การทำ im มีอีกทางที่เหมาะกับสายขาวคือ information product ซึ่งเป็นการผลิตโปรดักท์ของตัวเอง ทำให้คุณมีความเป็นเจ้าของในตัวสินค้าหรือเรียกว่า authority
การทำ im ในสายงานของการผลิตและขาย information product ของตัวเองมีวิธีการโปรโมทคล้ายๆกับการทำ affiliate แต่แนวทางนั้นหลากหลายกว่าโดยไม่ต้องกลัวผิดกฏต้นสังกัด ได้แก่
– โปรโมทผ่าน blog ตัวเองแบบ contents marketing ใส่ลิ๊งไปหน้า sales page ของตัวเอง
– จะทำเป็น banner ติดหน้า blog ตัวเอง ติด side bar หรือจะติดในลายเซ็นท้ายบทความก็ได้
– จะเอาไปโปรโมทใน social network ตั้งแต่ facebook, twitter ยัน pinterest ก็ได้ไม่ผิดกฏ
– จะโปรโมทในเว็บบอร์ดก็ได้
– โปรโมทผ่าน adword ก็ได้
– โปรโมทผ่าน facebook ad ก็ได้
– ทำ e-mail marketing ก็ได้
– ทำ SEO/ Longtail keyword ฯลฯ ได้หมด
เรียกว่าอะไรที่อยู่ในโลกออนไลน์ ประยุกต์ใช้เป็นช่องทางโปรโมทได้
เด็ดกว่านั้นคือเจอหน้าเพื่อนที่ไหนยังสามารถโปรโมทได้ด้วย กลายเป็น word of mouth ต่อไป
ลองจินตนาการดู เวลาเพื่อนถามว่า เฮ๊ย ช่วงนี้ทำอะไร… ถ้าคุณทำ amazon affiliate ก็ต้องบอกว่าทำ internet marketing เพื่อจะได้เข้าใจง่าย แต่ในชีวิตจริงกลับไม่ค่อยมีคนเข้าใจ ถ้าลองบอกเป็นนายหน้าขาย amazon คนก็นึกว่าจะมาขายตรงอีก
แต่ถ้าคุณมี info.product ของตัวเอง คุณสามารถบอกได้ว่า ขายหนังสือ ถ้าบอกแบบนี้ คนมีแนวโน้มจะถามต่อว่าทำหนังสืออะไรขาย ขายยังไง ขายดีไหม …ล่าสุดผมถูกเพื่อนถาม ผมตอบแบบนี้แล้วให้มันเปิด iPhone เข้าไปดูที่ sales page พบว่าคนส่วนมากให้การยอมรับและสนใจ
ต้นทุนไม่สูงจดโดเมนสองอัน เว็บหลักอันนึงสำหรับป้อน unique contents และ sales page อันนึงเพื่อเป็นหน้าร้าน มี ads นิดหน่อย ต้นทุนประมาณ 1600-2000 บาท เปิดขาย e-book 30 นาทีแรกคืนทุน หลังจากนั้นคือ profit run
การขาย Information product ให้ความรู้สึกคล้ายๆการทำ Affiliate marketing แต่จะมีการทำงานเพิ่มขึ้นอีกขั้นคือขั้นตอนของการสร้างตัวผลิตภัณฑ์เพื่อขาย
ทรัพยากรสำคัญของการสร้าง info. product ก็คือ “ความรู้” …คำว่า ลงทุนกับความรู้ หรือ ใช้ความรู้เป็นทุน จะเด่นชัดมากในงานนี้
ไม่ว่าจะเป็นความรู้ในการทำงานสาขาใดสาขาหนึ่งก็ดี เช่น เทคนิคการนำเข้าส่งออก เทคนิคทำข้อสอบวิศวะ หรือคนเป็น HR จะนำเทคนิคการสมัครงานก็ได้ นอกเหนือจากวิชาชีพแล้ว คนที่ชอบเล่นกีฬา เล่นหุ้นเก่งๆ มีประสบการณ์การลดน้ำหนักแบบปลอดภัย ฯลฯ ก็สามารถนำมาทำ info. product ได้
