• August 20, 2017

    ปกติโน๊ตบุ้กจะมีอายุการใช้ระหว่าง 3 – 5 ปี

    1. ระบายความร้อนใต้เครื่องให้ดี
    ความร้อนสะสมภายในเครื่องเป็นศัตรูตัวฉกาจของโน๊ตบุ้ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร้อนบริเวณใต้เครื่อง ซึ่งปกติตัวเครื่องจะเกือบถูกวางแนบไว้กับพื้นโต๊ะ ซึ่งทำให้มีช่องว่างเพียงนิดเดียวที่อากาศเย็นจากภายนอก จะสามารถไหลเวียนเข้าไปเพื่อพาอากาศร้อนใต้เครื่องให้ออกมาได้ จึงทำให้ความร้อนสะสมภายในเครื่อง สูงขึ้นตามลำดับ ซึ่งจะมีผลโดยตรงการอายุการใช้งานของชิ้นต่างๆภายในเครื่องในระยะ ผมจึงขอแนะนำให้หาฐานวางโน๊ตบุ้กมาใช้ เพื่อช่วยเพิ่มความไหลเวียนของอากาศบริเวณใต้เครื่อง ถ้าเป็นรุ่นที่มีพัดลมระบายอากาศได้ด้วยยิ่งดี และหลีกเลี่ยงการใช้งานโน๊ตบุ้กบนเตียงหรือบนเบาะนุ่มๆอย่างเด็ดขาด เพราะนั่นจะเป็นการตัดระบบการระบายความร้อนใต้เครื่องอย่างสิ้นเชิง

    2. อย่าเพิ่งปิดฝาเลยทันทีที่เลิกใช้
    ถึงแม้คุณจะได้ปฏิบัติตามข้อที่หนึ่งที่ช่วยลดความร้อนสะสมในตัวเครื่อง ในระหว่างที่ใช้งานไปแล้วการระบายความร้อนในช่วงที่ปิดเครื่องใหม่ๆก็มีความสำคัญเช่นกัน การปิดฝาเครื่องทันทีที่เลิกใช้จะทำให้ความร้อนที่เกิดระหว่างที่เปิด ใช้งานสะสมอยู่ในเครื่องนานกว่าที่ควรจะเป็นเพราะตัวมีเวลาไม่พอที่จะคลายความร้อนทั้งหมดออกมา ดังนั้นผมจึงขอแนะนำว่าหลังจากที่คุณใช้งานเสร็จ ให้คุณดึงปลั้กหม้อแปลงชาร์ตไฟออกตามปกติ แต่เปิดฝาเครื่องทิ้งไว้ประมาณ 3 – 5 นาที เพื่อให้เครื่องมีเวลาในการระบายความร้อน ในช่วงที่เปิดใช้งานให้หมดก่อน จากนั้นจึงค่อยปิดฝาเครื่องเพื่อป้องกันฝุ่นละอองต่างๆลงบนเครื่อง

    3. ห้ามถอดแบตเตอรี่อย่างเด็ดขาด

    หลายๆท่านคงเคยได้ยินคนบอกว่า ควรถอดแบตเตอรี่ออกจากเครื่องในระหว่างที่ใช้อยู่ในบ้าน เพื่อเป็นการถนอมอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ แต่ผมขอบอกว่านั่นเป็นความคิดที่ผิดมากๆ จริงอยู่การทำเช่นนั้นจะทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวขึ้น แต่นั่นก็เป็นการทำให้อายุการใช้งานของเครื่องโดยรวมสั้นลงเช่นกัน เพราะเมื่อมีเหตุการณ์ไฟตกหรือไฟดับ ตัวเครื่องก็จะหยุดการทำงานในทันทีโดยไม่มีการปิดเครื่องอย่างถูกต้องซึ่งนอกจากจะทำให้คุณสูญเสียงานที่กำลังทำอยู่แล้วยังเป็นอันตรายต่อชิ้นส่วนอย่างฮาร์ดดิสก์ในระยะยาวเป็นอย่างมาก ผมจึงขอแนะนำให้ห้ายถอดแบตเตอรี่อยู่เป็นประจำอย่างเด็ดขาด และเสียบใช้ไฟผ่านหม้อแปลงทุกครั้งที่มีโอกาสใช้ไฟจากปลั้ก

