USDA หรือหน่วยงานด้านการเกษตรของอเมริกาและ Food and Drug Administration ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านอาหารและยาได้มีการทดสอบตัวอย่างผักและผลไม้ที่ไม่ได้ปลูกด้วยวิธีออแกนิคกว่า 38,800 ตัวอย่าง โดยมีการล้างหรือปอกเปลือกผลไม้ในลักษณะเหมือนที่รับประทานทั่วไปเพื่อดูสารตกค้างที่อยู่ผักและผลไม้แต่ละตัวอย่างทดสอบ
จากนั้น Environment Working Group ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรได้นำเอาผลการทดสอบจาก USDA นี้มามาจัดอันดับผักและไม้ไม้ที่มีสารตกค้างมากที่สุดและน้อยที่สุดเพื่อแสดงไว้ใน Shopper’s Guide to Pesticide in Product โดยดูจากข้อมูลด้านต่างๆ 6 ด้านอย่างเช่นจำนวนชนิดและปริมาณสารตกค้างในผักและผลไม้
ผลที่ได้จากการจัดอันดับในส่วนของผักและผลไม้ที่มีสารตกค้างมากที่สุด 12 ชนิดคือ สตอว์เบอร์รี่ โดยหนึ่งตัวอย่างสตอว์เบอร์รี่ที่ทดสอบพบว่ามีสารตกค้างถึง 20 ชนิด ทำให้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่ผลไม้สีแดงยอดนิยมนี้เป็นผลไม้ที่มีสารตกค้างมากที่สุด
ผักผลไม้อีก 11 ชนิดที่มีสารตกค้างสูงสุดจากการทดสอบคือ ผักโขม, Nectarine, แอปเปิล,, องุ่น, พีช, เชอร์รี่, แพร์, มะเขือเทศ, เซเลอรี่, มันฝรั่ง และพริกหยวก
ผักผลไม้ 12 ชนิดนี้ในการทดสอบพบว่าจะมีสารตกค้างอย่างน้อยที่สุด 1 ชนิดไม่ว่าจะเป็นยาฆ่าแมลง ยากำจัดศัตรูพืช หรือสารเร่งการเจริญเติบโต รวมทั้งพบว่ามีปรอมาณตกค้างมากกว่าผักผลไม้ชนิดอื่น
ผักผลไม้ 15 ชนิดที่ผลการทดสอบออกมาแล้วให้ความสบายใจกว่าในการรับประทานแม้จะไม่ใช่ออกแกนิคก็ตามเนื่องจากมีสารตกค้างน้อยที่สุด 15 ชนิดโดยเรียงตามลำดับสารตกค้างน้อยที่สุดคือ อโวคาโด, ข้าวโพดหวาน, สับปะรด, กะหล่ำปลี, หัวหอม, Sweet Pea, มะละกอ, แอพารากัส, มะม่วง, มะเขือม่วง, ฮันนี่ดิวเมลอน, กีวี่, แคนตาลูป, กะหล่ำดอก และบร็อคโคลี ซึ่งสองอับดับแรกคืออโวคาโดและข้าวโพดหวานจากการทดสอบพบว่ามีสารตกค้างน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนตัวอย่างที่นำมาทดสอบ
มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของ สับปะรด, มะละกอ, แอสพารากัส, หัวหอม และกะหล่ำปลีไม่พบว่ามียาฆ่าแมลงตกค้างอยู่ แต่อย่างไรก็ตามมีข้าวโพดหวาน, มะละกอ และผักผลไม้เขตร้อนบางส่วนที่ถูกปลูกโดยเมล็ดที่ได้รับการดัดแปลงพันธุกรรม ดังนั้นผู้ที่หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เกษตรที่ดัดแปลงพันธุกรรมจึงถูกและนำให้รับประทานผักและผลไม้เหล่านี้ที่เป็นออแกนิคแทน