• May 20, 2021
    สาร / วิธีเวลา (min)ลดสารพิษ
    แช่น้ำ
    (การแช่ผักทำให้สารเคมีวนเวียนอยู่ในน้ำที่แช่ ควรให้น้ำไหลผ่านผัก)
    157-33%
    ให้น้ำไหลผ่าน2-325-63%
    ปอกเปลือก/ลอกใบชั้นนอก(ล้างน้ำอีกครั้ง)27-72%
    ล้าง แล้ว ลวก/ต้มเสียคุณค่าทางอาหาร50%
    แช่น้ำเกลือ 1ช้อนโต๊ะ:น้ำ4ลิตรไม่นิยม27-38%
    น้ำส้มสายชู เข้มข้น 5% : น้ำ 10ส่วน10-15 นาที60-84% 
    เบกกิ้งโซดา (โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium bicarbonate))เรียกว่า “โซดาทำขนมปัง” แต่มีชื่อว่า “เบกกิ้งโซดา” (Baking Soda) 

    (เบกกิ้งโซดามีส่วนผสมโซเดียม อาจดูดซึม ถ้าล้างไม่สะอาด รับเบกกิ้งโซดามากเกินอาจท้องเสีย)
    1/2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 10 ลิตร 15 นาที

    ล้างออกด้วยน้ำเปล่า 2 ครั้ง
    90-95%
    ผงฟู (Baking Powder) (เบกกิ้งโซดา + แป้ง)
    15 นาที
    ผงฟู 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำ 10 ลิตร
    > 90%
    น้ำยาล้างผัก15 นาที
    เลือกใช้ที่มีความเข้มข้นประมาณ 0.3% ในน้ำ 4 ลิตร
    25-70%
    น้ำยาล้างจานหรือน้ำยาล้างขวดนม
    ฟองน้ำถูเบา ๆ ลดเชื้อได้มากกว่า 95%
    ผงถ่าน – ผงถ่านแอคติเวทชาร์โคลหรือผงคาร์บอนกัมมันต์ (activated carbon) หรือถ่านกัมมันต์ (activate chacoal) เป็นวัสดุคาร์บอนซึ่งมีเนื้อพรุน มีคุณสมบัติในการดูดซับสูงมาก ทำให้มันสามารถจับสารในปริมาณมากมายไว้ที่ผิว จึงนำมาใช้ประโยชน์ในการล้างผักผลไม้ได้ ช่วยดูดกลิ่น ดูดสี ดูดซับสารพิษออกจากผัก แต่จะไม่ดูดซับแร่ธาตุออกไป

    ร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึมผงถ่านได้ จึงไม่เป็นอันตรายเพราะร่างกายขับออกได้ หากใช้ในปริมาณน้อยและแช่ไว้ไม่นานพอ ก็จะไม่สามารถดูดซับสารพิษออกมาได้หมด
    ใช้ผงถ่าน 1 ช้อนชา ต่อน้ำ 5 ลิตร แล้วนำผักผลไม้มาแช่ไว้ประมาณ 20 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด
    ด่างทับทิม (Potassium Permanganate)
    สูดดมไอระเหยของด่างทับทิมมากๆ สัมผัสเข้าตา อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและตา 
    20-30 เกล็ด ผสมกับน้ำประมาณ 4 ลิตร 10นาที

    เบคกิ้งโซดา เป็นชื่อสามัญ ชื่อทางเคมีคือ โซเดียม ไบคาร์บอเนต
    ใช้เป็นส่วนผสมหลักในผงฟู เพราะผงฟูจะใช้กลไกลการเกิดฟองของคาร์บอเนต กลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ โดยใช้กรดเป็นตัวทำให้เกิดปฏิกิริยา
    ผงฟู = เบคกิ้งโซดา + ครีม ออฟ ทาร์ทา (คือกรด จำชื่อเคมีไม่ได้) + แป้งข้าวโพด

    เป็นสาร ออกซิไดซ์เหมือนกัน แต่ด่างทับทิมแรงกว่า
    ด่างทับทิม = โปแทสเซียม เปอร์มังกาเนต
    ตัวออกซิไดซ์จะแตกตัว ทำให้โครงสร้างของสารตัวอื่นเสียไป จึงไปลดฤทธิ์ของยาฆ่าแมลง