    4. การเสียบแจ๊ตชาร์ตจากหม้อแปลงไฟฟ้าให้ถูกต้อง
    บางท่านอ่านที่หัวข้อแล้วจะงงๆว่าการเสียบแจ๊ตชาร์ตไฟมีวิธีที่ถูกต้องและไม่ถูกต้องด้วยหรือ ผมบอกได้เลยว่ามี และถ้าไม่ระวังให้ดีจะมีผลให้ไฟช๊อตเมนบอร์ดของเครื่องได้ด้วย ซึ่งคงจะไม่ได้ทำให้เสียในทันที แต่จะมีผลในระยะยาวอย่างแน่นอน ไฟซ๊อตจะเกิดขึ้นตอนที่คุณเสียบแจ๊ตเนี่ยล่ะครับ คุณเคยสังเกตตอนที่คุณเสียบแจ๊ตชาร์ตไฟ กับตัวเครื่องมั้ยครับว่า บางครั้งจะเกิดประกายไฟขึ้นตอนที่เสียบ นั่นเป็นเพราะคุณเสียบ ไม่ถูกต้องนั้นเอง วิธีที่ถูกต้องคือตอนเปิดใช้ให้เสียบแจ๊ตที่ชาร์ตไฟจากหม้อแปลง ไฟฟ้าที่เครื่องก่อนแล้วค่อยเสียบปลั้กและตอนเลิกใช้ให้ถอดปลั้กไฟและรอให้ไฟที่ตัวหม้อแปลงไฟฟ้าดับก่อนแล้ว ค่อยถอดแจ๊ตออกจากตัวเครื่อง ด้วยวิธีการนี้จะทำให้ตัดโอกาสไฟช๊อตอันเกิดจากประกายไฟตอนที่เสียบหรือถอดแจ๊ตได้อย่างเด็ดขาด

    5. ก่อนเคลื่อนย้ายให้ปิดฝาเครื่องก่อน
    ปัญหาบานพับโน้ตบุ้กหักเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ผู้ใช้โน๊ตบุ้กต้องปวดหัวกันมาก ส่วนใหญ่จะโทษบริษัทผู้ผลิตที่ใช้วัสดุไม่ดี หรือออกแบบมาไม่ดีพอ แต่จริงๆแล้วปัญหาบานพับหักนี้มักจะเกิดจากการใช้งานไม่ถูกต้องเองมากกว่า เช่น การเปิดฝากหน้าจอไว้ในขณะยกเคลื่อนย้าย, การใช้มือเปล่าถือเครื่องไปโดยไม่ได้ใส่กระเป๋าให้เรียบร้อยก่อน เป็นต้น ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้ข้อต่อบานพับมีการขยับเขยือนมากกว่าที่ควรจะเป็น และเมื่อนานวันเข้าก็จะเริ่มแตกร้าวและหักได้ในที่สุด คุณสามารถป้องกันได้ง่ายๆด้วยตัวเอง ด้วยการปิดฝาเครื่องทุกครั้งก่อนที่จะยกเคลื่อนย้าย และหากต้องเคลื่อนย้ายไปไกลๆก็แนะนำให้เก็บเครื่องใส่กระเป๋าให้เรียบร้อยก่อน จะเป็นการป้องกันการแตกหักของบานพับได้ดีที่สุด

    6. ใช้งานช่องพอร์ต USB และ PCMCIA ในเครื่องเท่าที่จำเป็น
    ปกติการใช้งานช่องพอร์ต USB และ PCMCIA สำหรับการใช้งานอุปกรณ์เสริมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น USB Drive, TV Tuner Card, Wireless Network Card หรือ FireWire Card จะทำให้ซีพียูต้องทำงานมากกว่าปกติ และเมื่อซีพียูมีการทำงานมากขึ้น ความร้อนที่เกิดจากการทำงานของซีพียูที่มากขึ้นก็จะมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ความร้อนที่เกิดจากอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ยังทำให้ความร้อนสะสมภายในเครื่องเพิ่มสูงขึ้นไปอีกด้วย ซึ่งความร้อนสะสมที่มากกว่าปกติจะมีผลโดยตรงทำให้อายุการใช้งานของชิ้นส่วนต่างๆในเครื่องสั้นลงกว่าที่ควรจะเป็น ผมจึงขอแนะนำให้ใช้งานอุปกรณ์เสริมต่างเท่าที่จำเป็น ดึงออกทันทีที่ใช้เสร็จ และหลีกเลี่ยงการเสียบทิ้งไว้ตลอดเวลาที่เปิดเครื่องใช้งาน

    7. อย่าทิ้งแผ่นซีดี/ดีวีดีไว้ในเครื่องอย่างเด็ดขาด
    เผลอลืมใส่แผ่นซีดี/ดีวีดีทิ้งไว้ในเครื่อง เป็นการทำให้ไดร์ฟซีดี/ดีวีดีต้องทำงานมากกว่าปกติ เพราะต้องมีการอ่านข้อมูลทุกเครื่องที่มีการเปิดเครื่องขึ้นมา และต้องอ่านแผ่นเพิ่มขึ้นในหลายๆครั้งที่คุณเปิด Windows Explorer ซึ่งจะทำให้หัวอ่านของไดร์ฟซีดี/ดีวีดีต้องทำงานมากกว่าปกติ ซึ่งจะมีผลทำให้อายุการใช้งานของไดร์ฟซีดี/ดีวีดีสั้นลง ด้วยเหตุนี้ผมจึงขอแนะนำให้เอาแผ่นซีดี/ดีวีดีออกจากเครื่องทุกครั้งที่คุณใช้งานจากแผ่นเสร็จ และปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ



เวอไนน์ไอคอร์ส

ประหยัดเวลากว่า 100 เท่า!






เวอไนน์เว็บไซต์⚡️
สร้างเว็บไซต์ ดูแลเว็บไซต์

Categories