• September 11, 2022

    น้ำส้มสายชู (Vinegar)

    น้ำส้มสายชูหมัก นำผลไม้มาหมักกับน้ำตาลหรือผลไม้ หมักกับยีสต์ แล้วนำมาหมักกับหัวเชื้อน้ำส้มสายชูตามกรรมวิธีตามธรรมชาติ ลักษณะใส อาจมีตะกอนเจือปนบ้างเป็นเพราะหมักโดยธรรมชาติ ส่วนสีจะแตกต่างกันไปตามวัตถุดิบที่นำมาหมัก อาจมีสีเหลือง ไปจนถึงสีน้ำตาลไหม้ และมีปริมาณกรดน้ำส้มไม่น้อยกว่า 4% นิยม แอปเปิ้ล เรียก น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล หรือแอปเปิ้ลไซเดอร์ (Apple Cider Vinegar) อื่นๆก็ได้

    ประโยชน์ของน้ำส้มสายชูหมัก

    1.น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล หรือแอปเปิ้ลไซเดอร์
    มีโพแทสเซียมสูง ช่วยในการแบ่งเซลล์ ทำให้ร่างกาย เกิดการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ดีขึ้น มีส่วนช่วยชะลอความแก่ของเซลล์ต่างๆ ช่วยให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นช้าลง ลดการเกิดผมหงอกก่อนวัยอันควร

    2. ช่วยลดน้ำหนัก
    หมักจากธรรมชาติให้พลังงานเพียง 3 แคลอรี่/ช้อนโต๊ะ การดื่มน้ำส้มสายชูหมักเพียง 1 ช้อนชาผสมกับน้ำอุ่น หรือน้ำผลไม้ 2 แก้ว ดื่มก่อนรับประทานอาหารติดต่อกัน 12 สัปดาห์จะช่วยลดความอยากอาหารทำให้รับประทานได้น้อยลง และยังช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมไขมันและน้ำตาลไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    3. บรรเทาอาการปวดข้อปวดกระดูก
    อาการปวดเมื่อย ปวดกระดูก อาจเกิดจากการที่ร่างกายขาดโพแทสเซียม เป็นที่ทราบกันดีว่าในน้ำส้มสายชูหมักมีธาตุโพแทสเซียมสูง การดื่มน้ำส้มสายชูหมัก 1 ช้อน ผสมกับน้ำอุ่น 1 แก้ว ช่วยทำให้อาการปวดทุเลา และยังเป็นการป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนอยู่แล้วควรปรึกษาแพทย์ก่อน

    4. ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
    การดื่มน้ำส้มสายชูหมัก 2ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำอุ่น 1 แก้วก่อนนอน จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ด้วยกรดไกลซีมิกในน้ำส้มสายชูหมักจะมีส่วนช่วยทำให้การย่อยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนถูกปล่อยไปเป็นน้ำตาลช้าลง ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่และยังช่วยยับยั้งการหลั่งของอินซูลินทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้

    5. โรคกรดไหลย้อน
    มน้ำส้มสายชูหมักเพื่อบรรเทาอาการได้ เพราะด้วยกรดอะซิติกและจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในน้ำส้มสายชูหมัก ช่วยระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นำน้ำส้มสายชูหมักผสมกับน้ำอุ่น 1 แก้ว ดื่มก่อนการรับประทานอาหาร จะช่วยทำให้อาการแสบร้อนกลางอก คลื่นไส้ ทุเลาลงได้

    6. มีกลิ่นตัว
    ใช้น้ำส้มสายชูหมักเจือจางกับน้ำสะอาดชุบด้วยสำลีแล้วนำมาทาทิ้งไว้ที่ใต้รักแร้ทิ้งไว้จนแห้งสนิทโดยไม่ต้องล้างออกจะทำให้กลิ่นตัวของคุณลดลง (ควรทำตอนอยู่ที่บ้านหรือ ตอนก่อนนอนเพราะกลิ่นแรง) สรรพคุณของน้ำส้มสายชูหมักมีส่วนช่วยในการต้านเชื้อแบคทีเรียและเป็นยาฆ่าเชื้อจากธรรมชาติจึง สามารถลดกลิ่นใต้วงแขนได้

