ปรากฏการณ์ SS…ถึงตาย
หมอดื้อ
ขึ้นชื่อว่ายา ถ้ากินผิดชนิด ผิดขนาด กินหลาย ๆ อย่างร่วมกัน (polypharmacy) ถ้าไม่ทราบที่มา ที่ไป ต่างคน ต่างให้มา จากหลายหมอ ร่างกายของเราเองกลายเป็นสนามรบของยา
ยาข้ามกลุ่มกัน ตีกันเองอย่างดุเดือด ทำให้ฤทธิ์น้อยลงกว่าที่ควรจะเป็นหรือมากกว่ามหาศาลจนทำให้เกิดพิษ
ยาบรรเทาอาการปวดไมเกรน กลุ่ม เออร์กอท (ergot) ที่ตัวของมันเอง ถ้ากินมากเกิน เกิดทำให้เส้นเลือดสปาสซั่ม เส้นเลือดไปแขนขาหดตัว จนต้องตัดมือ ตัดเท้าทิ้ง หรือทำให้เส้นเลือดในหัวใจและในสมองตัน หัวใจวาย
แม้แต่กินขนาดปกติแต่ถ้ากินยาอย่างอื่นร่วมด้วย กลับออกฤทธิ์มากเกินไปก็จะเกิดผลดังกล่าว หรือ ยาเออร์กอทไปเพิ่มฤทธิ์ของยาตัวอื่นทำให้เกิดพิษเนื่องจากยาตัวอื่นเกินขนาด
ปรากฏการณ์การคั่ง ของสารซีโรโทนิน (serotonin) ทำให้เกิดความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติการเต้นของหัวใจแปรปรวน ไข้สูง และมีระบบความดันโลหิตผิดปกติ
รวมกระทั่งถึงมีภาวะกล้ามเนื้อผิดปกติเกิดกล้ามเนื้อ แหลกสลาย แขนขา ลำตัว อ่อนแรง ปวดและเศษของกล้ามเนื้อที่ทะลักเข้าไปในกระแสเลือดไปตกตะกอนในไตทำให้ไตวาย ตลอดจนมีความผิดปกติของสมองในรูปของตั้งแต่กระวนกระวาย เอะอะโวยวาย ซึม ชัก โคม่า เป็น กลุ่มอาการคั่งซีโรโทนิน (serotonin syndrome, SS)
อาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นทุกอย่าง แต่จะเกิดอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้
อาการดังกล่าวไปคล้ายคลึงกับอาการที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรียหรือไวรัสก็ตาม ทำให้ต้องทำการสืบค้นหาสาเหตุกันยกใหญ่กว่าที่จะสามารถสรุปได้
แม้ว่าจะมีข้อแนะนำในการวินิจฉัย SS ที่เรียกว่า Sternbach criteria แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ก็ยังหลุดไม่สามารถให้การวินิจฉัยได้ทันท่วงที แม้จะมีการออกคำแนะนำใหม่ที่เรียกว่า Hunter serotonin toxicity criteria ก็ตาม
เนื่องจากความซับซ้อนของอาการ และนอกจากนั้น การใช้ยาอย่างมโหฬารในการบรรเทาอาการ หรือรักษาภาวะต่าง ๆ ทำให้ กลุ่มอาการ SS เพิ่มมากขึ้นและเป็นที่จับตาอยู่ในขณะนี้
ยาที่ใช้กันอยู่ประจำ โดยคิดไม่ถึงว่าจะทำให้เกิดผลร้าย ได้แก่ ยาแก้ปวดไมเกรน เออร์กอท และยาแพงรุ่นใหม่ที่เรียกว่า ทริปแทน (triptan)
ทั้งนี้ ยังมีการใช้ร่วมกับยาต้านซึมเศร้าหดหู่ อีกหลายอย่างที่เรียกว่า SSRI SNRI และยารุ่นเก่า ทั้ง Trazodone nefazodone clomipramine venlafaxine mirtazapine และยาแก้ปวด tranmadol
