• June 3, 2017

    มาตรฐาน W3C
    Validation
    การเอาใจใส่ มาตรฐาน W3C เพื่อได้มาซึ่ง ไอเจ้า W3C ถามว่าเอาไปทำอะไร ทำเพื่ออะไร ??
    ไม่บอกหรอก ขอถามกลับ แล้วคุณจะ นั่งปรับแต่ง web ให้ถูกหลัก SEO เพื่ออะไรละ ??

    มาบอกทำไมนิ อ่านแล้วจะไปตรวจสอบที่ไหนละ ??
    ก็ไปตรวจสอบ web นี้ http://validator.w3.org/ มันจะมีให้ใส่ url ก็ใส่ไป
    มันจะแจ้งมาว่า web เรามัน error กี่จุดก็ดูที่มันฟ้องแล้วแก้ไปตามนั้น

    เอาละมาเรียนรู้การแก้ไขไอตรงที่มันบอกว่าผิด กัน มันฟ้องไรก็ดูตามนั้น

    คำฟ้อง : Missing DOCTYPE Declaration
    วิธีเอาใจใส่ : เว็บคุณอ่ะไม่ได้ประกาศประเภทของเอกสารไว้ในตอนต้นของเอกสาร จึงไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารต่อไปได้ เนื่องจากไม่ทราบว่าเป็นเอกสารอะไร เวอร์ชันใดและต้องการการตรวจสอบแบบใด

    คำฟ้อง : Tag omitted ( ไอพวกปิดแท็กทั้งหลายละ )
    วิธีเอาใจใส่ : มีความผิดพลาดในการ เปิดปิดแท็กของคำสั่งนั้นๆ ในกรณีนี้หมายถึงเปิดแท็กไว้ แต่ไม่ได้ปิด จึงควรตรวจดูว่ามีการปิดแท็กครบหรือไม่ ในบางกรณีอาจเกิดจากการปิดแท็กผิดที่ จึงทำให้ตัวตรวจสอบหาแท็กปิดไม่พบและแสดงข้อผิดพลาดออกมา

    คำฟ้อง : ที่เกี่ยวกับ element … undefined
    วิธีเอาใจใส่ : เกิดจากการใช้แท็กที่ไม่อนุญาตให้ใช้ตามประเภทและเวอร์ชันของเอกสาร (โดยมากมักไม่อนุญาตเพราะแท็กที่ใช้ในการตกแต่งและไม่มีความหมายเชิงโครงสร้างหรือวลี) เช่น XHTML เวอร์ชัน 1 ไม่อนุญาตให้ใช้แท็ก <marquee> และวิธีการแก้ปัญหาคือการนำแท็ก <marquee> ออกไปและให้มาร์กอัพโดยแท็กอื่น ๆ ที่มีความหมายเชิงโครงสร้างมากกว่า

    คำฟ้อง : ที่เกี่ยวกับ document type does not allow element … here
    วิธีเอาใจใส่ : เกิดการจากใช้แท็กผิดที่ เช่น การใช้แท็ก <style> ใน <body> ซึ่งไม่สามารถทำได้ เพราะแท็ก <style> ต้องใช้ในส่วน <head> ของเอกสารเท่านั้น

    คำฟ้อง : Required attribute “alt” not specified
    วิธีเอาใจใส่ : เกิดจากการไม่ใส่คำอธิบายภาพ ให้ตรวจสอบดูว่ามีการใส่คำอธิบายภาพในแท็ก <img> หรือไม่

    คำฟ้อง : ที่เกี่ยวกับ Attribute “…” is not a valid attribute
    วิธีเอาใจใส่ : เกิดจากการใช้ แอตทริบิวต์ที่ไม่อนุญาตให้ใช้ตามประเภทและเวอร์ชันของเอกสาร หากปรากฎแอตทริบิวต์เช่นนั้นให้เอาออก โดยมากปัญหาที่พบคือการใช้แอตทริบิวต์สำหรับการตกแต่งเช่น “bordercolor” เพื่อทำสีเส้นขอบ ในกรณีเช่นนี้ให้ใช้ CSS ในการตกแต่งแทน