    7. ช่วยปรับสมดุลและลดรังแคที่หนังศีรษะ
    น้ำส้มสายชูหมักมาผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วนเท่าๆกัน 1/4 ถ้วย เทลงในขวดสเปรย์ ฉีดลงบนศีรษะ ทิ้งไว้ 1 ชม. จึงล้างออก จะช่วยเปลี่ยนค่า PH บนหนังศีรษะให้มีความเหมาะสม ไม่มันและไม่แห้งจนเกินไปและยังช่วยหยุดการเจริญเติบโตของยีสต์สาเหตุหลักของการเกิดรังแค

    8. ผมแห้งแตกปลาย ชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก
    มักเกิดจากการทำเคมีบ่อยๆ เช่น การดัด การยืด การย้อม น้ำส้มสายชูหมักจะช่วยทำให้เส้นผมกลับมามีสุขภาพดีได้ หลังการสระผม นำน้ำส้มสายชูหมัก 1/3 ถ้วย + น้ำเปล่า 1 ถ้วย ชโลมลงเส้นผมให้ทั่วศีรษะ ไม่ต้องล้างออก กรดอะซิติกและวิตามินต่างๆในนำน้ำส้มสายชูหมัก จะช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรง ไม่แตกปลาย และมีสุขภาพที่ดีอีกครั้ง

    9. อาการเจ็บคอ
    น้ำส้มสายชูหมัก 1 ส่วน + น้ำเปล่า 2 ส่วน กลั้วปาก 1 นาที น้ำส้มสายชูหมักจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปากและลำคอ ทำให้อาการเจ็บคอค่อยๆ ทุเลา

    10. ขับของเสียในร่างกาย
    ดื่มน้ำส้มสายชูหมัก1-2ช้อนชา + น้ำอุ่นหรือน้ำผลไม้ก่อนมื้ออาหาร 30 นาที(มื้อไหนก็ได้) จะช่วยดีท๊อกซ์ของเสียออกจากร่างกาย เพราะในน้ำส้มสามยชูหมักมีวิตามิน แร่ธาตุ และเอนไซม์ที่จะช่วยเสริมขบวนการกำจัดพิษในร่างกายให้ง่ายต่อการขับถ่าย ช่วยเร่งการย่อยเมือกในร่างกายออกทางระบบน้ำเหลือง ทำให้ต่อมน้ำเหลืองสะอาดและช่วยให้ระบบการไหลเวียนดีขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นการช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดภายในตับ และช่วยกำจัดพิษในตับได้

    โทษของน้ำส้มสายชูหมัก

    น้ำส้มสายชูหมักก่อนการรับประทาน ควรผสมเจือจางก่อนด้วย น้ำเปล่า น้ำอุ่น น้ำผลไม้ เพราะหากดื่มโดยไม่เจือจางก่อนอาจจะ ทำลายเนื้อเยื่อในช่องปากและลำคอได้ รวมถึงจะทำให้เคลือบฟันกร่อนและหากรับประทานไม่ถูกวิธีอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดการปวดแสบในกระเพาะอาหารได้ เพราะมีฤทธิ์เป็นกรด
    ผู้ที่ป่วย เป็นโรคกระกระดูกพรุน โรคเบาหวาน ปรึกษาหมอ หญิงมีครรภ์ กำลังให้นมบุตร วัยทองหลังหมดประจำเดือนใหม่ๆ ไม่ควรรับประทาน

