโมยเครื่องบินจำลองของคนอื่นมา
หลังจากเงียบไปสักพัก พ่อก็ค่อยๆพูดกับผมด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า :
“พวกเราเอาเครื่องบินกลับไปคืนคุณอากัน อีกหน่อยพ่อค่อยซื้อลำใหม่ให้”
ผมเกิดความละอายขึ้นในใจ แล้วก็ร้องไห้ออกมา
พอกลับไปถึงพ่อก็ทำได้แค่พูดนิ่งๆว่า :
“ขอโทษจริงๆ ลูกชายไม่ระวังก็เลยหยิบของเล่นติดมือไปด้วย นี่เอามาคืนนะ”
เรื่องก็ผ่านไปง่ายๆแบบนี้
ผมไม่ได้รับบทลงโทษอะไรเลย แล้วพ่อก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้กับใคร
คุณพ่อผู้ชาญฉลาดผู้นี้ทำอะไร?
พ่อเลือกที่จะไม่ใช้คำว่า “ขโมย” ในการอธิบายถึงการกระทำของลูกชาย
พ่อไม่ตำหนิ ไม่สั่งสอน แต่ให้ลูกชายคิดเอง
แม้ว่าลูกชายจะยังเล็กมาก แต่ว่าเค้ามีความเคารพในตัวเอง มีความละอายต่อการทำผิด
เมื่อคิดว่าลูกคงไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองทำเรื่องน่าละอายนี้
คุณพ่อก็เลือกที่จะไม่บอกให้ใครรู้ เป็นการเคารพในตัวลูกชายด้วย
เมื่อลูกทำผิด คนเป็นพ่อแม่ต้องควบคุมอารมณ์ อย่าปล่อยให้ความโกรธครอบงำ ทำให้ลูกรู้สึกว่าเป็นความผิดติดตัว ใจเย็นๆค่อยๆคิดว่าจะจัดการกับพฤติการของลูกอย่างไร ถึงจะไม่ทำให้มีผลกระทบในด้านลบกับตัวเด็กเมื่อเค้าโตขึ้น