Pat Flynn ที่เขียน E-Book ตำราติวข้อสอบสถานปนิก ขายดิบขายดีมาเป็นปีๆ ส่วนในไทยผมเห็นคนนึง เขียนเทคนิคการเป็นวิศวกรโยธา แต่เขาทำออกมาเป็นเล่ม ไม่ได้เป็น e-book
Lewis Howes คนนี้ใช้งาน LinkedIn บ่อยจนมีความชำนาญและสามารถสร้างงานสร้างรายได้ขายของดิบดีผ่านระบบ LinkedIn เขาจึงนำความรู้มาทำเทคนิค LinkedIn Marketing
วัตถุประสงค์ของ info.product คือการรวบรวมข้อมูลความรู้และวิธีทำงานในด้านใดด้านหนึ่งที่คุณสั่งสมมาเป็นปีๆ มาบรรจุไว้เป็นแพกเกจที่คนอื่นสามารถเรียนรู้ เพื่อช่วยลดโอกาสผิดพลาดและประหยัดเวลาแก่ผู้สนใจ
ที่นี้มีคำถามว่าข้อมูลหลายๆอย่างมันหาได้ฟรีอยู่แล้ว เข้า Google ทีก็ได้มาบาน
นักทำ info.product ให้เหตุผลที่สินค้าประเภทนี้ขายได้เพราะว่า ข้อมูลใน Google ในเว็บบอร์ด หรือตามแหล่งต่างๆมีอยู่มากมายมหาศาลและกระจัดกระจาย การที่คนคนหนึ่งที่ไม่รู้อะไรเลย การจะศึกษาและระดมข้อมูลที่แม่นยำพอ ไม่ใช่เรื่องง่ายและใช้เวลานานมาก info.product จึงเข้ามาเติมเต็มในจุดนี้ คือ รวบรวมองค์ความรู้สำเร็จรูปพร้อมใช้งานไว้ในแพกเกจเดียว
ข้อจำกัดหลักๆของการทำ im ในสาขานี้คือขั้นตอนการผลิตนั่นเอง
เพราะถ้าคุณทำ affiliate program ตัวสินค้ามีพร้อมอยู่แล้ว คุณรับมาแล้วเริ่มทำ im ได้เลย แต่ info.product มันเริ่มจากความว่างเปล่า คุณทำการบ้านค่อนข้างเยอะตั้งแต่การวิเคราะห์ตลาดเพื่อหาแนวทีีจะนำมาทำ สินค้าตัวแรกๆของผมเตรียมการอยู่ 3-4 เดือน ทำเสร็จขายไม่ได้เสียเวลาป่นปี้ไปเลย จากนั้นก็ต้องสร้าง platform การขาย เช่นเว็บไซต์ sales page และ social network ฯลฯ แต่เมื่อทำเสร็จแล้ว คุณก็จะมี authority product ของตัวเองที่สามารถโปรโมทได้เรื่อยๆครับ
รูปแบบของ info.product ไม่ได้จำกัดในรูปของ e-book เท่านั้น
แต่ยังพัฒนาไปเป็นรูปแบบของ membership site, CDs, video training หรือ live training ก็ถือว่าใช่ครับ โดยแต่ละรูปแบบมีช่องทางการทำ conversion (สั่งซื้อ สมัครสมาชิก สมัครคอร์ส ฯลฯ) ่ผ่าน internet
สุดท้าย สิ่งสำคัญสูงสุดคือ ความซื่อสัตย์
การทำงานที่มีคุณภาพและต้องส่งมอบประโยชน์ไปพัฒนาชีวิตผู้อื่นได้จริงคุณก็จะประสบความสำเร็จในการผลิต info.product ออกขายได้ยาวนาน