    ความจริงเกี่ยวกับการดื่มน้ำส้มสายชูหมัก

    ทันทีที่คุณดื่มน้ำส้มสายชูหมัก คุณจะรับรู้ได้ถึงความอ่อนเพลียของร่างกายจะถูกค่อย ๆ กำจัดทิ้งไปทีละน้อยและจะหมดไปภายใน สองชั่วโมง
    ปัสสาวะก่อนดื่มและหลังดื่ม จะมีสีต่างกัน นั่นคือ
    เมื่อดื่มน้ำส้มสายชูแล้ว 1-2 ชั่วโมง ปัสสาวะจะเริ่มใสขึ้น
    สามารถเช็ค ด้วยกระดาษลิตมัส ก่อนและหลังดื่มน้ำส้มสายชู จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าภายหลังดื่มแล้ว ปัสสาวะจะมีฤทธิเป็นด่างมากขึ้นซึ่งก่อนดื่ม

    จะมีฤทธิเป็นกรด สำหรับปัสสาวะและโลหิตของเรา ก็จะมีปฎิกิริยาที่คล้ายกันก่อนดื่มโลหิตของเราในขณะที่อ่อนเพลีย
    จะมีฤทธิเป็นกรด และภายหลังดื่มน้ำสัมสายชูหมัก ก็จะมีฤทธิเป็นด่างขึ้น แสดงว่า จะต้องมีสารตัวใดตัวหนึ่งที่ทำให้ร่างกายของเรารู้สึกอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และทันทีที่เราดื่มน้ำส้มสายชูก็จะเกิดปฎิกิริยาทางเคมีบางอย่างที่สามารถขจัดสารตัวนั้นออกไป

    info

    ดื่มน้ำส้มสายชูหมัก ช่วยกำจัดกรด แลคติค (lactic) และเป็นผู้ช่วยชั้นเยี่ยมของตับ
    ก่อนอื่นต้องเป็นที่เข้าใจโดยทั่วไปแล้วว่า ตับจะมีหน้าที่กำจัดสารพิบต่าง ๆ ในร่างกาย รวมถึงสารที่ทำให้ร่างกายมนุษย์อ่อนเพลียด้วย
    ซึ่งตัวการนี้เราเรียกว่ากรดแลคติค(lactic) ซึ่งเราต้องระมัดระวังไม่ให้ตับของเราเสียหาย หรือทำงานหนักขึ้น ซึ่งไม่มีอะไรมาทดแทนได้
    หากผิดปกติขึ้น ดังนั้นจึงควรหาทางให้ตับทำงานได้ดีตลอดเวลา รับประทาน เนื้อ, ปลา, ไข่, น้ำมันมะพร้าว, ผักใบเขียว และดื่มน้ำสัมสายชูจะทำให้ตับทำงานได้สมบูรณ์มากขึ้นหรือเรียกตามภาษาชาวบ้านว่าอาหารบำรุงตับ

    ทฤษฎีของเครบ (Kreb’s theory)

    ดร.เครบ พบทฤษฎีนี้ตั้งแต่คศ.1953 อธิบายถึงทำไมการดื่มน้ำสัมสายชูช่วยขจัดความอ่อนเพลียของร่างกายเขาได้อธิบายถึงกระบวนการที่อาหารที่เรารับประทานเปลี่ยนไปเป็นพลังงานหรือการเผาผลาญอย่างละเอียดและรวมไปถึงความลับที่ทำใหร่างกายมนุษย์รู้สึกอ่อนเพลียและวิธีการกำจัดมัน
    การค้นพบของ ดร.เครบทำให้นักวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศญี่ปุ่น ศจ.ฮิชิโร อาคิตานิ จากมหาวิทยาลัยโตเกียวได้ทุ่มเทเวลาทั้งชีวิตพยายามให้คนญี่ปุ่นดื่มน้ำส้มสายชูหมักมากเท่าที่จะมากได้ จึงเป็นที่มาของวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองที่นิยมดื่มกันทั้งเกาะและก่อให้เกิดปัญหาตามมาคือ “คนแก่ล้นเมือง” อายุยืนยาวเป็นร้อยปี

