• June 8, 2017

    คำสั่งต่างๆใน google

    site:
    inurl:

    วิธีที่ 1

    พิมพ์คำเหล่านี้ ใน Google Search
    (1)
    ” parent directory ” /spectralab 4.3213/ -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
    (2)
    ” parent directory ” DVDRip -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
    (3)
    ” parent directory “Xvid -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
    (4)
    ” parent directory ” Gamez -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
    (5)
    ” parent directory ” MP3 -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
    (6)
    ” parent directory ” Name of Singer or album -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
    หมายเหตุ ให้คุณเปลี่ยน คำที่ตามหลัง parent directory เช่น MP3 Gamez appz DVDRip เป็นสิ่งที่คุณอยากได้ แล้วก้อค้นหา คุณจะพบกับ ความมหัศจรรย์ใน Google

    วิธีที่สอง
    พิมพ์คำต่อไปนี้ใน Google

    ?intitle:index.of? mp3
    จากนั้นแค่เพิ่มชื่อ เพลง อัลบั้ม นักร้อง ลงไป เช่น ?intitle:index.of? mp3 myfavoritesongs

    วิธีที่สาม
    พิมพ์คำต่อไปนี้ใน Google

    inurl:micr0s0f filetype:iso

    จากนั้น ก้อเปลี่ยน คำว่า micr0s0f กับคำว่า iso เป็นคำที่คุณต้องการ เช่น inurl:myc0mpany filetype:zip

    เพิ่มเติม————————-

    1.Google จะใช้ and (และ) อยู่ในประโยคเสมอ เช่น ค้นหา harvest moon back to nature Google จะค้นหาแบบ harvest AND moon AND back… (พูดง่ายๆคือค้นหาแบบแยกคำ)

    2. การใช้ OR (หรือ) คือการให้ Google หาข้อมูลมากขึ้นจาก คำA และ คำB (พูดง่ายๆ คือนำผลที่ได้ มารวมกันรวมกัน) วิธีใช้ พิมพ์ OR ด้วยตัวใหญ่ระหว่างคำที่ต้องการ เช่น vacation london OR paris คือหาทั้งใน London และ Paris

    3. Google จะละคำทั่วๆไป (เช่น the, to, of) และตัวอักษรเดี่ยว เพราะจะทำให้ค้นหาช้าลง แต่ถ้าคำพวกนั้นสามารถช่วยให้หาข้อมูลง่ายขึ้น ก็ต้องใช้เครื่องหมาย + ช่วยโดยนำไปอยู่หน้าคำนั้น (ต้องเว้นวรรคก่อนด้วย) เช่น back +to nature หรือ final fantasy +x

    4. Google สามารถกันขอบเขตการค้นหาให้เล็กลงด้วยการใช้ Advanced Search หรือ การค้นหา แบบพิเศษ ใน Google ภาษาไทย

    5. Google สามารถตัดคำพ้องรูปได้โดยใช้เครื่องหมาย – ช่วยโดยการนำไปอยู่คำที่จะตัด เช่น คำว่า bass มี 2 ความหมายคือ เกี่ยวกับปลา และดนตรีเราจะตัดที่มีความหมายเกี่ยวกับดนตรีออกโดยพิมพ์ bass -music หมายความว่า bass ที่ไม่มีคำว่า music นอกจากนี้มันยังสามารถตัดอย่างอื่นได้อีก เช่น “front mission 3″ -filetype pdf หมายความว่า เรื่องเกี่ยวกับ front mission 3 แต่ไม่แสดงไฟล์ PDF

    6. การค้นหาแบบทั้งวลี (คือการค้นหาทั้งกลุ่มคำ) ให้ใช้เครื่องหมาย ” ” เช่น “Breath of fire IV”

    7. Google สามารถแปลเว็บภาษา Italian, French, Spanish, German, และ Portuguese เป็น ภาษาอังกฤษได้ (โดยคลิ้กที่คำว่า “Translate this page” ด้านข้างชื่อเว็บ)

    8. Google สามารถหาไฟล์ในรูปแบบอื่นๆที่ไม่ใช่ HTML ได้ ประเภทไฟล์ที่รองรับคือ

    Adobe Portable Document Format (นามสกุลของไฟล์ pdf)
    Adobe PostScript (นามสกุลของไฟล์ ps)
    Lotus 1-2-3 (นามสกุลของไฟล์ wk1, wk2, wk3, wk4, wk5, wki, wks, wku)
    Lotus WordPro (นามสกุลของไฟล์ lwp)
    MacWrite (นามสกุลของไฟล์ mw)
    Microsoft Excel (นามสกุลของไฟล์ xls)
    Microsoft PowerPoint (นามสกุลของไฟล์ ppt)
    Microsoft Word (นามสกุลของไฟล์ doc)
    Microsoft Works (นามสกุลของไฟล์ wks, wps, wdb)
    Microsoft Write (นามสกุลของไฟล์ wri)
    Rich Text Format (นามสกุลของไฟล์ rtf)
    Text (นามสกุลของไฟล์ ans หรือ txt)