    คำฟ้อง : document type does not allow element “…” here; missing one of …
    วิธีเอาใจใส่ : เกิดจากการใช้แท็กผิดวัตถุประสงค์หรือผิดที่ เช่น การใช้แท็ก <ul> ในแท็ก <p> หรือการใช้แท็ก <div> ในแท็ก <a> เป็นต้น มีข้อควรจำว่า เราไม่สามารถใช้ Block Element ใน Inline Element ได้ และใน Block Element ด้วยกันนั้น บางแท็กก็ไม่สามารถซ้อนอยู่ในอีกแท็กหนึ่งได้ แต่บาง Block Element สามารถใช้ซ้อนกันได้ ต้องศึกษาข้อกำหนดของเอกสารประเภทนั้น ๆ เสียก่อน

    คำฟ้อง : ที่เกี่ยวกับ Attribute “onMouseOver” is not a valid attribute. Did you mean “onmouseover”?
    วิธีเอาใจใส่ : เกิดจากการใช้ชื่อแอตทริบิวต์เป็นอักษรตัวใหญ่หรือผสมกันระหว่างอักษรตัวใหญ่และตัวเล็ก ในข้อกำหนดของ XHTML นั้น ชื่อแอตทริบิวต์ต้องเป็นตัวอักษรตัวเล็กทั้งหมด

    คำฟ้อง : No Character Encoding Found! Falling back to UTF-8.
    วิธีเอาใจใส่ : เกิดจากการไม่ได้ระบุรหัสอักขระ ในกรณีเช่นนี้จะไม่สามารถตรวจสอบต่อไปได้ ให้ตรวจดูว่ามีการกำหนดรหัสอักขระในแท็ก <html> หรือไม่

    คำฟ้อง : Unable to Determine Parse Mode!
    วิธีเอาใจใส่ : ไม่สามารถระบุได้ว่าจะใช้วิธีการใดในการตรวจสอบเอกสาร ซึ่งเกิดจากการไม่ระบุประเภทเอกสาร หรือชื่อประเภทเอกสารไม่ถูกต้อง

    คำฟ้อง : XML Parsing Error: attributes construct error
    วิธีเอาใจใส่ : เกิดจากรูปแบบของแอตทริบิวต์ไม่ถูกต้อง ให้ตรวจสอบดูว่าได้ใส่ค่าของแอตทริบิวต์ไว้ใน “…” หรือไม่

    w3C
    เวิลด์ไวด์เว็บคอนซอร์เทียม (อังกฤษ: World Wide Web Consortium: W3C) คือองค์กรระหว่างประเทศทำหน้าที่จัดระบบมาตรฐานที่ใช้งานบนเวิลด์ไวด์เว็บ (ย่อว่า WWW หรือ W3) โดยมีจุดมุ่งหมาย ที่จะเป็นแกนนำทางด้านพัฒนาโพรโทคอล และวิธีการใช้งานสำหรับเวิลด์ไวด์เว็บทั้งหมด นอกจากนี้ทาง W3C มีการบริการทางการศึกษา การพัฒนาซอฟต์แวร์ และเปิดให้ใช้ฟอรัมในการปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องเว็บ

    เรื่องของ DOCTYPE ในเว็บเพจ
    มีใครใช้โปรแกรม Dreamweaver หรือโปรแกรมสร้างเว็บเพจใด ๆ แล้วสังเกตกันบ้างไหมว่า โปรแกรมเหล่านี้จะเปิดหัวเอกสารของเว็บเพจในส่วนของ CODE ให้เราที่บรรทัดแรกสุดเป็นข้อความประมาณว่า
    <!DOCTYPE html PUBLIC “-//W3C//DTD XHTML 1.0 Transitional//EN” “http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-transitional.dtd”>
    มีใครสงสัยไหมครับว่า ทำไมโปรแกรมต้องสร้างโค้ดนี้ให้เราเสมอเมื่อทำการสร้างไฟล์ใหม่ขึ้นมา (ถ้าใครยังไม่เคยเปิดดูโค้ดเลยลองเปิดดูครับ) เราเรียกกันว่า DOCTYPE ครั้งนี้ในบทความนี้เราจะมาว่าถึงเรื่องนี้กัน