    เริ่มต้นที่เรารับประทานอาหารเข้าไปทำการย่อยเพื่อเปลี่ยนแป้งเป็นกลูโคส โปรตีนก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นกรดอมิโนอีก 20 ชนิด ไขมันจะถูกเปลี่ยนไปเป็นกลีเซอรรีน และกรดไขมัน อาหารต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะถูกเผาผลาญและเปลี่ยนไปเป็นสาร ที่เราเรียกว่า ATP (Adenocine triphosphate) ซึ่งให้พลังงานออกมาในรูปความร้อน  บางส่วนก็นำไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายเมื่อต้องการเช่น โปรตีนอาหารเกือบทั้งหมดที่เรารับประทานจะถูกเปลี่ยนเป็นกรด 8 ชนิดและจะถูกลดปริมาณลงในรูปของการเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน (ATP) แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะเกิดขึ้นและถูกขับออกโดยกระบวนการหายใจออก น้ำก็จะถูกขับออกมาในรูปของปัสสาวะและเหงื่อ  และถ้ากรดทั้ง 8 ทำงาน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ กระบวนการทั้งหมดที่ได้อธิบายมาก็จะไม่เกิดกรด ไพโรราสมิค (Pyroracemic หรือ ไพรูวิค(Pyruvic) และกรดแลคตริค  ความเมื่อยล้าอ่อนเพลียและปวดตามกล้ามเนื้อ ก็จะไม่เกิด กล้ามเนื้อของเราก็จะนิ่มไม่แข็งเกร็ง โลหิตก็จะมีฤทธิเป็นด่าง ปัสสาวะก็จะใสขึ้นแน่นอนที่สุดก็จะมีฤทธิเป็นด่างด้วย มีความสดชื่น ตื่นตัวในทางตรงกันข้ามหากเราทำงานหนัก ทั้งทางกายและทางใจ หรืออาหารที่เรารับประทานเข้าไปแย่สุด ๆ หรือร่างกายไม่ได้ดื่มน้ำส้มสายชู ก็จะทำให้กระบวนการที่กล่าวมา เมื่อสักครูไม่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพก็จะทำให้เกิดกรดแลคติค  กรดนี้จะสะสมในกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดความเจ็บปวดและเมื่อยล้า หากกรดแลคติคสะสมในกล้ามเนื้อ 0.24-0.40% ของของเหลวในร่างกายเรา เราจะรู้สึกอ่อนเพลียหรือเหนื่อยทันที การตอบสนองของร่างกายจะช้าลงบางทีอาจทำให้ทำงานผิดพลาดหรือไม่ก็อุบัติเหตุ หากปล่อยให้มีการสะสมของกรดแลคติคมากขึ้น บางรายถึงกับเกร็งหรือเป็นตะคริวทำให้ประสาทชา หรืออัมพาตได้ หรืออาจปวดต้นคอหรือไหล่ ทั้งหลายทั้งปวงเปล่านี้เกิดจากกรดแลคติคสะสมในร่างกายทั้งสิ้น

    ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการดื่มน้ำส้มสายชูหมักเพื่อเลือดที่เป็นปกติ