ยาลดน้ำหนัก Phentermine ยาต้านการซึมเศร้า Buproprion nefazodone trazodone
ยาแก้อาเจียน granisetron ondansetron
ยาแก้แพ้เช่น chlorpheniramine
ยาแก้ปวด กลุ่ม opiates เช่น levomethorohan levorphanol meperidine methadone pentazocine pethidine tapentadol tramadol oxycodone
ยาเสพติดโคเคน ยาอี Ecstasy ยาสมุนไพร St John’s wort (hypericum perforatum)
ยาแก้ไอ dextromethorphan ยาต้านซึมเศร้ากลุ่ม SNRI desvenlafaxine duloxetine venlafaxine กลุ่ม SSRI citalopram escitalopram fluoxetine fluvoxamine paroxetine sertraline กลุ่ม TCA เช่น amitriptyline เป็นตัน
ยาแก้วิตกกังวล buspirone MAOI
ยาลดน้ำหนัก phentermine ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม L-tryptophan และยวเสพติด โคเคน
ยาโรคพาร์กินสัน levodopa
ยาไบโพล่า lithium
ยาแก้อาเจียน ปรับการเคลื่อนไหวลำไส้ metoclopramide
กลุ่มที่ยับยั้งการทำลายในตับ CYP450Microsomal oxidases โดยยับยั้ง CYP2D6
CYP3A4 inhibitors ได้แก่ ciprofloxacin ritonavir และ substrates ได้แก่ methadone oxycodone venlafaxine
CYP2C19 inhibitors ยารักษาเขื้อรา fluconazole และ substrates ได้แก่ citalopram
นอกจากนั้นอยากกลุ่มที่ใช้กันแพร่หลายในประเทศไทยขณะนี้คือ ยาที่ลดการปวดที่เกิดจากเส้นประสาทหรือระบบประสาทผิดปกติ gabapentin pregabalin ด้วย
การใช้ยาเดี่ยวที่กล่าวมาในขนาดสูง หรือใช้ยาหลายตัวร่วมกันโดยที่แต่ละตัวอยู่ในขนาดปกติ ยกตัวอย่างเช่นผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ได้ยาบรรเทาอาการแข็งเกร็ง levodopa เช่น vopar madopar simemet และมีอาการจิตตก ก็ได้ยาคลายกังวล คลายเครียด ยาต้านหดหู่ ช่วยนอนหลับ และถ้าเกิดมีกระดูกหลังเบียดเส้นประสาทปวดไปด้วยก็จะได้ยาแก้ปวด กลุ่มเหล่านี้ร่วมกันทำให้เกิดปรากฏการณ์คั่ง SS และในขณะนี้แม้กระทั่งยาแก้แพ้ที่ใช้กันดาษดื่นมานาน (antihistamine) Chlorpheniramine หรือ CPM เมื่อเจอกับกลุ่มอื่น ๆ เช่น ยาไมเกรน ก็สุ่มเสี่ยงเช่นกัน
ดังนั้นชีวิตไม่ง่าย ทั้งหมอและเภสัชกรที่วินิจฉัยและสั่งจ่ายยา และคนป่วยเอง ที่ไปหาหมอหลายคนและไม่ได้บอกหมอแต่ละคนว่าตนเองใช้ยาอะไรบ้าง หรือไปซื้อยากินเองบ้าง นอกจากนั้นเองหมอก็ไม่ได้เฉลียวใจว่า ยาต่าง ๆ เหล่านี้ที่ใช้กันพื้น ๆ เมื่อประกบประกอบร่างใหม่ จะเกิดเป็นผลร้ายซึ่งวินิจฉัยยาก แสนยาก และแน่นอนมีที่ต้องเข้าไอซียู และถ้าโชคดีเมื่อหมดพิษของยากลุ่มต่าง ๆไปเองก็ค่อย ๆฟื้นขึ้น