    วิธีใช้ filetype:นามสกุลของไฟล์ เช่น “Chrono Cross” filetypedf หมายความว่าเอกสารของ Chrono Cross ที่เป็น PDF และมันยังมีความสามารถดูไฟล์เหล่านั้นในรูปแบบของ HTML ได้ (โดยคลิ้ก View as HTML หรือ รูปแบบ HTML ใน Google ไทย)

    9. Google สามารถเก็บ Cached ของเว็บที่จะเข้าชมไว้ได้ (โดยคลิ้กที่ Cached หรือ ถูกเก็บไว้ ใน Google ภาษาไทย) ประโยชน์ของมันคือช่วยให้เราสามารถเข้าเว็บบางเว็บที่อาจโดนลบไปแล้ว โดยข้อมูลที่ได้เป็นข้อมูลก่อนถูกลบ (ใหม่สุดที่มันจะมีได้)

    10.Google สามารถค้นหาหน้าที่คล้ายกัน (โดยคลิ้ก Similar pages หรือ หน้าที่คล้ายกัน ใน Google ภาษาไทย) โดยจะค้นหาข้อมูลที่คล้ายๆ กันให้เรา เช่น ถ้าเรากำลังหาข้อมูลการวิจัย ความสามารถนี้จะช่วยให้หาข้อมูลได้มากมายในเวลาที่รวดเร็วโดยไม่ต้องเป็นห่วงเรื่อง keyword

    11.Google สามารถค้นหา link ทั้งหมดที่เชื่อมไปยังเว็บนั้นได้ วิธีใช้ link:ชื่อ URL เช่น link:www.google.com แต่คุณไม่สามารถใช้ความสามารถนี้ร่วมกับการหาแบบอื่นๆ ได้

    12.Google สามารถค้นหาเว็บที่จำเพาะเจาะจงได้ โดยพิมพ์ คำที่คุณต้องการเจาะจง site:ชื่อ URL เช่น ถ้าคุณต้องการหาเว็บเกี่ยวกับการเข้า (admission) มหาวิทยาลัย Stanford ให้พิมพ์ admission site:www.stanford.edu

    13.ถ้าคุณมีเวลาน้อย (และคิดว่าโชคดี) Google มีบริการการค้นหาด่วน (ชื่อบริการ I’m Feeling Lucky) โดยที่ Google จะนำเว็บที่อยู่ลำดับแรกของการค้นหา ส่งให้คุณเลย (link ไปเว็บนั้นให้เสร็จ) เช่น คุณต้องการค้นหาเว็บมหาวิทยาลัย Stanford อย่างด่วนให้พิมพ์ Stanford แล้วกด I’m Feeling Lucky หรือ ใช่เลย! เจอแน่ๆ ใน Google ไทย

    14.Google สามารถหาแผนที่ของสหรัฐอเมริกาได้โดยพิมพ์ ที่อยู่ ชื่อถนน พร้อมด้วยชื่อรัฐ เช่น 165 University Ave Palo Alto CA Google จะจัดการส่งแผนที่คุณภาพสูงมาให้คุณ

    15.Google สามารถหาเบอร์โทร (เฉพาะอเมริกา) หรือพิมพ์เบอร์โทรแล้วหาบริษัทได้โดยพิมพ์
    first name (or first initial), last name, city (state is optional)
    first name (or first initial), last name, state
    first name (or first initial), last name, area code
    first name (or first initial), last name, zip code
    phone number, including area code
    last name, city, state
    last name, zip code
    แล้วแต่ว่าคุณจะใช้แบบไหน