    ภาวะที่เลือดมีกรดแลคติค จะทำให้กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวข้าลง ทำให้เกิดภาวะเบื่อหน่ายน่ารำคาญ  โมโหง่ายหรือฉุนเฉียว ยิ่งเป็นการเพิ่มปัญหาบนปัญหาเข้ามาอีกต่อหนึ่ง ภาวะนี้ร่างกายก็จะเสี่ยงต่อเชื้อโรคต่าง ๆ ความเจ็บป่วย ทางแก้ก็มีอยู่ 2 ทาง
    1.ทางใจ ท่านจะต้องฝึกจิตให้สามารถจัดการต้นเหตุที่กล่าวมา ผู้ที่ฝึกสมาธิขั้นสูงเท่านั้นที่สามารถทำได้ แต่เราอาจเพียงดื่มน้ำสัมสายชูหมัก เพื่อทำให้ภาวะเลือดเป็นกรดหายไปหรือเป็นด่างมากขึ้น เบื้องต้นก็จะรู้สึกตรงกันข้ามกับที่เอ่ยมาทั้งหมดเมื่อดื่ม  สาเหตุหลักเนื่องมาจากน้ำสัมสายชูหมัก หรือกรดอะซิติคจะไปกำจัดกรดแลคติคให้หมดสิ้นโดยการทำให้วัฎจักรซิตริค (Citric cycle) หรือวัฏจักรเครบ ทำงานสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

    ดื่มน้ำสัมสายชูหมักจะทำให้หายเครียด”
    ความเครียดคือความผิดปกติที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา ความหมาย ที่แท้จริงกินความกว้างกว่านี้มากนัก รวมไปถึงสิ่งต่าง ๆ ที่มีผลกระทบทำให้เรา เกิดความเครียด เช่น ร้อน หนาว เหนื่อย อาหารและรวมไปถึงความกังวลและ
    เจ็บป่วย หากปล่อยให้ความเครียดเข้าครอบงำผลร้ายก็เกิด ตามมาบางราย ถึงกับล้มป่วย หรือเป็นโรคร้าย กลไกที่ทำให้เกิดความเครียด ถูกค้นพบโดย ดร.ฮาน นักวิทยาศาสตร์ รางวัลโนเบลชาวแคนาดา โดยการค้นพบฮอร์โมน
    ACH และการทำงาน ของต่อมหมวกไต ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิต ประกอบไปด้วย 3 พวกใหญ่ ๆ คือ
    ฮอร์โมนควบคุมการเผาผลาญอาหาร
    ฮอร์โมนควบคุมปริมาณน้ำและเกลือแร่ในเลือด
    ฮอร์โมนเพศ

    ทั้งสามนี้เรียกรวมกันว่า ACH ฮอร์โมน ซึ่งถ้าไม่ปรกติ ท่านก็คงนึกออกว่าจะมีผลอย่างไรยกตัวอย่างเช่น ฮอร์โมนควบคุมการเผาผลาญอาหาร ถ้าไม่ปกติ ก็พวกกินน้อย แต่อ้วนเอา ๆหรือไม่ก็ทานเยอะแยะเลยกลับผอม ถ้าฮอร์โมนควบคุม ปริมาณน้ำและเกลือแร่ในเลือด บกพร่อง ก็จะก่อให้เกิดโรคเลือดตามมา และที่สำคัญมากๆเลยถ้า ฮอร์โมนเพศ ไม่ปกติ หลายท่านคงอยากหนีไปบวช คิดว่าท่านคงจินตนาการเอาเองได้ หากปล่อยให้ความเครียดเกิดขึ้นนานเกินไป หรือ ACH ฮอร์โมน หลั่งน้อยเกินไป เราอาจแพ้ต่อความเครียด บางทีถึงขั้นล้มป่วย

    เราต้องหาทางป้องกันความเครียดหรือกำจัดความเครียด ง่าย ๆ ก็โดยการพักผ่อน หรือนอนหลับ หรือกำจัดโดยกระตุ้นต่อมหมวกไตให้หลั่งฮอร์โมน โดยการดื่มน้ำสัมสายชูหมัก หรือกินอาหารที่มีประโยชน์ บางท่านถึงกับสรุปว่า ACH ฮอร์โมน ได้มาจากน้ำสัมสายชูหมัก ซึ่งเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่ ดร.ฮาน ได้รับเกียรติอันสูงสุดในการค้นพบครั้งนี้