    DOCTYPE คือ
    DOCTYPE คือ การประกาศว่าเอกสารเว็บเพจนั้นสร้างขึ้นมาโดยยึดหลักตามมาตราฐานใด ซึ่งมาตราฐานที่เราใช้กันทุกวันนี้กับการแสดงผลเว็บเพจ จะมีที่ใช้กันอยู่ 2 มาตราฐาน คือ
    – HTML
    – XHTML
    ทั้ง 2 มาตราฐาน จะมีการแบ่งกฎในการพัฒนาแตกต่างกันออกไปอีก 3 ประเภท คือ
    – Transitional
    – Strict
    – Frameset
    ในบทความนี้ผมจะขอกล่าวถึง และยกตัวอย่างเพียงในส่วนของXHTMLเท่านั้นครับ เนื่องจากว่าXHTMLได้เข้ามาแทนที่ HTML

    กฏ 3 ประเภทของ DOCTYPE
    – Transitional
    สำหรับ Transitional นี้จะมีรูปแบบการประกาศที่บรรทัดแรกของเอกสาร ดังนี้
    <!DOCTYPE html PUBLIC “-//W3C//DTD XHTML 1.0 Transitional//EN” “http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-transitional.dtd”>
    กฏในแบบ Transitional ผู้พัฒนา XHTML ยังคงสามารถใช่งาน TAG หรือ Attribute ของ HTML แทรกลงไปในโค้ดได้

    – Strict
    สำหรับ Strict จะมีรูปแบบการประกาศที่บรรทัดแรกของเอกสาร ดังนี้
    <!DOCTYPE html PUBLIC “-//W3C//DTD XHTML 1.0 Strict//EN” “http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-strict.dtd”>
    กฏในแบบ Strict จะเข้มงวดกับไวยากรณ์ของภาษา ถ้าเราใช้ Strict กับเอกสารเว็บเพจเรา เราจะไม่สามารถแทรก Attribute ใด ๆ ได้เลยกับเว็บเพจของเรา เนื่องจาก Strict จะมองในส่วนของ TAG ที่ใช้กำกับ กับ ส่วนโค้ดที่ใช้ในการแสดงผลแยกออกจากกัน นั้นคือ TAG ของ XHTML เป็นเพียงตัวบอกว่าเอกสารนั้นเมื่อมี TAG นี้กำกับอยู่จะให้ทำอะไร เช่น ขึ้นบรรทัดใหม่ Paragraph ใหม่ เป็นต้น แต่ถ้าต้องการระบุคุณสมบัติ เช่น ทำข้อความไว้กึ่งกลางหน้าเว็บเพจ หรือใส่สีสันให้ข้อความ ต้องกระทำผ่าน CSS เท่านั้น สรุปง่าย ๆ ถ้าเราใช้ Strict กับเว็บเพจ เราต้องใช้ XHTML กับ CSS อย่างแท้จริงเท่านั้น !

