พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล (Web Storage)
ขนาดพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล ต้องพอเพียงกับข้อมูลของ Web Site เว็บไซต์ทางธุรกิจทั่วไป ที่มีภาพและข้อมูล หากมีข้อมูลเป็นจำนวนมาก เช่น ข้อมูลรูปภาพ หรือไฟล์เอกสารต่างๆ ที่จะเปิดให้ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดได้หลายรายการ และแต่ละไฟล์มีขนาดใหญ่ ท่านจะต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลเยอะขึ้น เช่น ไฟล์ภาพขนาด 1MB สามารถเก็บบนโฮสติ้งขนาด 1,000 MB ได้จำนวนภาพ 1,000 ภาพ เป็นต้น
จำนวน Data transfer (ปริมาณข้อมูลที่ถูกส่งออกมาจากเว็บของคุณ)
โดยเว็บไซต์ส่วนใหญ่จำนวน 98% จะใช้ data transfer ไม่เกิน 2-5 GB ต่อเดือนเท่านั้น
Hosting ของคุณจะตั้งอยู่ในประเทศ (Local) หรือต่างประเทศ (Inter)
กลุ่มเป้าหมายของเว็บของคุณที่จะเข้ามาที่คุณคือใคร ถ้าเป็นลูกค้าในประเทศ ก็ควรเลือก Hosting ที่ตั้งอยู่ ในประเทศ เพราะเวลาลูกค้าคุณกดดูข้อมูลในเว็บไซต์คุณ ก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่า แต่หาก ลูกค้าคุณเป็นลูกค้าต่างประเทศ ก็ควรเลือก Hosting ที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ จะได้รวดเร็วกว่าที่จะต้องเข้ามา ดูข้อมูล ที่เก็บไว้ที Hosting ในเมืองไทย
เว็บของคุณจะใช้โปรแกรมภาษาอะไรในการพัฒนา
เว็บไซต์คุณมีการใช้ Web Programming ใน การทำเช่น เว็บบอร์ด , โปรแกรมส่งเมล์หาสมาชิก (Mailing List), หรือ โปรแกรมการเก็บฐานข้อมูล (Database) คุณควรจะตรวจสอบกับทางผู้ให้บริการ Hosting ว่า Server ของเค้าเป็น OS อะไร ถ้าหากเป็น Windows ก็สามารถใช้กับ ภาษาในการเขียนโปรแกรมได้แก่ ASP, PHP, Perl ได้ แต่หากเป็น Unix ก็จะสามารถใช้ได้แค่ PHP, Perl เท่านั้น และกรณีที่คุณมีการใช้งานฐานข้อมูล (Database) คุณต้องตรวจสอบด้วยว่า ผู้ให้บริการ Hosting รองรับ Database ที่ท่านใช้หรือไม่ เช่น MySQL, MS SQL Server, MS Access
ระบบจัดการ Web Hosting หรือ Control panel
ควรเลือกระบบจัดการ Web Hosting ที่มีความง่ายและยืดหยุ่นพอ สำหรับการควบคุมและดูแลเว็บไซต์ตลอดจนอีเมล์ของคุณ โดยทั่วไป Web hosting ควรมีบริการ Control Panel ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงหรือมี Feature ในการใช้ Email, DNS, FTP, Site statistics, CGI เป็นต้น ซึ่งจะมีหลายค่าย เช่น Cpanel, Direct Admin, Ensim
ระบบ Backup ข้อมูล
Web Hosting ที่ดีควรมีระบบสำรองข้อมูล(Backup) เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจนข้อมูลของ Web Site สูญหาย
ความน่าเชื่อถือและบริการหลังการขาย ของ Host