    คลอเลสเตอรอล สิ่งที่คุณไม่ควรเกลียดและกลัวเมื่อคุณดื่มน้ำส้มสายชูหมักเป็นประจำ”
    โรคหลอดเลือดแข็งตัวเป็นโรคที่ร้ายแรง รักษายากมาก ต้นตอและสาเหตุ คือ “คลอเลสเตอรอล” ทั่วโลกประโคมจนทำให้เราทั้งเกลียดทั้งกลัวคลอเลสเตอรอล ร่างกายของเรามีคลอเลสเตอรอลจำนวนมาก มีบทบาทและความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระแสเลือดอย่างที่คุณคิดไม่ถึง เช่น เมื่อเราตกอยู่ภาวะอันตราย คลอเลสเตอรอล
    จะนำ ACH ฮอร์โมน ไปยังที่หมายทันทีทันใด เมื่อใดที่คุณต้องการความแข็งแรง Hormone เพศก็จะถูกส่งไปในที่ที่ธรรมชาติต้องการ คนที่มี คลอเลสเตอรอลต่ำกว่าเกณฑ์ ปกติก็จะไม่สดชื่นเบื่อโลก ห่อเหี่ยว และที่สำคัญ อาจบกพร่องทางเพศเนื่องจาก ร่างกายเราเคลื่อนย้ายฮอร์โมนทั้งหลายผ่านคลอเลสเตอรอล

    ศจ.โตกิโอ ชิมาโมโต เผยแพร่งานวิจัยถึงปัญหาหลอดเลือดแข็งตัว
    พบว่า หากมีการหลั่งแอนดีนาลีน (Andrenaline) จากอาการโมโหสุดขีด, กังวล, เย็นจัด หรือเมื่อเราต้องการใช้คลอเลสเตอรอล เป็นพาหะเคลื่อนย้ายฮอร์โมน บ่อยเกินไปผ่านหลอดเลือดจะทำให้ผนังหลอดเลือด แข็งตัว หากเรากำจัด ต้นเหตุของการหลั่ง ฮอร์โมนชนิดนี้ เช่นความเครียดก็จะลด ความเสี่ยงลงได้มากแต่ที่สำคัญมากที่สุด ก็คือการควบคุม คลอเลสเตอรอลไม่ให้สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานซึ่งการดื่มน้ำส้มสายชูหมักเป็นประจำจะทำให้ปริมาณคลอเลสเตอรอลลดลงโดยกระบวนการเปลี่ยนแปลงเป็นกรดต่างๆและเข้าสู่วัฎจักรซิตริค (Citric cycle) ที่สมบูรณ์แบบ ตามการค้นพบของ ดร.เครบ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งจะทำให้ตับทำงานน้อยลง ประสิทธิภาพของตับ สูงขี้นเมื่อตรวจเลือด ซึ่งจะทำให้ตับ ซึ่งเป็นอวัยวะผลิตคลอเลสเตอรอล ส่วนใหญ่ของร่างกาย ผลิตคลอเลสเตอรอล ที่ปกติ ซึ่งพวกเราส่วนใหญ่เข้าใจผิดคิดว่า เป็นเพราะทานไขมันมากไปซึ่งอาจถูกสำหรับบางคนเท่านั้น ดังนั้นสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับคลอเลสเตอรอลเกินควรอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจประสิทธิภาพของตับ เมื่อตรวจโรคทั่วไปด้วย

    ดื่มน้ำส้มสายชูหมักจะไม่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วย โรคกระเพาะ และจุกเสียด (heartburn)

    มีการค้นพบว่าอาการจุกเสียดไม่ได้มีสาเหตุมาจากการหลั่งน้ำย่อยมากเสมอไป คนป่วยที่มีการหลั่งน้ำย่อยต่ำ หรือ บางรายผ่าตัดกระเพาะทิ้งแล้วยังมีอาการเลย บางรายดื่มน้ำทีมีฤทธิเป็นด่างหรือดื่มน้ำมากๆ ก็ยังคงมีอาการ การใช้ชีวิตที่รีบเร่ง ทั้งกิน และดื่มล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุของ อาการจุกเสียดทั้งสิ้นหากคุณ มีอาการกระเพาะเป็นแผลอยู่แล้วให้คุณดื่มน้ำส้มสายชูทีละน้อยก่อน แล้วสังเกตุอาการและค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้นทีละน้อยอย่างช้าๆ