    – Frameset
    สำหรับ Frameset จะมีรูปแบบการประกาศที่บรรทัดแรกของเอกสาร ดังนี้
    <!DOCTYPE html PUBLIC “-//W3C//DTD XHTML 1.0 Frameset//EN” “http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-frameset.dtd”>
    ใช้ในกรณีที่เรามีการออกแบบโดยมีการใช้ Frame ในการแบ่งจอของ Browser

    มาตรฐาน W3C
    W3C หรือ World Wide Web Consortium เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ทำงานด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเว็บ นำโดยนาย ทิม เบิร์นเนอร์ ลี (Tim Berners-Lee) ก่อตั้ง W3C ในปี ค.ศ.1994 และมีองค์กรสมาชิกมากกว่า 450 องค์กร ซึ่งรวมถึงองค์กรอย่าง Microsoft, Sun Microsystems และอื่น ๆ อีกมากมาย องค์กรนี้ประกอบด้วยสถาบัน 3 สถาบันคือ MIT ในสหรัฐอเมริกา INRIA ในยุโรป และ Keio University ในญี่ปุ่น

    มาตรฐานของ W3C มีอะไรบ้าง
    1. HTML 4.0 – Hyper Text Markup Language
    2. XML 1.0 – Extensible Markup Language
    3. XHTML 1.0, 1.1 และ Modularization
    4. CSS – Cascading Style Sheets
    5. DOM 1 – Document Object Model Level 1

    ประโยชน์ที่จะได้รับจากการทำตามมาตรฐานเว็บ
    1. ประโยชน์ต่อซอฟแวร์หรือเครื่องจักร
    • Search engine สามารถค้นหาและทำดรรชนีข้อมูลในเว็บได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    • เนื่องจากว่ามาตรฐานเป็นสิ่งที่บราวเซอร์ทุกชนิดเข้าใจ จึงทำให้สามารถเข้าใจโครงสร้างเอกสารเว็บได้ แม้ว่าจะไม่เข้าใจเทคโนโลยีมาตรฐานใหม่ ๆ แต่ก็ยังสามารถแสดงผลได้
    • นักพัฒนาที่ใช้มาตรฐานจะสามารถตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร (validate) ด้วยเครื่องมือที่มีมากมายในอินเตอร์เน็ทได้ ซึ่งช่วยให้การค้นหาข้อผิดพลาดในเว็บของเราได้ง่ายขึ้น
    • เอกสารที่ได้มาตรฐานสามารถแปลงไปเป็นเอกสารแบบอื่นได้ง่าย ทำให้เอกสารนั้น ๆใช้งานได้หลายประโยชน์ขึ้น

    2. ประโยชน์ต่อผู้ใช้
    • ผู้ที่ใช้บราวเซอร์อื่น ๆ ที่แตกต่างไปจากบราวเซอร์ทั่ว ๆ ไปที่เราคุ้นเคยสามารถใช้งานเว็บของเราได้ เช่น คนตาบอดที่ใช้บราวเซอร์เบรลล์หรือ Braille display คนที่ใช้อุปกรณ์พกพาต่าง ๆ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่อาจมีในอนาคต ฯลฯ
    • สำหรับการทำธุรกิจแล้ว การปฏิเสธผู้ใช้บางกลุ่มสามารถสร้างความแตกต่างในเรื่องของรายได้อย่างคาดไม่ถึง

    3. ความมีเสถียรภาพ
    • ข้อมูลหรือเนื้อหาต่าง ๆ ที่ทำตามมาตรฐานจะยังสามารถใช้ได้แม้ว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆจะเข้ามาแทน และสามารถแสดงผลลัพธ์ผ่านทางบราวเซอร์ในลักษณะที่ผู้ใช้รับได้ (ไม่น่าเกลียดจนเกินไป) เรียกว่าเป็นการตกยุคอย่างสวยงาม (degrade gracefully)
    • เนื่องจากว่า เว็บไซต์หนึ่ง ๆ อาจอยู่นานและมีผู้พัฒนาหลายคน ผู้ที่เข้ามาสานงานต่อจะเข้าใจงานที่มีอยู่ได้ง่ายขึ้นหากโค้ดของเราได้มาตรฐาน



เวอไนน์ไอคอร์ส

ประหยัดเวลากว่า 100 เท่า!






เวอไนน์เว็บไซต์⚡️
สร้างเว็บไซต์ ดูแลเว็บไซต์

Categories