    คำสั่ง +
    เป็นการค้นหาคำศัพท์ที่ไม่รวมรากศัพท์ต่างๆ และกิริยา 3 ช่อง เพราะปกติเวลาที่คุณพิมพ์คำที่ต้องการค้นหากูเกิ้ล จะหาคำที่ใกล้เคียงมาให้ด้วย ซึ่งคำสั่งนี้จะใช้กับการค้นหาที่เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น เช่น running โดยไม่มีคำสั่ง + กูเกิ้ลจะค้นหาทั้งคำว่า running, run และคำที่ใกล้เคียงมาให้ถึง 477 ล้านเพจ แต่ถ้าใช้ + running จะเหลือการค้นหาเพียง 474 ล้านเพจ ลดการค้นหาลงไปตั้ง 3 ล้านเพจ
    คำสั่ง –
    เป็นคำสั่งที่ใช้ตัดคำที่ไม่ต้องการออกไป เช่น ‘vir9 -tips’ หมายถึงการค้นหาคำว่า ‘vir9’ แต่ไม่ให้แสดงหน้าที่มีคำว่า ‘tips’
    คำสั่ง “…”
    เป็นการค้นหาคำที่สมบูรณ์ เช่น ‘vir9 tips’ หากไม่ใส่เครื่องหมาย “…” จะเป็นการค้นหาคำว่า vir9 และ tips

    คำสั่งพิเศษ
    เป็นคำสั่งที่เจาะลึกรายละเอียดการทำงานไม่ว่าจะเป็นการหาข้อความในส่วนของ Title Bar, ที่อยู่เว็บไซด์ (URL) ข้อความและลิงก์ ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้

    intitle:
    เป็นคำสั่งที่ใช้ค้นหาชื่อเว็บที่มีคำที่ต้องการค้นหา เช่น ‘intitle:vir9’ คำสั่งนี้จะค้นหาเฉพาะเพจที่มีชื่อ title ข้างบนที่มีคำว่า jasmine เท่านั้น
    inurl:
    เป็นคำสั่งนี้จะใช้สำหรับเจาะจงไปว่า เว็บที่โชว์ จะต้องมีคีย์เวิร์ดอยู่ เช่น inurl:vista คำสั่งนี้ จะโชว์เว็บทีมีคำว่า vista อยูใน URL ไม่ว่าจะเป็น Address ของเว็บนั้น หรือเว็บไซต์อื่นที่ปรากฏอยู่ในหน้าเพจนั้นๆ ซึ่งเราอาจจะเพิ่มคำที่ต้องการลงไปได้ เช่น inurl:vista windows ผลก็คือ กูเกิ้ลจะโชว์หน้าเว็บที่มี address ที่มีคำว่า vista อยู่ ส่วนคำว่า windows จะอยู่ตรงไหนของหน้าเว็บก็ได้
    site:
    เป็นคำสั่งที่กำหนดเฉพาะว่า ให้กูเกิ้ลจะต้องหาข้อมูลในเว็บนี้เท่านั้น เช่น site:www.vir9.com จะหมายถึงหาเฉพาะเพจที่อยู่ในเว็บ www.vir9.com เท่านั้น

    filetype:
    เป็นคำสั่งใช้ค้นหาประเภทของไฟล์ที่ต้องการ เช่น filetype:pdf intel E8400 จะหมายถึงการค้นหาไฟล์ PDF ที่มีข้อมูลของ Intel E8400

    link:
    เป็นคำสั่งใช้ในการค้นหาหน้าเว็บที่ลิงก์มายังเว็บไซด์ที่คุณระบุไป เช่น link:www.vir9.com ซึ่งคำสั่งนี้จะทำให้เราสามารถรู้ได้ว่ามีเว็บไหนลิงก์มาที่เว็บของเราบ้างถือเป็นการตรวจสอบเว็บไปในตัว
    inanchor:
    เป็นคำสั่งใช้สำหรับหาคำหรือคีเวิร์ดที่ถูกลิงก์ ‘inanchor:vir9’ เป็นการค้นหาคำว่า ‘vir9’ ว่ามีการลิงก์ไว้ที่เว็บใดบ้าง
    cache:
    เป็นคำสั่งที่ใช้ค้นหา Cache หรือหน่วยความจำเกี่ยวกับที่กูเกิ้ลเก็บไว้ เช่น cache:www.vir9.com แต่บางครั้งก็อาจจะไม่ต้องกับที่ต้องการเท่าไหร่นัก หากจะใช้คำสั่ง Cache ให้ค้นหาหน้าเว็บจากหน้ากูเกิ้ลปกติ แล้วคลิกที่ “หน้าที่ถูกเก็บไว้” หรือ Cached จะดีกว่า
    info:
    เป็นคำสั่งมีไว้เพื่อให้กูเกิ้ลทำการสรุปข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซด์ที่ต้องการออกมา ซึ่งเราสามารถพิมพ์ชื่อเว็บแบบเต็มหรือระบุเฉพาะหน้าเพจก็ได้ เช่น info:www.vir9.com



เวอไนน์ไอคอร์ส

ประหยัดเวลากว่า 100 เท่า!






เวอไนน์เว็บไซต์⚡️
สร้างเว็บไซต์ ดูแลเว็บไซต์

Categories