    วิธีสังเกต อาการเป็นแผล ในกระเพาะคุณจะปวดภายหลังจากคุณรับประทานอาหารไปแล้วครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง แต่ถ้า
    คุณปวดก่อนมื้ออาหาร ส่วนใหญ่แล้วจะมีแผลหรืออักเสบในลำใส้เล็กส่วนต้น แล้วทำไมต้องดื่มน้ำส้มสายชูหมัก ทั้งๆที่
    น้ำย่อยของเรามีกรดไฮโดรคลอริค อยู่แล้วคุณ วางใจได้ สาเหตุเนื่องมาจากกรดอะซิติค ในน้ำส้มสายชูหมักทำให้ ระบบประสาทอัตโนมัติต่างๆกลับมาทำงานเป็นปรกติอีกครั้งซึ่งระบบประสาทอัตโนมัติเหล่านี้นี่แหละที่เป็นต้นเหตุ ทำให้เกิดการหลั่งน้ำย่อยมากผิดปกติและผิดเวลาทำให้เกิดแผลในกระเพาะ และทีพบบ่อยมากที่สุด ก็ “ ความเครียดไง “ ทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติรวนเรหมดหมายเหตุ:
    หากท่านมีอาการมากอยู่ก่อนแล้วควรอยู่ภายใต้การดูแลจากหมอเอย่างใกล้ชิดเพื่อรักษาแผลให้ทุเลาก่อน
    วิธีนี้สำหรับผู้ที่มีอาการเป็นๆหายๆ น่ารำคาญซึ่งส่วนใหญ่ จะรักษาที่ปลายเหตุ เช่นทานยาเคลือบกระเพาะ คุมอาหาร
    รสจัดทุกชนิด เหมือนตกนรกทั้งเป็น เพราะชีวิตมีแต่ความจืดชืดี
     
    คนเมื่อแก่ตัวลงทำไมต้องการแคลเซียมมากขึ้น
    เพราะว่าร่างกายของคนแก่ดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลงทั้งๆที่กินอาหาร ที่มีแคลเซียมสูงกว่าเดิมอีก แล้วกลไกอะไรที่ทำให้การดูดซึมหย่อนประสิทธิภาพลง
    คนแก่น้ำย่อย จะลดลง ความเป็นกรดที่มีความจำเป็นต่อแคลเซียม ก็ลดลง
    – ตับอ่อนก็หลั่งโซเดียมไบคาร์บอเนตไปที่ลำใส้เล็ก ส่วนต้นและตอนบน ซึ่งมีฤทธิเป็นด่าง ทำให้แคลเซียม จับตัวกันเป็นโมเลกุลที่ใหญ่ขึ้นทำให้ไม่สามารถแทรกซึมผ่านผนังลำใส้เล็กดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้และจะถูกขับถ่ายทิ้งทางทวารอย่างน่าเสียดาย คนแก่จึงขาดแคลเซียมโดยปริยาย
    วิตามิน ซี และ บี 1 ที่มีประโยชน์ ก็ถูกด่างในลำใส้เล็กตอนต้นทำลายไปด้วย
    ส้มสายชูหมักจึงเปรียบ เป็น โอสถ ทิพย์ของคนในวัยชราที่ต้องการให้ระบบการหลั่งน้ำย่อยเป็นปกติ
    ที่สุด
    ญี่ปุ่นจีงนิยมดื่มน้ำส้มสายชูหมักกันมากและมีอายุยืนยาวมากกว่าร้อยปี