    อันดับ1 ด่างทับทิม
    อันดับ2 เบคกิ้งโซดา
    แต่เบคกิ้งโซดา ใช้ง่ายกว่าด่างทับทิม
    ด่างทับทิมต้องใช้น้อยๆ ไม่งั้นผักผลไม้เป็นสีน้ำตาลหรือเหี่ยว เปื้อนมือ เปื้อนอ่าง
    เบคกิ้งโซดา เอาไว้หมักหมูก็ได้ ใส่แป้งทอดกรอบก็ได้
    เพราะเบคกิ้งโซดาไปแย่งน้ำไม่ให้เข้าไปในเม็ดแป้ง เม็ดแป้งเลยไม่บวม ไม่สุก ทำให้ทอดออกมาแล้วกรอบ

    น้ำยาล้างจานหรือน้ำยาล้างขวดนม ตัวนี้ลดการปนเปื้อนที่ผิวหรือเปลือกได้ และลดการปนเปื้อนของเชื้อได้มากกว่า 95%

    ข้อสังเกตุ

    ขึ้นอยู่กับ ชนิดสารเคมีกำจัดแมลง ลิ้งค์นี้เป็นสรุปผล จากงานวิจัยของไทย
    http://kmfda.fda.moph.go.th/Journal/Chapter/3/27_35_C4_1.59.pdf

    สารเคมี ออร์กาโนฟอสเฟต ลดได้ ร้อยละ 71.9 – 74.6
    สารเคมี ออร์กาโนคลอรีน ลดได้ ร้อยละ 34.2 – 48.2

    ที่บอกว่าลดได้ ร้อยละ 90 – 95 นั้นต้องละลาย โซเดียมไบคาร์บอเนต ในน้ำอุ่น แล้วแช่ 15 นาที
    เพราะโซเดียมไบคาร์บอเนตละลายในน้ำอุ่นได้ดีกว่า และน้ำอุ่นมีส่วนช่วยขจัดสารเคมีกำจัดแมลงได้

    โซเดียมไบคาร์บอเนต

    โซเดียม ไบคาร์บอเนต มีความเป็นพิษต่ำ ร่างกายสามารถทำปฏิกิริยาสะเทินกับกรดในกระเพาะอาหาร
    การได้รับสารโดยการรับประทานในปริมาณเล็กน้อยไม่ก่อให้เกิดอันตราย
    ค่าความเป็นพิษของโซเดียม ไบคาร์บอเนตพบว่าปริมาณสารที่ทำให้หนูตายร้อยละ 50 เมื่อให้โดยการรับประทานมีค่าเท่ากับ 4420 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

    หากสัมผัสผงของโซเดียม คาร์บอเนทเข้าไปโดยตรง เช่น โดยการหายใจเข้าไปจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจและเยื่อบุเมือก ในกรณีที่สัมผัสทางผิวหนังโดยเฉพาะที่มีแผลเปิดและบริเวณตาจะก่อให้เกิดการระคายเคือง สารนี้จัดว่ามีความปลอดภัยสูงและไม่ได้อยู่ในรายชื่อของสารก่อมะเร็ง

    more
    https://pantip.com/topic/34347573

    สารเคมีแต่ละตัวจะมีคุณสมบัติในการยึดเกาะตัววัตถุต่างกัน ดังนั้น วิธีล้างสารพิษแต่ละชนิดจึงต่างกัน สารพิษบางชนิดละลายได้ในน้ำมัน บางชนิดไม่สามารถทำลายด้วยความร้อน และที่สำคัญมากที่ไม่ค่อยมีการพูดถึง คือ สารเคมีบางตัวเป็นชนิดดูดซึม พืชจะดูดซึมสารนี้เข้าไป ซึ่งล้างไม่ออก



เวอไนน์ไอคอร์ส

ประหยัดเวลากว่า 100 เท่า!






เวอไนน์เว็บไซต์⚡️
สร้างเว็บไซต์ ดูแลเว็บไซต์

Categories


Uncategorized