    สรุป
    การดื่มน้ำส้มสายชูหมักเป็นประจำเกิดประโยชน์ต่อร่างกายสุดคณานับ ทำให้เลือดมีสภาวะเป็นด่างหรือ pH ที่ 7.4
    มีสีแดง เหมาะมากสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดและหัวใจ ซึ่งโดยปกติแล้วคนไข้ในกลุ่มนี้จะมีออกซิเจนในเลือดต่ำ มี กรดแลคติคสะสมในเลือดสูง ทำให้เลือดเป็นสีดำ เหนือดข้น อาการอ่อนเพลียเมื่อยล้า เหนื่อยง่าย ก็จะตามมา  การดื่มน้ำส้มสายชูหมักเป็นประจำ ปัสสาวะก็จะ ใสขึ้น และเป็นด่าง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสัญญาณของผู้ที่มีสุขภาพดีเลิศ นอกเหนือจากนี้ สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องทำงานหนักตรากตรำ จริงอยู่ คาเฟอีน ในเครื่องดื่มชูกำลังทั้งหลาย สามารถทำให้ท่านหายเหนื่อยอย่างรวดเร็ว แต่มันมีผลร้ายต่อร่างกายมาก บางประเทศถึงกับออกกฏหมายห้ามจำหน่าย แต่สำหรับประเทศ ด้อยและกำลัง พัฒนาก็อนุญาตให้ดื่มวันละ 2 ขวด เด็ก สตรีตั้งครรและคนชราห้ามดื่ม  น้ำส้มสายชูหมักซิ ผสมน้ำแข็ง หรืออยากได้รสซ่าอาจผสมโซดา เล็กน้อย จิบไปด้วยทำงานไปด้วยความอ่อนเพลียเมื่อยล้า ปวดกล้ามเนื้อ ก็จะค่อยๆหายไปภายใน 1-2 ชั่วโมง ภายหลังรับประทานก็ได้

    ผู้ที่มีภาวะเครียด
    ดื่มน้ำส้มสายชูหมัก ทำให้ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตทำงานปกติ เพื่อกำจัดความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าดื่มหลังอาหารเย็นจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย หลับง่ายและลึก เป็นสรรพคุณเบื้องต้นของการดื่มน้ำส้มสายชูหมัก หลายรายที่ดื่มทำให้หายจาก สาระพัดโรคที่เกี่ยวเนื่องมา จากปัญหาการนอนไม่หลับ

    น้ำส้มสายชูหมัก
    – ทำให้การเผาผลาญ และการทำงานของ citric cycle สมบูรณ์แบบ มากขึ้นและควร ผสมผสานกับการออกกำลังกายจะให้ผลดีมากที่สุด
    – ขจัดพิษ

    ข้อเสียของน้ำส้มสายชุหมัก
    – รสชาติที่เปรี้ยวและมีกลิ่นฉุนน้ำส้ม อย่างไรก็ตามปรัชญาของการมีสุขภาพที่ดีท่านต้องทานอาหารให้ครบ ทั้ง 5 หมู่ ออกกำลังกายเป็นประจำ ทำจิตใจให้ผ่องใสไม่เครียด ไม่ใช่ อดอาหาร จนขาดสารอาหาร

    น้ำส้มสายชูหมักจากน้ำอ้อยบริสุทธิ ไม่มีโซเดียม จึงปลอดภัยต่อผู้ที่มีภาวะความดันสูง จึงเป็นสาเหตุที่ชาวญี่ปุ่นนิยมดื่มเฉพาะที่หมักหรือทำมาจากน้ำอ้อยบริสุทธิเท่านั้น


เวอไนน์ไอคอร์ส

ประหยัดเวลากว่า 100 เท่า!






เวอไนน์เว็บไซต์⚡️
สร้างเว็บไซต์ ดูแลเว็บไซต์

Categories


Uncategorized